ทีมโค้ชน่าจะมีการเดาว่าเบิร์นลี่เล่นหนัก เลยอัดกลางอีกครั้ง แล้วเล่น4-4-2 เพื่อสู้กับเบิร์นลี่โฉมใหม่ เบิร์นลี่ที่เปลี่ยนจากบอลโบราณเป็นบอลเท้าสู่เท้า

ถึงแม้นักเตะแมนยูไม่เหมาะเล่นต่อบอลบิ๊วอัพ แต่ควรครองบอลเหนียวๆรึเปล่าครับ ส่งบอลใกล้ๆด้วยความแม่นยำ มันเป็นเบสิคพื้นฐานของทีมที่จะเล่นแบบทีมใหญ่ นึกถึงเชลซีหรือสเปอร์4-5ปีที่แล้วครับ ดักบอลดี แย่งบอลชนะ  ครองบอลเหนียว

เมื่อคืนเหมือนจะ 4-2-3-1 นะ

ผมชอบน้องฮันนิบาลนะ วูบวาบดี

เท่าที่ดูเข้าใจว่าเล่นแผนเดิมนะ 4-2-3-1 อาจจะมีหมุนปรับให้แรชหรือบรูโน่ดันสูงยืนใกล้ๆฮอยลุนบ้างบางจังหวะ

มันไม่ได้เป็นรูปแบบครองบอลเหนียวอะ ไม่งั้นเปอร์เซนกลางครองบอลเราไม่น้อยขนาดนั้น แต่เหมือนเน้นคอมแพคกับพลังงานตรงกลางมากขึ้น โอเคมันบางตัวไม่ได้เล่นดีขนาดนั้นแบบแมคโท แต่รู้สึกว่าคาเซพื้นที่ต้อง cover มันลดลง เลยดูตัดบอลได้มากขึ้น ถึงจะเทียบกับมาตรฐานเดิมไม่ได้ก็ตาม เท่าที่สังเกตคือ นัดนี้ไม่ได้ไป high press เขาเท่าไหร่ ปล่อยฮอยลุนไปวิ่งตาม 2 เซนเตอร์นิดหน่อย แล้วปล่อยให้เซนเตอร์กับโกลเคาะไป แต่ไปเน้นกลางแน่นๆกับไล่แดนสองแทน เพราะก่อนหน้านี้ที่เราโดนคือจังหวะบีบ high press เขาแล้วกลายเป็นเพรสไม่จน แล้วเขาแก้มาได้ก็หลุดทั้งยวง วันนี้ที่ต้องเน้นผลมากๆ กับตัวผู้เล่นที่มีแค่นั้นเลยออกมาเปนแผนนี้

เบอ 10 ก็ยังเอียงข้างเป็นหรรมเลย ไม่ใช่ 4-4-2 หรอก

หลังคู่นี้ขึ้นเกมส์ไม่ได้ บิ้วอัพไม่ได้เลย
กลางขาดอิริคเซ่น อัมราบัต ตัวโฮลบอล

สรุปทีมที่ส่งลง ไม่มีตัวไหนเป็นตัวครองบอลเลย
%ครองบอลถึงต่ำเตี้ยแบบนี้

กลับมา 4-3-2-1 ครับ

เกมรับแน่นขึ้น เพราะปีก 2 ข้างจะลงมาช่วยแบ็ค

กลางก็คุมพื้นที่ตัวเองได้เต็มที่ไม่ต้องพะวงข้าวมาก

สังเกตได้จาก แรชลงมาช่วยเกมรับ

แม้เกมรุก จะยังไม่มีทรงเหมือนเดิม อยากให้ใช้แผนที่ถนัดไปเรื่อยๆ

ไม่งั้นนักเตะที่มึนๆอยู่แล้วจะยิ่งมึนเปลี่ยนแผนบ่อย

ส่งบอลใกล้ๆด้วยความแม่นยำ ควรเป็นพื้นฐานของนักฟุตบอลครับ ยิงแรง สายตาเฉียบคม ร่างกายดี

แค่ไหนก็เถอะ จ่ายบอลง่ายๆเสียบรรลัยแน่นอน