เห็นหลายๆเม้นไปทางเทียบกับรถยุโรป ลดราคา แต่ส่วนตัวคิดว่าคนที่ซื้อส่วนใหญ่มันกลุ่มเดียวกับที่ซื้อรถ ญป แหละ รถบ้านราคาแถวๆ 1ล ไม่ใช่แบบรถยุโรปที่คนซื้อป้ายแดงคือคนมีเงินระดับนึงแหละ ไม่ได้ซีอะไรมากเท่าคนที่รถเป็นทรัพย์สินใหญ่มากในชีวิต

แล้วผมว่าส่วนนึงใช้แล้วก็มีขายต่อในอนาคตเพื่อเปลี่ยนคันใหม่ ซึ่งมูลค่ามันก็ตกอ่ะใช่ แต่ราคาต้นตกแบบนี้ มูลค่ามือสองมันยิ่งตกเยอะตาม

แฟนผมก็ออก HRV นางบ่นยับอะ เพราะผมบอกว่าอยากซื้อก็ซื้อไปเลย รถใหม่เจ้าตลาดเค้าไม่ลดอะไรหรอก

พอรถจีนมา ฮอนด้าออกโปรลับ ลดกันเป็นแสน ใครจะไปรู้ฟระ

รถที่ราคาขึ้นคือ พวกรถแคมป์ปิ้ง ของ ตปท อ่ะ อย่าง fj ของโตโยต้า ทุกวันนี้ราคาขึ้นเอาๆ ไหนจะพวกรถสปอร์ตเก่าๆ อย่าง skyline อีก ถ้าไม่อยากเสียมูลค่า ขับน้ำมันต่อสิครับ 555+

รถไฟฟ้าก็เหมือนมือถือ รุ่นใหม่ออกมา ตัวเก่าก็ลดราคาเป็นเรื่ิองปกติ

ธรรมดา เพิ่มยอดเอนเกท โดยเฉพาะกลุ่มที่เปิดสาธารณะ

ซื้อรถมาขับหรือว่าซื้อมารอขายต่อล่ะ พวกที่ออกมาร้องส่วนมากจะกลัวเรื่องราคาขายต่อ กลัวขายไม่ออกหรือขาดทุนยับเกินไป แต่อย่างลืมว่าพวกรถ EV มันคือสินค้าเทคโนโลยี รุ่นใหม่ออก รุ่นเก่าราคาลงยับอยู่แล้ว

ลดยังไงครับ สมมุติ 1,000,000 ลดรอบแรกเท่าไหร่ แล้วล่าสุดลดอีกเท่าไหร่ครับ

ผมจำไม่แม่นนะว่าเท่าไหร่ แต่เหมือนตอนแรกจะแตะล้านมั้ง แล้วลงมา 899 แล้วนี่ยังลงไปอีก น่าจะทรงเน้นขายไม่เน้นซ่อมบำรุง

ขอบคุณครับ จุกเลยคนออกรอบแรก

อย่างที่เค้าว่านั่นแหล่ะ ซื้อก่อนประหยัดก่อน ซื้อที่หลังประหยัดกว่า ไม่ซื้อเลยน่าจะประหยัดสุด

ผมอยู่ครับ เรื่องแบบนี้ มันคนละมุมมอง นานาจิตตัง ความคุ้มของแต่ละคนไม่เท่ากัน
ในมุมของผม จริง ๆ แล้วรากเหง้าของมันคือ ยานพหนะ พาจากอีกจุดนึง ไปยังอีกจุดนึง แค่นั้น
ไม่ใช่หลักทรัพย์​ที่ซื้อแล้ว จะแพงขึ้น หรือ คงอยู่ไม่สลายแต่ประการใด

ถ้ามันจะเปลี่ยนโฉมน่ะเข้าใจได้ครับ โละเพราะมันจะตกรุ่น

แต่อยู่ๆมาลดไปเลยมันเสียความรู้สึก

ที่ดราม่าก็น่าจะสาวกบางคน(อวย)บอกว่าค่าไฟถูกเฉลี่ยๆกิโลเมตรละ 50 สตางค์ ถูกกว่าน้ำมันซึ่งรถน้ำมันจะมีเรท 2-4 บาท/กิโลเมตร
แต่พอประกาศลดทีละ 100,000 ชาวเน็ตเค้าถึงบอกว่าขับให้ได้ 200,000 กิโลก็คุ้มแล้ว
แต่ตอนนี้ลดเรื่อยๆ มากกว่า 100,000แล้ว รถทัวร์เลยยังตามมาดราม่าแหละ