'ปาวาร์' ขอสอง! น้ำหอมอุ่นเกือกอัดวิสกี้ไม่ยาก 4-1
BLOG TOPIC_A
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email:
sale@soccersuck.com
โปรโมชั่นลดจากเดิม 30% (ไม่รับโฆษณาผิดกฏหมายทุกประเภท)
ทีมชาติ ฝรั่งเศส ไปทำพลาดโดนนำก่อนแต่ก็ไม่ใช่ปัญหาได้ แบ็งฌาแม็ง ปาวาร์ โหม่งคนเดียวสองตุงแซงกลับมาแล้วสมทบด้วย คิลิยัน เอ็มบาปเป้ กับ คิงสลี่ย์ โคมัน คนละลูกช่วยให้ น้ำหอม อุ่นเกือกเอาชนะ สก็อตแลนด์ ไปไม่ยากเย็น 4-1
ฝรั่งเศส
Starting Formation: 4-3-3
13.
อิบราฮิม่า โคนาเต้
87'
8.
ออเรลิยอง ชูอาเมนี่
76'
7.
อ็องตวน กรีซมันน์
76'
10.
คิลิยัน เอ็มบาปเป้
87'
11.
อุสมาน เด็มเบเล่
64'
9.
โอลิวิเยร์ ชิรูด์
64'
ตัวสำรอง
5.
คาสเตลโล่ ลูเกบา
87'
15.
มาร์คุส ตูราม
64'
12.
รานดัล โคโล่ มูอานี่
87'
19.
บูบาคาร์ กามาร่า
76'
20.
คิงสลี่ย์ โคมัน
64'
18.
ยุสซูฟา โฟฟาน่า
76'
ฟุตบอลกระชับมิตร
สนาม ดีแคธลอน อารีน่า
วันที่ 17 ตุลาคม 2566
กรรมการ
ฝรั่งเศส
4
1
สก็อตแลนด์
1-1 ปาวาร์ 16'
2-1 ปาวาร์ 24'
3-1 เอ็มบาปเป้ 41' (Pen.)
4-1 โคมัน 70'
ฝรั่งเศส สลับบางตำแหน่งโดยให้นักเตะแบบ คามาวิงก้า, ปาวาร์, เด็มเบเล่ และ ชิรูด์ ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงบ้าง
ทางด้าน สก็อตแลนด์ ก็คล้ายกันเพราะนักเตะบางคนหายจากรายชื่อโดยเฉพาะวิงแบ็คสองฝั่งส่วนแดนหน้าให้ อดัมส์ ออกสตาร์ท
คามาวิงก้าจ่ายพลาด! เข้าทาง กิลมอร์ ยิงเสียบเสาไกล
โอกาสแรกของเกมมาแล้วและเป็น สก็อตแลนด์ ออกนำก่อนจากจังหวะทางซ้ายจ่ายให้ กิลมอร์ สอดเข้าเขตโทษไปแล้วหักเข้ากลาง คามาวิงก้า ดักได้แต่ดันจ่ายคืนหลังไม่ได้ตรงเพื่อนกลายเป็นเข้าเท้า กิลมอร์ ยิงเข้าเสาไกลแทนออกนำเลย 1-0
ขอคืน! เตะมุมเข้าหัว ปาวาร์ โหม่งตีเสมอ
แต่พอ ฝรั่งเศส บุกกลับมาได้เตะมุมและก็มีประตูตีเสมอทันที กรีซมันน์ ทางซ้ายเป็นคนครอสเข้ามาทางเสาแรกแล้ว ปาวาร์ วิ่งสอดมาคนเดียวฝูงนักเตะ สก็อตแลนด์ ก่อนโหม่งสะบัดส่งบอลชนเสาสองเข้าประตู ฝรั่งเศส ไล่เจ๊า 1-1
คนเดิม! ปธ.เป้ หักถึง ปาวาร์ โหม่งพานำ
หลังจากนั้นมา ฝรั่งเศส เดินหน้าลุยแบบต่อเนื่องจนมีประตูแซงนำเรียบร้อยกับจังหวะต่อจากฟรีคิก เตโอ ตามเก็บริมเส้นซ้ายแล้วจ่ายย้อนให้ โคนาเต้ ก่อนส่งต่อ เอ็มบาปเป้ ในเขตโทษพลิกหนีตัวประกบแล้วหักเข้ากลาง ปาวาร์ คนเดิมทิ้งตัวโหม่งเข้าไป ฝรั่งเศส นำ 2-1
น้ำหอมลุยต่อ เด็มเบเล่ ยิงออกหลัง
โอกาสของ น้ำหอม มาอีกแล้วในจังหวะที่ ชูอาเมนี่ ทางซ้ายมองแล้วเลือกตักเข้าไปในเขตโทษมี เด็มเบเล่ สอดไปได้ยิงแต่ก็ส่งบอลออกหลังไป
เกือบแฮตทริก! ปธ.เป้ ปาดไป ปาวาร์ ชาร์จไม่ทัน
เกือบเป็นประตูให้กับ ฝรั่งเศส อีกแล้วหลังลูกฟรีคิกโดนสกัดออกมาแถวสองเก็บได้ ชูอาเมนี่ แทงให้ เอ็มบาปเป้ ทางขวาของเขตโทษพยายามปาดไปเสาไกลแต่ ปาวาร์ ชาร์จมาช้าไปนิดเดียวสะกิดไม่โดน
VAR แจกโทษ! ปธ.เป้ ยิงไม่พลาดน้ำหอมนำห่าง
จากนะั้นกรรมการหยุดเกมเพื่อย้อนเช็คภาพช้าจังหวะฟรีคิกว่ามีฟาวล์หรือไม่แล้วกลับมาแจกจุดโทษให้ ฝรั่งเศส เพราะ คูเปอร์ ไปดึง ชิรูด์ ล้มลงไป
เอ็มบาปเป้ เป็นคนรับหน้าที่จัดการซึ่งก็ไม่พลาดยิงพา ฝรั่งเศส นำ 3-1
ชูอาเมนี่ ได้ยิงไกลแต่ตรงตัว
ท้ายครึ่งแรก ฝรั่งเศส หาโอกาสได้อีกแล้วเมื่อ เตโอ ติดเครื่องลุยขึ้นมาทางซ้ายถึงเขตโทษแล้วพยายามเปิดมาด้านในแต่โดนสกัดทิ้งออกมาก่อน ชูอาเมนี่ ได้ยิงไกลแต่บอลพุ่งไปตรงตัวโดนรับไว้ได้
ต้นครึ่งหลังยังไม่มีอะไรมาก วิสกี้หาโอกาสไม่ได้
กลับมาครึ่งหลังยังไม่มีจังหวะให้ลุ้นอะไรมาก โดยช่วงต้น สก็อตแลนด์ ได้ครองบอลมากกว่าพยายามหาช่องเข้าทำไปเอาโอกาสลุ้นแต่ก็ไม่ดีพอ
น้ำหอมขอเพิ่ม! อ๋อง ชาร์จชนคาน โคมัน ซ้ำไม่เหลือ
ฝรั่งเศส ไม่ได้เร่งอะไรมากมายแต่ก็ยังมาหาประตูเพิ่มไปได้อีก เป็นการเข้าทำดีๆจากทางซ้าย ตูราม ทำชิ่งกับ เอ็มบาปเป้ เข้าเขตโทษเปิดมาหน้าประตู กรีซมันน์ ชาร์จเน้นๆชนคานบอลเด้งไปหา โคมัน เลยกดเช็ดคานเข้าไปกลายเป็น 4-1
วิสกี้ได้ลุ้นบ้าง บราวน์ ยิงหน้าเขตโทษโดนปัด
สก็อตแลนด์ มาหาโอกาสลุ้นประตูได้สักทีในจังหวะ แพตเตอร์สัน จ่ายไปหน้าเขตโทษให้กับ บราวน์ พักบอลได้แล้วพยายามพลิกยิงเองยังโดนปัดออกเสาแรก
ยังไม่มีเพิ่ม! โคมัน เปิดให้ ตูราม ยิงชนคาน
เข้าท้ายเกมเกือบมีเพิ่มให้ น้ำหอม อีกกับการบุกกลับบอลมาอยู่ที่ โคมัน ทางขวาแล้วมองไกลก่อนรีบเปิดเข้าเขตโทษให้ ตูราม เป็นคนวิ่งไปยิงได้แต่ก็ส่งบอลชนคานเข้าให้
ยังไม่ได้! วิสกี้ได้ลุ้นสองหนติดๆโดนเซฟหมด
โอกาสที่จะเอาประตูปลอบใจให้กับ สก็อตแลนด์ มาแบบต่อเนื่องกันเลย เริ่มด้วยหนแรก แม็คโทมิเนย์ จ่ายให้ คริสตี้ ทางขวาเปิดข้ามไปอีกเสา อาร์มสตรอง รออยู่ไม่มีใครมาปิดเลยได้ยิงเน้นๆติดเซฟเสาแรก
จังหวะสองพวกเขาเก็บได้แล้ว เทย์เลอร์ เปิดจากซ้ายเข้าไปใหม่ บราวน์ โหม่งหน้าประตูโดนรับไว้อีก
น้ำหอมขออีกลูกไม่ได้ โฟฟาน่า ยิงโดนปัด
ทดเจ็บ ฝรั่งเศส จะขออีกสักลูกทิ้งท้ายแต่ก็ไม่ได้หลังจาก โฟฟาน่า มีโอกาสควบพาบอลเข้าเขตโทษทางซ้ายแล้วตัดสินใจกดเรียดไปเสาไกลโดนปัดเอาไว้
จบเกม ฝรั่งเศส เอาชนะ สก็อตแลนด์ ไปได้ไม่ยากเย็น 4-1 ส่งท้ายเกมทีมชาติในเดือนนี้ ส่วนเดือนหน้าก็เป็นโปรแกรมไม่ยากพบกับ ยิบรอลตาร์ และ กรีซ ในรอบคัดเลือกยูโรแต่พวกเขาก็เข้ารอบไปแล้ว
สก็อตแลนด์
Starting Formation: 3-4-2-1
12.
เลียม เคลลี่
45'
6.
เลียม คูเปอร์
64'
22.
นาธาน แพตเตอร์สัน
89'
14.
บิลลี่ กิลมอร์
76'
23.
เคนนี่ แม็คเคลน
76'
10.
เช อดัมส์
65'
ตัวสำรอง
21.
แซนเดอร์ คลาร์ก
45'
18.
เจค็อบ บราวน์
65'
17.
สจวร์ต อาร์มสตรอง
76'
11.
ไรอัน คริสตี้
76'
7.
จอห์น แม็คกินน์
89'
5.
จอห์น ซูตตาร์
64'
404: Not Found
แก้ไขล่าสุดโดย redenzo เมื่อ Wed Oct 18, 2023 04:08, ทั้งหมด 4 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ
: 0 ใบ
My Locker