[RE: ชาว SS เงินเดือน 100,000+]
Zalmon พิมพ์ว่า:
ผมแนะนำหลายๆคนที่มีโอกาสนะ ให้ลองทำธุรกิจโดยเริ่มต้นด้วยทุนน้อยที่สุด หรือไม่ก็ศึกษาเรื่องการเงินดีๆ ผมว่าคนส่วนใหญ่ ถ้าชีวิตไม่ได้เกิดมาลำบาก หมายถึงเกิดมามีเงินไปโรงเรียน ไปเรียนพิเศษบ้าง เที่ยวสยาม มีสังคมปกติเป็นค่าเฉลี่ยเนี้ยโอกาสสูงที่จะขาดความรู้ด้านการใช้เงิน ที่เราหาเงินได้เยอะๆแล้วมันไม่รู้สึกรวยขึ้นนั้นมันอยู่ที่ตัวเราล้วนๆ เพราะพอเราได้เงินเยอะ เราก็อยากได้นั้นอยากได้นี้มาให้สมกับฐานะเรา บอกตรงๆผมดูญาติๆผมที่มาสายนี้ก็ได้ หลายๆคน เอาง่ายๆตั้งแต่เกิดไม่เคยลำบากเลย พอเรียนจบพ่อแม่หยุดให้ตังค์จริง แต่ไปทำงานก็ start 20-30k แล้ว เงินมันเลยไม่ขาดมือ คนที่จะรู้คุณค่าเงินที่สุด คือคนที่้มันเคยขาดและเข้าใจว่าความจนแม่งน่ากลัวแค่ไหน
แต่อันนี้ผมบอกตรงๆผมเข้าใจได้นะ เพราะค่าสังคม ความสวยหรูของโลกใบนี้ เงินเดือน1แสนของไทยมันไม่ตอบโจทย์อะ ใครๆก็อยากไปเที่ยว ski resort ใช้iphone ขับรถหรู บ้านสวยๆ สบายๆหน่อย แต่ถ้าคุณอยากรวยจริงๆ ใช้ชีวิตให้มัน leanที่สุด เราถึงสังเกตุเห็นคนรวยที่ทำงานจริงๆไม่ใช่คนรวยจากสมบัติ ส่วนใหญ่ ขับรถปกติ หรือแต่งตัวทั่วไป เพราะเขาไม่ได้มาโฟกัสที่จุดนี้ แต่มนุษย์ทั่วไปอย่างเราๆ พอได้เงินเยอะขึ้นมันเหนื่อยมันก็เลยไปประโลมตัวกับสิ่งของนอกกาย ผมว่าคนเราถ้าเป้าหมายอยากรวยจริงๆ จะไม่ซื้อบ้านซื้อรถให้เข้ามาเป็นหนี้หนัก เพราะผมเชื่อว่าบ้านคุณไม่น่าใช้หลังแรก และรถไม่น่าใช่คันแรก ถ้าใช้ชีวิตแบบตอนเงินเดือน20,000ได้เดี้ยวก็รู้สึกเงินเหลือเอง
ปล เอาจริงๆถ้าเอาอยู่ กทม นะ ไม่ได้หวังจะลงอ่างทุกวัน เที่ยวเมืองนอกปีละครั้งสองครั้ง เล่นgadget ใหม่ๆที่เข้ามาทุกชิ้น ผมว่า 50,000 นี้น่าจะใช้สบายๆ ถ้าไม่ take debt หนักๆอย่างบ้านหรือรถแพงๆเข้ามา ผมให้เช่า คอนโดเดือนละ15,000เลย ผ่อนรถอีกสัก15,000 กิน จิปาถะ อีก 20,000 เหลือๆ ถ้ามีเมียตั้งใจจะรวยกันจริงๆผมว่า สองคนต่อให้ได้แสน ใช้เงินละ75,000 ก็น่าจะอยู่ คนไทยถ้าหวังเที่ยวต่างประเทศฟินๆจริงๆ ผมว่าพนักงานบริษัทถ้าบ้านไม่รวยมาก่อนหนักจริง เพราะฐานเงินมันน้อยยิ่งเทียบกับค่าครองชีพ ยุโรปหรือเมกา
จริงเลย ผมเคยตกอับมาก่อนนะ ตกงานช่วงนึง ไม่มีเงินกินข้าว ต้องบากหน้าขอพ่อแม่
(ใช่ ที่บ้านผมพอมี ต่อให้ลำบากก็ยังพึ่งพาได้)
แต่พอเริ่มได้งานดี มั่นคง เงินขึ้นทุกปี โบนัสจุกๆ มีธุรกิจเข้ามาเสริมอีก
มีตังใช้ไม่ขาดมือแล้วมันเสียนิสัย ไม่ค่อยเก็บ
เอาจริงๆ วัยผม 30 กลางๆ ที่เริ่มมีเงินเหลือๆ น่าจะเจอปัญหาคล้ายๆกันเยอะ
อ่านเม้นแล้วก็เริ่มสะกิดเหมือนกัน