รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พบหารือรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศเยอรมนี

เมื่อวันที่ ๒๑ กันยายน ๒๕๖๖ นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พบหารือกับนาย Tobias Lindner รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศเยอรมนี ในห้วงการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ ๗๘ เพื่อสานต่อความสัมพันธ์ไทย-เยอรมนี

ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องส่งเสริมความร่วมมือด้านการค้า การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าและไฮโดรเจน ความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ การเจรจายกเว้นตรวจลงตราเพื่อเดินทางเข้าสหภาพยุโรปสำหรับบุคคลธรรมดา และหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ในภูมิภาค

Deputy Prime Minister and Minister of Foreign Affairs discusses with Minister of State of Federal Foreign Office of Germany

On 21 September 2023, H.E. Mr. Parnpree Bahiddha-Nukara, Deputy Prime Minister and Minister of Foreign Affairs, met with H.E. Mr. Tobias Lindner, Minister of State of the Federal Foreign Office of Germany, on the sidelines of the 78th Session of the UN General Assembly. The meeting aimed to further strengthen Thailand-Germany relations.

Both sides agreed to promote cooperation in trade, climate action, electronic vehicles and hydrogen technology, defense industry, possible negotiation on Schengen visa exemption for ordinary Thai passports. They also exchanged views on regional developments.
อ้างอิง เพจกระทรวงต่างประเทศ https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=pfbid036hur41Na71cj2tWj7uAyVL8SW8QfUfQkzpe8pXNkz1Mz36AGYbJBBrsDt3c9a5xjl&id=100064772884025&mibextid=ZbWKwL

ตอบแบบไม่เข้าข้างฝั่งไหนเลยนะ

1. การเจรจาเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ยิ่งลักษณ์ นำโดยสุรพงค์ รมต.ตปท.สมัยนั้น โดยจุดเริ่มต้นมันอาจจะฟังตลกแต่เพราะผญ.ไทยแต่งงานกับคนเยอรมันค่อนข้างเยอะเลยมีไอเดียเกิดขึ้นมา (เป็นเรื่องรองแหล่ะ เรื่องหลักคือศก.มากกว่า) แต่ไม่มีความคืบหน้า ส่วนนึงเพราะศก.Eurozone สมัยนั้นยังดีไม่ต้องง้อเรามาก + การรปห.ทำให้ topic นี้ตกไป

2. ก็เป็นที่น่ายินดีว่าเราเริ่มเจรจาใหม่อีกครั้ง แต่ไม่ใช่แบบ ว้าวววว เพราะมันคือเอาของเก่ามาปัดฝุ่น และเพราะตอนนี้ที่ไหนๆในโลกก็ไม่ค่อยดี 555 เรากับ emerging market แบบอินเดียเราก็มี e-travel เข้าออกประเทศแล้ว ขณะที่กับทางเมกาหรือกับจีนก็มีอีกทีมหารืออยู่อีกทีม (ทีมฝั่งจีนนี่ก็ได้ Huawei มาลงทุนละ ที่ตปท.กะ DE ไปคุยด้วยกัน)

ถ้าเป็นก้าวไกลเรื่องพวกนี้อาจจะเร็วกว่านี้หรือดีกว่านี้ แต่นี่เห็นเลยว่าถ้าไม่ใช่รบ.ทหาร การพัฒนาของประเทศมันจะดีขนาดไหน แม่งติดหล่มมา 9 ปี

ปล.ผมเห็น DE เราทำงานล่ะ แม่งแนวคิดแบบเพื่อไทยดั้งเดิมเลย คือเน้นเรื่องการค้าเป็นหลัก คือกระทร่วงต่างๆไม่ได้ทำงานให้คนในประเทศหรอก แต่เน้น support ด้านศก.ให้ดีไว้ก่อน จะเป็น supporting functions แบบนี้เลย (ดีไม่ดีแล้วแต่จะมอง แต่คือเน้นสร้างเม็ดเงินก่อน)

แหม่ เลือกขอวีซ่าถูกประเทศจังเลยยย

ขอให้ปชช หรือขอให้ลูกน้องตัวเองจ้ะ

ลูกน้องจะได้ทำงานสนองความต้องการ ให้นายง่ายขึ้นจ้ะ

ตอบแบบไม่เข้าข้างฝั่งไหนเลยนะ

1. การเจรจาเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ยิ่งลักษณ์ นำโดยสุรพงค์ รมต.ตปท.สมัยนั้น โดยจุดเริ่มต้นมันอาจจะฟังตลกแต่เพราะผญ.ไทยแต่งงานกับคนเยอรมันค่อนข้างเยอะเลยมีไอเดียเกิดขึ้นมา (เป็นเรื่องรองแหล่ะ เรื่องหลักคือศก.มากกว่า) แต่ไม่มีความคืบหน้า ส่วนนึงเพราะศก.Eurozone สมัยนั้นยังดีไม่ต้องง้อเรามาก + การรปห.ทำให้ topic นี้ตกไป

2. ก็เป็นที่น่ายินดีว่าเราเริ่มเจรจาใหม่อีกครั้ง แต่ไม่ใช่แบบ ว้าวววว เพราะมันคือเอาของเก่ามาปัดฝุ่น และเพราะตอนนี้ที่ไหนๆในโลกก็ไม่ค่อยดี 555 เรากับ emerging market แบบอินเดียเราก็มี e-travel เข้าออกประเทศแล้ว ขณะที่กับทางเมกาหรือกับจีนก็มีอีกทีมหารืออยู่อีกทีม (ทีมฝั่งจีนนี่ก็ได้ Huawei มาลงทุนละ ที่ตปท.กะ DE ไปคุยด้วยกัน)

ถ้าเป็นก้าวไกลเรื่องพวกนี้อาจจะเร็วกว่านี้หรือดีกว่านี้ แต่นี่เห็นเลยว่าถ้าไม่ใช่รบ.ทหาร การพัฒนาของประเทศมันจะดีขนาดไหน แม่งติดหล่มมา 9 ปี

ปล.ผมเห็น DE เราทำงานล่ะ แม่งแนวคิดแบบเพื่อไทยดั้งเดิมเลย คือเน้นเรื่องการค้าเป็นหลัก คือกระทร่วงต่างๆไม่ได้ทำงานให้คนในประเทศหรอก แต่เน้น support ด้านศก.ให้ดีไว้ก่อน จะเป็น supporting functions แบบนี้เลย (ดีไม่ดีแล้วแต่จะมอง แต่คือเน้นสร้างเม็ดเงินก่อน)

เค้าขอสำหรับ schengen ทั้งโซนครับ ไม่ใช่แค่เยอรมัน

ปล.เพิ่มเติม พวกคนที่ถือ passport น้ำเงิน (ข้าราชการฝั่งตปท.) น่าจะเข้าได้ฟรีวีซ่าอยู่แล้วครับ ไม่ต้องไปเจรจารอบนี้ก็ได้ครับ

มันมีผลต่อการไปเที่ยวเยอะนะ แค่ค่าวีซ่าก็หลายพันแล้ว เสียไปโดยที่ไม่รู้ว่าจะได้วีซ่าหรือเปล่าด้วย แต่คนหลบหนีเข้าเมืองก็จะง่ายกว่าเดิมเยอะ

อย่าไปจ่ายต่าสสามบิน ให้เสี่ยไหนอีกพอ เปลืองงบ ให้ไปตั้งเยอะ ยังมาให้จ่ายอีก 55 ผมพิมไปเรื่อย

ค่าธรรมเนียม 80.00 ยูโร ประมาณ 3,000-3,100 บาท +ค่าบริการ 1,115 บาท หรือ ครึ่งนึงของค่าธรรมเนียมแต่ไม่เกิน 40 ยูโร ถือว่าถ้าได้จริงลดไปได้เยอะเลยครับ

ผมว่าปัญหาหนีหายไปเลยคงยากเพราะลำบากแน่ๆ
ตอนนี้ยุโรปมีปัญหาเรื่อง immigrant จาก africa และตะวันออกกลางค่อนข้างมาก
ดูทรงแล้วถ้าคนไทยหนีเข้าไปอยู่ยาวน่าจะยาก

น่าสนใจทุกวันนี้ปัญหาในการตัดสินใจไปเที่ยวยุโรปส่วนนึงคือวีซ่า มันเสียเงิน เสียเวลา ต้องวางแผนเพิ่มเตรียมเอกสารจ่ายตังโดยที่ไม่รุ้ว่าได้ไหม แถมมันก้ต้องคิดล่วงหน้าอีก

ไปประเทศฟรีวีซ่าบางทีแค่อยากไป จอง ได้ไปละ

ถ้าได้เป็น เชนเก้นได้ โคตรสบาย
ผมจองตั๋วแน่นอน

กำลังจะหยุดเที่ยวยุโรปเลย 555
เรื่องวีซ่าก็เป็นหนึ่งในเหตุผลมี่จะหยุดไปยุโรปเหมือนกัน
ยังไม่ไปเที่ยวเลย
เสียค่าจัดการเกี่ยวกับวีซ่าเป็นหมื่นละ

จะไปขอวีซ่าเยอรมันนั่งเครื่องเข้ากทม ไปกลับ 5พัน ค่าวีซ่า 3คน7พัน
แถมเสียเวลา เสียวันลางานอีก

เสียเวลา ตอนเข้า กทม ไปทำวีซ่า นี่แหละ
ไหนจะค่าธรรมเนียม ค่าดำเนินการ VFS อีก

ถ้าฟรีวีซ่านี่ โอเคเลย