เฉี่ยวไปเฉี่ยวมา! 'ราชัน' กระสุนด้านเจ๊าราโย 0-0 หล่นรองฝูง
BLOG TOPIC_A
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email:
sale@soccersuck.com
โปรโมชั่นลดจากเดิม 30% (ไม่รับโฆษณาผิดกฏหมายทุกประเภท)
เกมรุกฝืดกันเองสำหรับ เรอัล มาดริด ยิงเฉี่ยวไปเฉี่ยวมา เฟเดริโก้ บัลเบร์เด้ ได้โอกาสทองตั้งแต่ต้นเกมแต่จบสกอร์ไม่ได้ จากนั้นหลุดเป้าเสียส่วนใหญ่ จบเกมพวกเขาทำได้เพียงเปิดบ้านเสมอกับ ราโย บาเญกาโน่ 0-0 เก็บเพิ่มเป็น 29 คะแนนจาก 12 นัด หล่นไปอยู่รองจ่าฝูง ตามหลัง กิโรน่า 2 แต้ม
เรอัล มาดริด
Starting Formation: 4-3-1-2
25.
เกป้า อาร์ริซาบาลาก้า
5.5
20.
ฟราน การ์เซีย

72'
6.5
12.
เอดูอาร์โด้ คามาวิงก้า

86'
6.5
10.
ลูก้า โมดริช

70'
6.5
ตัวสำรอง
6.
นาโช่

86'
5.5
8.
โทนี่ โครส

72'
6.5
11.
โรดรีโก้

70'
6.0
ลาลีกา สเปน
สนาม ซานติอาโก้ เบร์นาเบว
อาทิตย์ที่ 5 พฤศจิกายน 2566
กรรมการ ฆวน มาร์ติเนซ
เรอัล มาดริด
0
0
ราโย บาเญกาโน่
เรอัล มาดริด เอาชนะ บาร์เซโลน่า ได้ในเกมที่แล้ว ทำให้ยังนำเป็นจ่าฝูงก่อนล่าสุดโดน กิโรน่า ทีฟอร์มฮ็อตแซงได้ เพราะงั้นต้องการเอาชนะเพื่อกลับไปเป็นที่ 1 อีกครั้ง
คาร์โล อันเชล็อตติ ขาดตัวเจ็บอย่าง ดานี่ เซบาญอส, ออเรลิยอง ชูอาเมนี่, แฟร์กล็องด์ เมนดี้, เอแดร์ มิลิเตา และ ธิโบต์ คูร์กตัวส์ แต่ได้ อาร์ดา กูเลร์ ฟิตกลับมาเป็นตัวสำรองครั้งแรก
ทางด้าน ราโย บาเญกาโน่ ผลงานใช้ได้เลยรั้งอันดับ 9 และไม่แพ้ใคร 9 เกมติดต่อกันรวมทุกรายการแล้ว
ฟรานซิสโก้ โรดริเกซ ได้ ออสการ์ บาเลนติน พ้นโทษแบนกลับมาคุมแดนกลางอีกครั้ง ส่วนที่เหลือฟิตพร้อมลงสนามกันหมด
บัลเบร์เด้ โอกาสทองยิงติดเซฟเฉยเลย
มาดริด อดได้ประตูขึ้นนำอย่างน่าเสียดาย บาเลนติน ทำเสียบอล แล้วโดน บัลเบร์เด้ ฉกได้ ก่อนได้ล่อเป้าแต่ยิงไม่ผ่านมือ ดิมิตริเยฟสกี้
แฟนเจ้าถิ่นใจหายแว๊บ! จู๊ด เจ็บไหล่
ทำเอาแฟนมาดริดลุ้นหันตัวโก่ง เพราะ จู๊ด เจ็บหัวไหล่เองจากการลงน้ำหนักไม่ดี ก่อนทีมแพทย์ยืนยันเล่นต่อได้สบาย
โมดริช จ่ายพลาด อัลบาโร่ ลงโทษไม่ได้
ไม่รู้ว่าต่อจากนี้จะมีโอกาสทองแบบนี้อีกมั้ยเมื่อ โมดริช จ่ายขวางสนามพลาด แล้ว อัลบาโร่ การ์เซีย หลุดไปก่อนถึงเขตโทษก่อนยิงด้วยซ้าย บอลผิดเหลี่ยมไปเยอะเลย
โฆเซลู ขึ้นโขกโดนบางไปหน่อย
เจ้าถิ่นได้ลูกเตะมุม โมดริช เปิดเข้าหัว โฆเซลู ได้โหม่งแต่บางไปหน่อยหลุดกรอบไป จากนั้นห่างกันไม่กี่อึดใจเจ้าตัวได้ยิงอีกแต่ก็หลุดเสาไกลอีก
ฟราน การ์เซีย เติมมายิงบอลข้ามคานมีเสียว
ต้องชมจังหวะการปั้นเกมของ จู๊ด ที่แตะให้ ฟราน การ์เซีย หลุดไปถึงเขตโทษก่อนยิงด้วยซ้ายเหินข้ามคาน
อลาบา ยิงนกตกปลาข้ามคานไปเยอะ
เจ้าถิ่นเพิ่งมีโอกาสยิงเข้ากรอบหนเดียวเท่านั้นหลังผ่านไปชั่วโมงเศษ ๆ จังหวะนี้ อลาบา พาบอลก่อนยิงไกลก็ข้ามคานออกไปเยอะเลย
โฆเซลู ตวัดยิงตามน้ำเกือบเสียบใต้คาน
มาดริด เกือบได้ประตูขึ้นนำ วินิซิอุส พลิ้วจากกราบซ้ายเข้าเขตโทษแล้วยกบอลให้ โฆเซลู ตวัดยิงตามน้ำ บอลย้อยจะเข้าประตูแล้วแต่ ดิมิตริเยฟสกี้ บินปัดได้
จู๊ด พลิกบอลขั้นเทพแล้วยิงข้ามคาน
ถ้าเข้าก็เป็นลูกยิงที่สมบูรณ์แบบเลยสำหรับ จู๊ด ได้บอลจาก รูดิเกอร์ แล้วพลิกบอลหลอกแนวรับทีมเยือนจนสนิท ก่อนยิงด้วยขวาข้ามคานน่าเสียดาย
ราติอู ไม่รอดโดนใบเหลืองคนแรก
ราติอู เล่นสุ่มเสี่ยงหลายครั้ง คราวนี้ไม่รอดโดนใบเหลืองคนแรก จากการทำฟาวล์ใส่ วินิซิอุส
โฆเซลู ขึ้นโขกไม่ถนัดโดนบอลบาง ๆ
ช่วงทดเจ็บครึ่งแรก มาดริด ได้ลุ้นอีกครั้ง อลาบา วางยาวให้ โฆเซลู ขึ้นโหม่งไม่ถนัดเท่าไหร่เพราะโดน มุมิน เบียด เลยโดนบอลบาง ๆ หลุดกรอบ
โฆเซลู ถลาโขกหลุดเสาไกล
เอสปิโน่ ไปเสียดายบอลจนเกือบโดนลงโทษ บัลเบร์เด้ ได้บอลจากกราบขวาแล้วเปิดเข้าเขตโทษ โฆเซลู พุ่งมาโหม่งแต่บอลหลุดเสาไกล
อลาบา ปั่นฟรีคิกหลุดเป้าไปเยอะ
เจ้าถิ่นได้ลุ้นฟรีคิก อลาบา ตัดสินใจยิงเอง แต่ปั่นหลุดกรอบออกไปอีก
คามาวิงก้า โดนเหลืองคนแรกฝั่งเจ้าถิ่น
มาดริด ได้ใบเหลืองแรกจากการที่ คามาวิงก้า ไปทำฟาวล์ใส่ ปาลาซอน
โรดรีโก้ ตามน้ำหลุดเสาฉิวเฉียด
โรดรีโก้ เพิ่งลงมาเกือบเป็นซูเปอร์ซับ การ์บาฆาล ไหลมาให้แล้วยิงตามน้ำทันที บอลหลุดเสานิดเดียว
มาดริด เปลี่ยนตัวเอา นาโช่ แทน คามาวิงก้า
เจ้าถิ่นเปลี่ยนตัวรายที่สามส่ง นาโช่ ลงมาแทน คามาวิงก้า ที่เหมือนจะยังมึน ๆ จากการหัวแตกอยู่
อลาบา โหม่งเบาเข้าซอง ดิมิตริเยฟสกี้
ท้ายเกมเจ้าบ้านโหมบุกหนัก โคส เปิดบอลเข้าหัว อลาบา โหม่งเบาไปหน่อย ดิมิตริเยฟสกี้ รับสบาย
โรดรีโก้ ไขว้บอลเข้าซอง ดิมิตริเยฟสกี้
เจ้าถิ่นได้บุกอีก การ์บาฆาล จ่ายยัดตัว โรดรีโก้ บังคับต้องไขว้บอล แต่ก็ยังเบาเข้าซอง ดิมิตริเยฟสกี้ อีก
รููดิเกอร์ โดนเหลืองติดโทษแบนนัดหน้า
รููดิเกอร์ กระทบกระทั่งกับ เลอเฌิน โดนเหลืองทั้งคู่ แต่รายแรกจะติดโทษแบนห้ามลงสนามนัดหน้า
จบเกม เรอัล มาดริด เปิดบ้านเสมอกับ ราโย บาเญกาโน่ 0-0 เป็นการหลุดเสมอครั้งที่สองในซีซั่นนี้ และยิงประตูใส่คู่แข่งไม่ได้เป็นครั้งแรกด้วย
ราโย บาเญกาโน่
Starting Formation: 4-4-2
7.
อิซี่ ปาลาซอน

87'
5.5
21.
ปาเต ซิสส์

61'
6.0
18.
อัลบาโร่ การ์เซีย

75'
6.0
17.
อูไน โลเปซ

60'
5.5
22.
ราอูล เดอ โทมัส

75'
6.0
ตัวสำรอง
10.
เบเบ้

75'
5.5
14.
กิเก้ เปเรซ

61'
5.5
8.
ออสการ์ เตรโฆ่

60'
5.5
9.
ราดาเมล ฟัลเกา

75'
6.0
19.
ฆอร์เก้ เด ฟรูโตส

87'
5.0
404: Not Found
แก้ไขล่าสุดโดย Asarinho10 เมื่อ Mon Nov 06, 2023 05:07, ทั้งหมด 9 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ