เท่าที่เห็นกระแสรถไฟฟ้ามาบูม เพราะรถที่มาจากจีน ทำราคาและออพชั่นได้ดีกว่ารถน้ำมันญี่ปุ่น แถมแรงกว่าด้วย
แต่ถ้าข้ามไปฝั่งยุโรป ณ ตอนนี้ ก็ยังมีแต่ระดับเหยียบๆ2ล้าน (ยกเว้นให้วอลโว่ ex30ที่กระแสดีเพราะราคาไม่แพง+ออพชั่นล้นอีก )
ในส่วนตัวผม ผมวิ่งต่างจังหวัดระยะทาง400กม.+ตลอด เลยยังไม่มีความคิดที่จะใช้รถไฟฟ้า เพราะขี้เกียจแวะชาร์จ
(ปกติแวะเข้าห้องน้ำแค่2ครั้ง ครั้งละ5นาที)

เลยอยากลองคุยกับเพื่อนๆที่ตั้งใจซื้อรถไฟฟ้า อยากซื้อเพราะอะไรกันครับ
ถ้ารถน้ำมัน สามารถทำออพชั่น+ราคาให้มาเท่าๆกับรถไฟฟ้า หรือหมดมาตรการอุดหนุนจากรัฐบาล ทำให้ราคารถไฟฟ้ากลับมาสูงขึ้น ยังยืนยันจะซื้อรถไฟฟ้าไหมครับ

เร่งแซงไม่เหนื่อย ขับสบาย

บ้านติดชาร์จไฟไม่ได้+ขี้เกียจไปวนรถชาร์จนอกบ้าาน
ก็ใช้น้ำมันไปก่อนไม่มีทางเลือก

ผมกะใช้รถไฟฟ้าเพราะน่าจะเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากกว่า

ถึงทำราคาและออฟชั่นมาเท่า แต่คนส่วนใหญ่ที่ซื้อรถไฟฟ้ามีปัจจัย

"บาท/กม."

ที่รถน้ำมันให้ไม่ได้ เป็นปัจจัยหลักในการพิจารณาครับ

ขอบคุณที่ร่วมแชร์ครับ

ที่บ้านก็ไม่มีปั๊มน้ำมันอยู่ในบ้านนะครับ

รอ BYD ตัวใหม่ 1,000 แรงม้าอยู่พี่

จะเอาไปดัน เฟอรารี่ ลัมโบกินี่ คันละ 20 ล้าน ให้หน้าแหกจักน่อยพี่

ใช้แมวไฟฟ้าอยู่ครับ 1ปี1เดือนขับไป 65000โลแล้ว ประหยัดเงินค่าน้ำมันไปแสนกว่าละครับ
ก่อนนอนก็ชาร์จตื่นมาก็เต็มเหมือนโทรศัพท์ เดินทางไกลปีนึง 2-3ครั้ง(ปิดเทอม)เอารถน้ำมัน(LPG)ไปเหมือนเดิมครับ

แต่ตอนนี้ที่บ้านกำลังจะขายรถน้ำมันไปไฟฟ้าหมดแล้วก็ไม่กังวลอะไร ชาร์จไวตามปั๊ม10นาทีก็วิ่งได้ร้อยกว่าโลแล้ว

แต่ถ้ารัฐไม่ช่วยแล้วก็คงคิดหนักอยู่ครับ ตอนที่ซื้อแมว500 ราคาเกือบล้านสองพอลดเหลือ 960k วิ่งไปจองเลย

ไม่ชอบรอครับ
ทุกวันนี้เข้าปั๊มไหนต้องต่อแถวผมก็ไม่เติมละครับ 555

อยู่คอนโดหมดสิทธ์ใช้รถไฟฟ้า ไม่ชอบรอตอนชาร์จนอกบ้าน

ขึ้นบรรทัดแรกมาก็ขิง + อวยเลย 5555

ถ้าเป็นผมไม่รอแล้วครับ ทำงาน 6 วัน ไปกลับร่วม 80 กม./วัน อยู่ทาวเฮ้าส์ติดwall charge สบายๆ ถ้าจะเที่ยวทางไกลก็เช่ารถน้ำมันเอา 3 เดือนไปเที่ยวทีนึง

เอาซัก พันกิโลต่อชาร์ทน่าจะได้เสียตังค์ล่ะผมเพราะกลับบ้านต่างจังหวัดผมจอดนอนตลอด จอดนอนเติมไฟซักรอบค่อยขับต่อ

หมายถึงขิงกะอวยรถจีนเหรอครับ
ผมก็เอาความเห็นจากคนอื่นๆในเน็ทมาสรุปนะครับ
ที่ส่วนใหญ่สนใจรถไฟฟ้าจีนเพราะตอนนี้ทำมาแรง ไม่กั๊ก แถมราคาดี