'มูดรีค' ปลดล็อค! โบรย่ายิงด้วย 'สิงห์' รัวเจ้าสัว 2-0
BLOG TOPIC_A
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email:
sale@soccersuck.com
โปรโมชั่นลดจากเดิม 30% (ไม่รับโฆษณาผิดกฏหมายทุกประเภท)
มิคายโล มูดรีค ปลดล็อคทำประตูแรกให้ทีมสำเร็จ จากนั้นไม่ถึงนาที อาร์มันโด้ โบรย่า ตอบแทนโอกาสตัวจริงบวกเพิ่มอีกเม็ด ครึ่งหลัง ฟูแล่ม พยายามตีไข่แตก แต่เจาะแนวรับไม่เข้า เชลซี บุกชนะ ลอนดอน ดาร์บี้ 2-0 คว้าชัยเกมลีกนัดที่สอง ทะยานสู่อันดับ 11
ฟูแล่ม
Starting Formation: 4-3-3
6.
แฮร์ริสัน รีด

65'
5.5
18.
อันเดรียส เปเรร่า

75'
6
8.
แฮร์รี่ วิลสัน

53'
5.5
7.
ราอูล ฆิเมเนซ

53'
6
ตัวสำรอง
10.
ทอม แคร์นี่ย์

65'
6
28.
ซาซ่า ลูคิช

75'
6
22.
อเล็กซ์ อิโวบี้

53'
6
30.
คาร์ลอส วินิซิอุส

53'
6
พรีเมียร์ ลีก
สนาม คราเว่น คอตเทจ
2 ตุลาคม 2023
กรรมการ ทิม โรบินสัน
ฟูแล่ม
0
2
เชลซี
0-1 มูดรีค 18'
0-2 โบรย่า 19'
เชลซี ยึดแผน 4-3-3 คูคูเรญ่า ยืนแบ็คขวาฝั่งซ้ายเป็น โคลวิล คู่เซ็นเตอร์ ซิลวา กับ ดิซาซี่ แดนกลางมีทั้ง กัลลาเกอร์, ไคเซโด้, เอนโซ่ หน้าเป้า โบรย่า รับโอกาสแทน แจ็คสัน ผู้ติดโทษแบน
ทาง ฟูแล่ม ให้ วิลสัน ยืนปีกนอกนั้นยึดตัวจริงจากนัดก่อนนำโดย ปาลินญ่า, วิลเลียน และ ฆิเมเนซ
โบรยา เหน่งๆ ข้ามคานแถมล้ำหน้า
โบรย่า ร้างสนามไปสิบเดือนลงมามีโอกาสทันที เพรสซิ่งแย่งบอลได้แล้วทำชิ่งกับ กัลลาเกอร์ หลุดเข้าเขตโทษแตะหลบ เลโน่ เหลือแค่ตัวสกัดบนเส้น 3 คน แต่กดเต็มข้อข้ามคาน แถมมีธงยกล้ำหน้า
มูดรีค ตัดยิงไม่ตรงกรอบ
เอนโซ่ พาบอลทะลุขึ้นมาจากกลางสนามป้ายออกข้างให้ มูดรีค เลี้ยงตัดเข้าในแล้วลองยิงแถวเส้นเขตโทษ บอลพุ่งแรงแต่หลุดกรอบ
มูดรีค ปลดล็อค! สิงห์ ออกนำ
ไคเซโด้ วางยาวจากกลางสนามไปริมเส้นให้ โคลวิลล์ เอาลงแล้วหยอดเข้าเขตโทษข้ามหัว ดิย็อป หลุดไปถึง มูดรีค พักอกก่อนแปสวนตัว เลโน่ แบบนิ่มๆ สิงห์ บุกนำ 1-0
ไหลเร็ว! โบรย่า ปลดด้วย สิงห์ นำเพิ่ม
ฟูแล่ม โดนนำพยายามตั้งสติต่อบอลหน้าโกล์ตัวเอง รีม ดันจับยาวโดน มูดรีค ใช้ความขยันฉกได้ไหลเข้าเขตโทษ รีม หวังแก้ตัวตามสกัดกลายเป็นโดนแข้ง โบรย่า ที่ตามเพรสซิ่งกลิ้งตุงตาข่าย สิงห์ นำเพิ่ม 2-0
เอนโซ่ ส่องไกลไม่เข้าเป้า
ฟูแล่ม เสียบอลตรงกลาง เชลซี ต่อบอลเข้าเขตโทษโดนสกัดออกมา เอนโซ่ เก็บตกยิงไกล 30 หลาแต่เต็มข้อไปหน่อยเหินข้ามคานไม่ค่อยได้ลุ้น
วิลเลี่ยน ท้าดวล คูคูเรญ่า ตัดเกมรับเหลือง
ครึ่งชั่วโมงกว่า เชลซี ดูผ่อนเครื่องลงแต่ ฟูแล่ม เจาะเข้าเขตโทษไปสร้างโอกาสยังไม่ได้ จังหวะนี้ วิลเลี่ยน รับบอลริมเส้นแตะหลบ คูคูเรญ่า เข้าพรวดตัดเกมรับใบเหลืองลงโทษ
พัลเมอร์ ลักไก่ครึ่งสนามไม่ตรงเป้า
เชลซี ได้ฟาวล์กลางสนาม พัลเมอร์ เห็น เลโน่ ออกมาไกลฉวยโอกาสเล่นเร็วยิงไกลหวังให้ข้ามหัว แต่วิถีบอลไม่ตรงกรอบ
ฆิเมเนซ โขกเตะมุมไม่เข้ากรอบ
โอกาสแรกของ ฟูแล่ม มาจนได้จากจังหวะเตะมุมเปิดให้ ฆิเมเนซ หนีตัวประกบโถมโขกแต่ยังไม่ได้ทดสอบ ซานเชซ
พอช ถอด มูดรีค ส่ง มาตเซ่น ลงแทน
จบพักครึ่ง มูดรีค ผู้ทำประตูโดนเปลี่ยนไปพักแล้ว ปอเชตติโน่ ส่ง มาตเซ่น ทำเกมริมเส้นแทน
โบรย่า โฉบโขกข้ามคาน
พาลเมอร์ ขึ้นมาทางริมเส้นครอสเข้าเขตโทษให้ โบรย่า โฉบโขกแต่โดนใต้ลูกไปหน่อยจึงเหินข้ามคาน
พาลเมอร์ ปั่นโค้งเข้ามือ เลโน่
พาลเมอร์ สร้างโอกาสอีกคราวนี้แต่งหาช่องปั่นโค้งจากนอกกรอบแต่ เลโน่ อ่านไว้แล้วป้องกันไม่ยาก
เกมเดือด เหลืองออกรัวๆ
พาลเมอร์ ทำฟาวล์แล้วเตะบอลทิ้งรับเหลือง แล้วจังหวะต่อมา วินิซิอุส วิ่งเพรสซิงใช้ท่อนแขนอัดใส่ ซิลวา โดนบ้างรวมถึง เปเรร่า ข้อหาโวยเปา
โบรย่าทำสวย! มาตเซ่น ยิงชนเสา
โบรย่า ใช้ความแกร่งพักบอลในแดนหน้าจ่ายให้ กัลลาเกอร์ หลุดไปทางขวาของเขตโทษเปิดย้อนมาจุดนัดพบ มาตเซ่น แปเน้นๆ บอลชนเสาเต็มใบ จังหวะซ้ำของ เอนโซ่ ก็ติดเซฟ เลโน่ เป็นแค่เตะมุม
อีกแล้ว.. โบรย่าเจ็บ ราฮีม ลงมารับเหลือง
โบรย่า มีอาการบางอย่างลงไปนั่งกับพื้น เชลซี ไม่เสี่ยงเปลี่ยนออกทันทีส่ง สเตอร์ลิ่ง ลงล่าตาข่ายแทน แล้วไม่ทันไรโดนเหลืองทันทีเพราะเปาเป่าหยุดแล้วแต่ยังฝืนยิง
ลูคิช จ่อๆ ซานเชซ ใช้เท้าเซฟ
ฟูแล่ม ใกล้เคียงขึ้นเรื่อยๆ จังหวะนี้ต่อบอลเข้าเขตโทษแล้ว แคร์นี่ย์ จ่ายทะลุช่องให้ ลูคิช สอดชาร์จเผาขน ซานเชซ ผวาออกมาใช้ขาเซฟ สิงห์รอดเหลือเชื่อ
วิลเลี่ยน ตัดยิง ซานเชซ เอาอยู่
เชลซี ตั้งรับรักษาสกอร์ วิลเลี่ยน พยายามสร้างโอกาสตัดยิงหน้าเขตโทษก็ยังไม่ผ่านมือ ซานเชซ แล้วจังหวะเตะเปิดเกมเป็น ซานเชซ ช่วยดึงเวลานานไปหน่อยรับเหลืองลงโทษ
วิลเลียน, ไคเซโด้ เจ็บคู่
เข้าสู่ทดเจ็บ 5 นาทีมีจังหวะ วิลเลียน กับ ไคเซโด้ ลงไปนอนเจ็บทั้งคู่ต้องปฐมพยาบาลกันพอสมควรแล้ว เชลซี ส่งเด็กอย่าง มาตอส ลงแทน
จบเกม เชลซี ชนะ 2-0 ขึ้นอันดับ 11 นัดต่อไปเล่นเกมเยือนอีกกับ เบิร์นลี่ย์ ส่วน ฟูแล่ม หยุดอยู่ที่ 13 นัดหน้าพบ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด
เชลซี
Starting Formation: 4-3-3
25.
มอยเซส ไคเซโด้

90'
7
20.
โคล พาลเมอร์

75'
7
8.
เอนโซ่ เฟร์นานเดซ

90'
7
10.
มิคายโล มูดรีค

46'
7.5
19.
อาร์มันโด้ โบรย่า

65'
8
ตัวสำรอง
29.
เอียน มาตเซ่น

46'
6
16.
เลสลี่ย์ อูโกชุควู

75'
6
7.
ราฮีม สเตอร์ลิ่ง

65'
6
11.
โนนี่ มาดูเอเก้

90'
-
52.
อเล็กซ์ มาตอส

90'
-
แก้ไขล่าสุดโดย 69_420 เมื่อ Tue Oct 03, 2023 07:46, ทั้งหมด 60 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ