ถ้าความต้องการอยากให้ทีมจากฝั่งตะวันตกเจอทีมจากฝั่งตะวันตกเจอกันเร็วขึ้น ก็แค่ปรับให้รอบ 16 ทีมสุดท้ายรวมเป็นโถเดียวแล้วจับสลาก ก็มีโอกาสเจอกันแล้ว

จับสลากกันยังไง ก็ให้ทีมอันดับ 1 ทั้งสองสายรวมเป็นโถเดียว และทีมอันดับ 2 ทั้งสองสายรวมเป็นโถเดียว เอามาจับสลากเจอกัน ทีมจากโถอันดับ 1 เจอทีมจากโถอันดับ 2 แล้วไขว้กันจนถึงนัดชิงชนะเลิศเลย

ทำไมต้องคิดระบบให้เยอะด้วย งงมาก จัดแบบมีเจ้าภาพ ใครมันจะเข้าไปดูถ้าไม่ใช่ทีมที่ตัวเองเชียร์ หรือประเทศที่ตัวเองเชียร์

สมัยก่อนรอบน็อคเอาท์ 16 ทีมแบบเหย้าเยือน มันก็มาจับฉลากเจอกันทั้ง 2 โซนแหละ

แต่ด้วยที่ส่วนใหญ่ทีมอาหรับโดนตบตกรอบประจำ ขนาดบุรีรัมย์มาใหม่ๆยังตบบุนยอดร่วงมาแล้ว

เลยปรับมาเจอกันเฉพาะนัดชิง แต่ตอนนี้พวกลีกอาหรับพัฒนาขึ้นมาก ไม่โดนตบง่ายๆแล้วก็น่าจะปรับเป็นแบบเดิมสนุกกว่า

Arabian Football Confederation ปรับตามใจชีค

เด็กประถมก็มองออกว่า มันเป็นแผนของซาอุทั้งนั้น
ลงทุนไปเยอะ ดึงสตาร์มาเยอะ ต้องการให้ตัวเองเป็นศูนย์กลางกีฬาของโลก
เพราะเสียหน้าไปแล้วตอนกาต้าได้จัดบอลโลก

อนาคตซาอุจะได้จัดเหมือนกันก็เลยฝึก ๆ ไว้ก่อน
ด้วยการฮุบถ้วยเอเชียมาจัดที่ตัวเองทั้งหมด
ทีมลีกพวกมันก็ได้เปรียบเต็มประตู เพราะได้เตะในประเทศตัวเองยาว ๆ

แต่เดี๋ยวจัดไป ACL มูลค่าลด รอบ final 8 ไม่มีคนไปดู
สนามโหลงเหลง มันก็คงคิดได้เองแหละ

เดี๋ยวปีหน้า คนดูแชมเปี้ยนลีก เยอะกว่า eliteลีก แน่นอน เพราะประเทศเข้าร่วมเยอะ

ซาอุมันอยากโชว์พาวเวอร์ แค่นี้แหละ นึกภาพ ฟ้อนทะเล VS ปักตะกร้อ ที่ซาอุดีอาระเบีย จะมีคนดูกี่คนเอง

ก็สมัยก่อน ปรับแบบนั้นแหละครับ

ตอนมา AFC ใหม่ๆ บุรีรัมย์เจอเอสเตกัลห์ มาจากโซนตะวันออกกลางละครับ

จากนั้นปีต่อมา โซนตะวันออกกับตะวันตก เจอกันแค่รอบชิงเท่านั้น

อาหรับไม่ต้องร่วงไว ได้เข้าชิงถึงสู้ไม่ได้แต่มีโอกาสได้แชมป์มากกว่าระบบเก่า

นอกจากปรับให้ฝั่งตะวันออกกลางได้แต้มต่อแล้ว (ยังดีที่ลดเงื่อนไขบ้าๆ นัดเดียวจบตอนเพลย์ออฟออกไป) เขากะจะเทียบกับยูฟ่าที่ทำสามถ้วยเหมือนกันด้วย

ใช้ระบบซับซ้อนเหมือนลองของ แต่คิดว่าสองปีคนรู้เรื่องว่าจะไปทางไหนต่อ