1 ดาว + แฉ + ด่าซ้ำแบบนี้

คนเปิดร้านอาหารแบบผม เห็นแล้วเจ็บเลย ต้นทุนก็แพง ราคาก็ขึ้นยาก ผมก็เจอเป็นเรื่องปกติที่ลูกค้าใช้ส่วนลด ก็ไม่ทำแบบนี้นะ ขายเดริเวอรี่ มาตราฐานคือสำคัญ ทำอะไรผิดนิดหน่อยลูกค้าหายไปเลยนะ เพราะคู่แข่งมันเยอะ

เลือกลงเอง ก็ต้องรับต้นทุนเองสิครับ เห็นแก่ตัว

เห็นร้านค้าชอบบ่นว่าโดนหัก มันก็เป็นสิ่งที่ควรอยู่แล้วเพราะร้านอยู่เฉยๆออเดอร์ก็วิ่งเข้ามาหาเอง มีคนมารับไปส่ง และสำคัญที่สุดคือไม่มีใครบังคับให้มาขายตรงนี้ มันจะต่างอะไรกับการที่คุณไปเช่าหน้าร้าน นี่ยังไม่รวมค่าระบบหรือค่าใช้จ่ายของคนที่ต้องวิ่งไปรับและส่งแก่ผู้ซื้ออีก

ราคาที่จ่ายแพงขึ้นคนซื้อจริงไม่บ่น มีแต่คนขายที่บ่นแล้วบ่นอีก ไม่ขายผ่านแอพก็ได้นะครับสิทธิของคุณเอง

เจอแบบนี้ผมใส่ 1 ดาวแน่นอนครับ เสียตังซื้อ ไม่ได้ขอกินฟรี

เคยเขียนไปบอก Grab ว่า ให้คิด "ค่าใช้บริการแอพ" แยกต่างหากจากเป็นอีกห้วข้อนึง


คือ รู้ๆกันอยู่ว่า แอพไปหักหัวคิวร้าน ออเดอร์ละ 30% แล้วร้านทำไง ก็ทบ 30% นั้นกลับมาในราคาอาหาร
คือทำแบบนี้ ราคาอาหารแม่งโคตรเฟ้อ เดี๋ยวนี้ กระเพราจานนึงในแอพนี่ 70+ แล้วอะ


คือในเมื่อสุดท้าย ภาระในการใช้บริการแอพ มันมาตกที่ลูกค้า งั้นก็แยกมาเลย ราคาอาหารจะได้ไม่เฟ้อ


หลังๆมา ผมก็ไม่ใช้บริการ แกร๊บละ รู้สึกเสียดายตัง วันเสาร์ อาทิตย์ อยากกินหมูปิ้งตอนเช้า ปกติไม้ละ 10 บาท มาขายในแอพขาย 17 บาท สั่งที ก็ต้องมี 20 ไม้เพราะลูกๆชอบกิน รวมข้าวเหนียว รวมค่าส่ง 450 บาทแล้ว ยังต้องมี ติ๊บอีก 20 มื้อนึง เบาๆ ล่อไปจะ 500 แล้ว


สุดท้าย ขับรถออกไปซื้อแม่งเลย 230 บาท ค่าน้ำมันไปกลับ 6 โล 20 บาท ใช้เวลา 20 นาที

แถมสุดท้ายแอพ หักค่าหัวคิวทั้งจากร้าน จาก ไรเดอร์ ไป 30% 450 ที่จ่ายไป เข้าร้าน 230 เข้าไรเดอร์ 35 ที่เหลือเกือบๆ 200 เข้าแอพหมด แปลว่า 450 ที่จ่ายไป เป็นค่าสินค้าและบริการทางตรง 265 บาท เป็นค่าใช้แอพอีก 185 บาท


คือเข้าใจว่า ทำการตลาดแบบขาดทุน แต่มืงให้ลูกค้าจ่ายค่า "บริการ" ในราคาเกือบเท่า "ราคาสินค้า" เลย


ถ้าคิดทำธุรกิจแบบนี้แล้วหวังว่าจะ "โต" จริงๆก็ขออวยพร

ไม่นะ

ร้านบ้านแฟนผม แอพก็มาขอให้เข้า แต่เลือกที่จะไม่เข้าได้

ช่วยให้ลูกค้าหายนั่นเอง

ใช่ครับ อาจดูตลก

แต่หลายๆร้านทำงี้จริงๆ ไม่งั้นจะเข้าตำราขายดีแต่ขาดทุน