ไล่ดาโลท์!!’หงส์’ พับทั้งเกมเจาะไม่เข้าเจ๊าผี 0-0
BLOG TOPIC_A
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email:
sale@soccersuck.com
โปรโมชั่นลดจากเดิม 30% (ไม่รับโฆษณาผิดกฏหมายทุกประเภท)
คอพับคออ่อนกันเป็นแถวสำหรับเดอะ ค็อปหลัง ลิเวอร์พูล ที่เป็นต่อบานเบอะและพับสนามบุกอย่างหนักแต่เกมรุกวันนี้ผิดฟอร์มเจาะ แมนฯยูฯ ไม่เข้าเจ๊า 0-0 โดยทีมเยือนเหลือ 10 ตัวท้ายเกมหลัง ดาโลท์ โดน 2 เหลืองแต่ในท้ายที่สุด “หงส์แดง” เสียสถิติชนะ 100 ในบ้านหล่นมาที่ 2 เรียบร้อย
ลิเวอร์พูล
Starting Formation: 4-3-3
66.
เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์
8.5
8.
โดมินิก โซบอสซ์ไล

61'
6
38.
ไรอัน กราเฟนแบร์ค

61'
6
7.
หลุยส์ ดิอาซ

78'
6.5
9.
ดาร์วิน นูนเญซ

78'
6
ตัวสำรอง
2.
โจ โกเมซ

61'
6
17.
เคอร์ติส โจนส์

78'
6
19.
ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์

78'
6
18.
โคดี้ กัคโป

61'
6
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
สนาม แอนฟิลด์
อาทิตย์ที่ 17 ธันวาคม 2566
กรรมการ ไมเคิ่ล โอลิเวอร์
ลิเวอร์พูล
0
0
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
สภาพทีมนักเตะเจ็บเยอะทั้งคู่ ลิเวอร์พูล ส่งวาตารุ เอ็นโด กับไรอัน กราเฟนแบร์ค ลงประจำแดนกลางหลังอเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ หายเจ็บไม่ทัน แนวรุก โม ซาลาห์, ดาร์วิน นูนเญซ และหลุยส์ ดิอาซ ส่วนแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ข่าวดี ลุค ชอว์ เรียกฟิตกลับมายืนแบ็คซ้าย โดยจอนนี่ อีแวนส์ ได้ออกสตาร์ตแทนแฮร์รี่ แม็คไกวร์ ขณะที่แดนกลาง ค็อบบี้ ไมนู สตาร์ตตัวจริง แนวรุกชุดเดิม ราสมุส ฮอยลุนด์, แอนโทนี่ และอเลฮานโดร การ์นาโช่ โดยมีชื่อของมาร์คัส แรชฟอร์ด ที่หายป่วยเป็นสำรอง
หงส์เร่งเครื่องบุกใส่เลย
ลิเวอร์พูล พับสนามก่อนเลย ซาลาห์เก็บตกเตะมุมทางเสาไกลแล้วพยายามดีดสวนกลับมานูนเญซพุ่งเข้าชาร์จมุมก็ไม่มีแล้วบอลหลุดออกหลังไปก่อน
การ์นาโช่ได้ช่องปั่นยังห่างไกล
ยูไนเต็ด ตอบโต้ขึ้นมาบ้าง แม็คโทมิเนย์ไหลให้ การ์นาโช่ ลากหาช่องยิงหน้ากรอบเขตโทษก็โดนไม่ดีซัดออกหลังไปเอง
โอนาน่าจับกบหนึ่งดอก
หงส์แดง ได้ลุ้นเลย เทรนท์หลุดไปเปิดทางขวาบอลเลยไปที่เสาไกล นูนเญซโหม่งชงเข้ามาจะให้ดิอาซแต่ไปชนกับกราเฟนแบร์ค โอนาน่าพุ่งออกมารับวืด ซาลาห์ยิงซ้ำไปแฉลบโอกนาน่าออกหลังไป
หนูนเกเรโดนจดชื่อ
นูนเญซออกลูกเกเรวิ่งไปเอาไหล่ชนหน้าอกของอีแวนส์จังหวะบอลยาวทำให้เสียฟาวล์แล้วไปบ่นเยอะโดนใบเหลืองไปอีก
โอนาน่าเซฟ!VvD โขกเต็มยังไม่ได้
เตะมุมทางขวาของเจ้าถิ่น เทรนท์ เปิดมากลางประตู ฟาน ไดจ์ค โขกเต็มหัวบอลจะเสียบใต้คานแล้วแต่โอนาน่ายืนอยู่ปัดทิ้งไปก่อน
หงส์มาเรื่อยๆ โคนาเต้โขกโด่งเกิน
ฟรีคิกของลิเวอร์พูล วารานโขกเคลียร์ออกมาไม่พ้นเข้าทางกราเฟนแบร์คยิงสวนนอกกรอบแต่ไปติดไมนูก่อนบอลออกหลังไป แล้วจากเตะมุม โคนาเต้ก็ยังกดไม่ลง
บังโมยิงเบาหวิว
เอ็นโดไหลออกขวาให้กราเฟนแบร์ค ลากบอลมาก่อนไหลเรียดเข้ากลาง ซาลาห์จับได้ก่อนยิงด้วยซ้ายแต่เบาเกินไปโอนาน่ารับสบาย
TAA เติมมายิงเข้าหน้าต่าง
ซาลาห์ไปเก็บบอลเสาสองก่อนไหลให้เทรนท์เติมมาไม่ยิงลากก่อนสองจังหวะแล้วซัดเสาแรกเข้าหน้าต่างเท่านั้น
การ์นาโช่หลุดลื่นก่อนยิง
ไมนูแทงบอลทะลุช่องให้การ์นาโช่หลุดแล้วแต่จังหวะยิงมีเทรนท์ตามมาเบียดไว้ทำให้สุดท้ายบอลลั่นไม่ได้ยิงบอลเข้ามืออลิสซอน
JK ปรับ 2 ดันเทรนท์ยืนกลาง
คล็อปป์ เปลี่ยนแล้วเอากราเฟนแบร์คที่เจ็บออกไปพร้อมกับโซบอสซ์ไล แล้วส่งโคดี้ กัคโปและโจ โกเมซ ลงมาแทนแล้วให้เทรนท์ดันมายืนกลาง
บังโมปั่นก็ยังเบา
โกเมซเติมไปเอาบอลทางขวาก่อนไหลย้อนกลับมาให้ซาลาห์ เกี่ยวมาแล้วต้องหมุนก่อนพยายามยิงหน้ากรอบแต่เบาไปโอนาน่ารับเอาไว้ทัน
TAA ซัดเฉี่ยวเสานิดเดียว
หงส์แดง มีโอกาสอีกรอบ ซาลาห์ดึงบอลรอจังหวะก่อนไหลเข้ากลาง เทรนท์ วิ่งเข้ามายิงด้วยขวาบอลพุ่งดีแล้วแต่หลุดเสาไปนิดเดียวแบบที่โอนาน่าได้แต่ยืนมอง
ผีเกือบนำ!ฮอยลุนด์หลุดยิงไม่ผ่านพ่อหมี
ยูไนเต็ดเกือบขึ้นนำ แม็คโทมิเนย์ทำชิ่งให้ฮอยลุนด์หลุดมายิงด้วยขวาแต่ไปติดเซฟอลิสซอนแล้วจะซ้ำก็โดนไม่ดีอลิสซอนยังคว้าเอาไว้อีก
หงส์มาเป็นชุดยังไม่ได้
ลิเวอร์พูลทุ่มเร็วแล้วซาลาห์ยกมาให้นูนเญซเข้ากรอบเขตโทษแล้วแต่บอลลั่นบอลมาหาดิอาซยิงไปติดบล็อคเสียอีก จังหวะต่อมา โคนาเต้พลิกยิงด้วยขวาก็ไปตรงตัวของโอนาน่าอีก
หงส์โวยจะเอาโทษ
หงส์แดง โวยเอาจุดโทษจังหวะบอลไปโดนมือของชอว์ในกรอบเขตโทษ VAR ขอเช็คก่อนแล้วไม่ให้เพราะไม่ตั้งใจ
โกเมซซัดตามน้ำยังไม่เข้า
โกเมซ วิ่งพรวดเข้ามเอาบอลจากซาลาห์ในกรอบเขตโทษขวาก่อนก้มหน้าซัดตามน้ำแต่บอลเข้าหน้าต่างอีกแล้ว
ดาโลท์โดนสองเหลืองเฉย
ก่อนจบเกม ดาโลท์ ไปโดนเหลืองทีเดียวสองใบจากจังหวะโวยวายที่ไม่ได้ทุ่ม กรรมการแจกใบแดงไล่ออกไปเลย
หงส์เจื่อนเจ๊าผีโนสกอร์
หมดเวลาการแข่งขัน ลิเวอร์พูล ทำอะไรไม่ได้เสมอ มนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 0-0 แฟนๆ ผิดหวังอย่างแรงทำให้อดขึ้นเป็นจ่าฝูงอีก
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
Starting Formation: 4-3-3
37.
ค็อบบี้ ไมนู

82'
6.5
17.
อเลฮานโดร การ์นาโช่

71'
6
21.
แอนโทนี่

82'
7
ตัวสำรอง
28.
ฟาคุนโด้ เปลลิสตรี

82'
6
46.
ฮันนิบาล เมจบรี

82'
6
10.
มาร์คัส แรชฟอร์ด

71'
6
404: Not Found
แก้ไขล่าสุดโดย ZONG'TEEN เมื่อ Mon Dec 18, 2023 01:28, ทั้งหมด 14 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ