จากกระทู้นี้ https://www.soccersuck.com/boards/topic/2425285 ในอนาคตรัฐบาลคงมีการจัดการเรื่องที่ดินรกกร้างเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ

พอดีพ่อแม่ผมมีที่ดินแปลงนึงสำหรับปลูกบ้านอยู่ในโครงการหมู่บ้านที่นึง แต่แทบจะเป็นโครงการร้างมีบ้านอยู่ 4-5 หลัง จากที่ดินเป็นร้อยแปลง ตอนนี้เสียภาษีเป็นที่ดินรกร้างอยู่ อยากทราบว่าเงื่อนไขต่ำสุดที่จะไปขอยื่นเปลี่ยนอัตราภาษีเป็นที่ดินเพื่ออยู่อาศัย ต้องมีอะไรบ้างครับ พอดีที่ดินอยู่ไกลบ้าน จะปลูกต้นไม้ก็ไม่สะดวกที่จะไปดูแล

ถ้าเทปูนก่ออิฐขึ้นมาเป็นกระต้อบโง่ๆ จะไปขอทะเบียนบ้านและยื่นขอจ่ายภาษีในเรทที่ดินเพื่ออยู่อาศัยได้หรือยัง พอดีหาข้อมูลเจอแต่เรื่องเปลี่ยนเป็นที่ดินเกษตร

ที่ดินของคุณคงจะเป็นโฉนด (ใช่ไหมครับ)
เพราะถ้าเป็นที่ดินประเภทอื่น เช่น สปก, นส.3, ท.ค.
มันจะเสียภาษีตั้งแต่บาทแรกเช่นกัน

ส่วนอันนี้คืออัตราภาษี
1.เกษตรกรรม 0.01%
ประเมินมูลค่าที่ดินไม่เกิน 50 ล้านบาท
***ได้รับการยกเว้นภาษี(ไม่เสียภาษี)
ัตัวอย่างการเกษตร
- กล้วย 200ต้น/ไร่
- มะม่วง 20ต้น/ไร่

2.ที่อยู่อาศัย 0.02%
(มีชื่อเป็นเจ้าของที่ดิน และ มีชื่อเป็นเจ้าของบ้าน)
ประเมินมูลค่าที่ดินรวมกับสิ่งปลูกสร้าง(บ้าน)
ไม่เกิน 50 ล้านบาท
***ได้รับการยกเว้นภาษี(ไม่เสียภาษี)

3.ที่อยู่อาศัย 0.02%
(ไม่มีชื่อเป็นเจ้าของที่ดิน แต่ มีชื่อเป็นเจ้าของบ้าน)
ประเมินมูลค่าที่ดินรวมกับสิ่งปลูกสร้าง(บ้าน)
ไม่เกิน 10 ล้านบาท
***ได้รับการยกเว้นภาษี(ไม่เสียภาษี)

4.อื่นๆ(ร้านค้า, โรงงาน) 0.3%

5.ที่ว่างเปล่า 0.3% คุณเสียภาษีอัตรานี้อยู่

ถ้าคุณสะดวกแนะนำให้ไปติดต่อที่ อปท.(เทศบาล, อบต)
ขอคำแนะนำการใช้ประโยชน์ดีกว่าครับ
น่าจะให้ความชัดเจนได้ดีกว่า

ที่ดินเป็นโฉนดครับ เรื่องติดต่อไปถามเจ้าหน้าที่นี่ไม่มีปัญหาครับ เพียงแต่อยากได้แหล่งอ้างอิงหรือเพื่อนสมาชิกที่เคยยื่นขอเปลี่ยนประเภทภาษีที่ดินมาแชร์ประสบการณ์ เพราะถามเจ้าหน้าที่เนี่ยแทบไม่มีอะไรยืนยันได้เลยว่าถูก คนนึงบอกแบบนี้ พอทำจริงเสร็จไปเจออีกคนบอกแบบนี้ผิด คือจบเลยเสียตังเสียเวลาฟรี

1.ที่ดิน จขกท.มีกี่ไร่
2. ถ้าจะประหยัดภาษีต้องให้นายช่างเทศบาลท้องที่เขียนแบบแปลน ประมาณ6000 พื้นที่ 4×6 เมตร แล้วก็สร้าง เรียกว่า คสล.(อาคารเสริมเหล็ก) แล้วก็สร้างแบบประหยัดเงิน ตามแบบ คสล.
3. สร้างประมาณ 60% เรียกเจ้าหน้าที่มา ตรวจเพื่อจอทะเบียนบ้านเพื่อขอเป็น***ประเภทที่อยู่อาศัย เสียภาษีหลักร้อยบาท***
4.ถ้าติดถนนใหญ่ จะเนียนทำเรื่องไม่ผ่าน เพราะเป็นเชิงพานิช. ปล.ผมเพิ่งเสร็จเรื่องนี้ผมโดนเชิงพานิช 0.3 ของราคาประเมิณ

ที่มีปัญหาแบบนี้ เพราะมันเป็นภาษีรูปแบบใหม่
และระบบการประเมินเปลี่ยนแทบทุกปี
แถมระเบียบต่างๆ(กฎหมายลูก)ไม่ชัดเจน
มันเลยมีปัญหาแบบที่คุณกล่าวมาว่า..
ถามคนนี้ก็บอกแบบนี้ ถามคนนั้นก็บอกอีกแบบ
มันกลายเป็นว่าขึ้นอยู่กับความเข้าใจของผู้ประเมิน
ตัวอย่าง.. อย่างการทำการเกษตร
ระเบียบก็ระบุว่า ถ้าปลูกกล้วยต้องปลูก 200ต้น/ไร่
ซึ่งในความเป็นจริงคงไม่มีใครมาเดินนับที่ละต้น
หรืออย่างที่อยู่อาศัย ถ้าคุณมีที่ดิน 1 ไร่
สมมติสร้างบ้าน 6x6 ม. ก็แปลว่าคุณใช้งานที่ดิน
ไปแค่ 9 ตร.วา เหลือพื้นที่ใช้สอยอีก 391 ตร.วา
ที่นี้อยู่ที่ผู้ประเมินละครับว่า.. เขาจะตีพื้นที่ที่เหลือ
เป็นบริเวณที่อยู่อาศัย หรือ ที่ว่างเปล่า
แต่ถ้าให้ผมแนะนำคือ พื้นที่ที่เหลือปลูกไม้ผล
พวก มะม่วง(20/ไร่), มะขาม(25/ไร่) แต่ไม่จำเป็น
ต้องถึงจำนวนดังกล่าว อาจจะปลูก 10-15 ต้น
และแจ้ง อปท. ว่าเป็นที่อยู่อาศัย และ ปลูกไม้ผล
ประมาณนี้ครับ

ที่ดินไม่ได้ใหญ่ขนาดนั้นครับ แค่ประมาณ 140 ตรว. แล้วก็ไม่ได้ติดถนนใหญ่ด้วยครับไม่มีปัญหาเรื่องเชิงพาณิชแน่นอน

ถ้าตามที่ท่านบอกสร้างอาคาร คสล. ขนาด 4*6 ต้นทุนน่าจะคุ้มกับภาษีในระยะยาว แต่อันนี้จำเป็นต้องให้นายช่างเทศบาลท้องที่เขียนแบบแปลนด้วยหรอครับ ตอนแรกผมกะสร้างเป็นอาคารโง่ๆเลย ไม่แบ่งห้อง ไม่ขอน้ำ ไฟ ไว้ด้วยซ้ำเพราะมีโอกาสโดนขโมย ถ้าโดนตรวจละเอียดแบบท่านบอกน่าจะไม่ผ่าน

เอาจริงผมก็กลัวเรื่องไม่ชัดเจนนี่แหละครับ ชั่งใจอยู่เหมือนกันว่าจะทำเลยหรือรอดูอีกซักปีสองปี เพราะก็เริ่มได้ยินอยู่เหมือนกันว่าช่วงนี้วงการอสังหาแย่มากอาจจะมีอะไรมากระตุ้น อย่างการลดภาษีที่ดิน ไม่ก็ผ่อนปรนเรื่องต่างชาติถือครองที่ดิน ถ้าเป็นอย่างแรกสร้างอาคารขึ้นมาอาจจะไม่คุ้ม ถ้าเป็นอย่างหลังก็อาจจะหาทางขายไปเลยดีกว่า

1.ปี2564 2565 2566 เสียภาษีเท่าไหร่ ครับ ถ้าหลัก ร้อย ก็เฉยไม่ต้องทำอะไร
แสดงว่าเป็นประเภทที่อยู่อาศัย ถูกที่สุดอยู่แล้วนะ

ถ้าทำแบบง่อยๆ ค่าเขียนแบบไม่น่าจะแพงเท่าไหร่ ลองดู

ของผมผิดเป็นประสบการณ์ เขียนแบบ 6000 บาท แต่เปลี่ยนใจสร้างแบบง่อยๆเพราะจะประหยัด(ไม่ได้อยู่ จะประหยัดค่าภาษี) แบบที่เขียนก็เลยไม่ตรง ส่วนที่สร้าง เลยต้องเขียนแบบใหม่ โดนเชิงพานิชด้วย

ถ้าที่ดินไม่เยอะ แนะนำปลูกไม้ผลดีกว่าครับ
ผมว่าดีกว่าต้องเสียภาษีอัตรา 0.3% ต่อปี
เและตาม พ.ร.บ. มันสามารถปรับขึ้นอัตราได้ทุกปี
ในกรณีไม่ได้ใช้ประโยชน์ แต่รวมแล้วไม่เกิน 3% ครับ

โอเคครับ ขอบคุณมาก เป็นวิทยาทานที่ดี เดี๋ยวผมลองเข้าไปคุยที่เทศบาลดู เพราะดูแล้วยังไงก็คงต้องสร้าง


ปี 66 มีส่วนลด 15% เสียภาษีไป 4,500 ปีนี้ถ้าราคาเต็มก็ราว 6,000 และปีหน้าน่าจะขึ้นอีกเท่าตัวละ เนื่องจากเป็นที่รกร้างมา 3 ปี

เรื่องปลูกต้นไม้คงตัดออกเลยอะครับ เพราะเคยคุยกับเจ้าของที่แปลงอื่นในหมู่บ้านแล้ว เค้าเคยลงต้นมะม่วงไว้ บอกผ่านไปเดือนเดียวหายหมด โดนแอบขุดไปเรียบ ถ้าจะปลูกต้องมีคนเฝ้า ผมสะดวกเข้าไปดูที่แค่2-3 เดือนครั้ง แถมบางปีที่ฝนหนักหน่อยน้ำท่วมอีกครับ หน้าร้อนก็แล้ง ถ้าไม่มีคนอยู่ประจำต่อให้ไม่โดนโขมยก็ไม่น่ารอด

แล้วถ้าเป็นต้นกล้วยละครับ
เพราะถ้าสร้างที่อยู่อาศัย ผมมองว่าไม่คุ้มสำหรับคุณ
เพราะมีค่าใช้จ่ายเยอะ และถ้าเกิดน้ำท่วม
อาจทำให้สิ่งปลูกสร้างเสียหายอีก

ถ้าเป็นกล้วยคงไม่โดนขโมยหรือตายจากน้ำท่วม แต่คงต้องคอยจ้างคนมากำจัดวัชพืชและรดน้ำช่วงหน้าร้อน เทียบกับสร้างบ้านปูนถ้าอยู่ได้เฉียดๆ 10ปี ค่าใช้จ่ายต่อปีอาจจะมากกว่าปลูกบ้านไว้อะสิครับ

ผมเองก็ไม่แน่ใจว่า อปท. ที่นั้น
เขาเคร่งครัดเรื่องการสำรวจแค่ไหนนะครับ
เพราะจากระเบียบสามารถออกสำรวจทุกๆ 4 ปีครั้งได้
แต่บ้างพื้นที่ก็ออกสำรวจทุกปีเช่นกัน
เพื่อปรับปรุงภาษีและทำการประเมินใหม่
ดังนั้น การสร้างที่อยู่อาศัยก็เป็นทางเลือกที่ดีครับ
เพราะคงทนถาวร หรือ ถ้าเสียหายจากน้ำท่วม
ก็สามารถอ้างอิงและยื่นคำขอลดหย่อนภาษีได้ครับ
(ในกรณีอนาคตมีการเปลี่ยนแปลงการใช้ภาษี)