Credit : Poetry of Bitch

ความรุนแรงในครอบครัว / พ่อฆ่าลูก / พ่อทำร้ายลูก / ฆาตกรต่อเนื่อง
.
สรุปข่าว #ฆ่าลูกฝังโบกปูน
—————
▪️ เด็กหญิงผู้มาเยือนในยามบ่าย
▪️ ชีวิตหลังประตูที่ถูกปิด
▪️ ข้อมูลที่ค่อย ๆ ถูกเปิดเผย
▪️ ฆ่าลูกสาวฝังโบกปูน
▪️ ฆ่าลูกชายอีก 4 ศพ
▪️ ภรรยา 4 ลูก 10 (ตาย 5)
▪️ จับมือปลอบใจกันผ่านลูกกรง
—————
เด็กหญิงผู้มาเยือนในยามบ่าย
:
1- “คุณปลื้ม” อาศัยอยู่ที่อพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งย่านบางเขน บ่ายโมงของวันที่ 10 กันยายน 2566 มีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งวิ่งมาเคาะประตูห้อง เธอมีท่าทางหวาดกลัวและร้องว่า “พี่คะ ช่วยหนูด้วย หนูถูกพ่อทำร้ายร่างกาย”
2- เด็กผู้หญิงคนนี้ชื่อ “น้องวิ” อายุ 12 ปี เป็นลูกของคู่สามีภรรยาที่อาศัยอยู่ในอพาร์ตเมนต์แห่งนี้ คุณปลื้มคุ้นหน้าน้องดี แต่ตอนแรกเขาไม่เชื่อสิ่งที่น้องพูด เพราะทราบมาว่าน้องเป็นเด็กไม่ปกติ ประกอบกับพ่อของน้องเป็นคนอัธยาศัยดี ไม่น่าเชื่อว่าจะทำร้ายลูก
3- น้องวิขอร้องให้คุณปลื้มเชื่อและเปิดแผลบนร่างกายให้ดู คุณปลื้มช็อกมากที่พบว่าน้องมีรอยไหม้ทั่วตัว มีทั้งแผลใหม่ แผลเก่า เห็นได้ชัดว่าถูกทำร้ายมานาน และน้องพูดคุยสื่อสารรู้เรื่องดีเหมือนเด็กปกติทั่วไป คุณปลื้มจึงขอความช่วยเหลือไปยัง “กัน จอมพลัง”
—————
ชีวิตหลังประตูที่ถูกปิด
:
4- พ่อของน้องวิชื่อ “นายเอ็ม” อายุ 47 ปี พื้นเพเดิมเป็นคนจังหวัดตรัง อาชีพรับจ้างส่งของ แม่ชื่อ “นางสุนัน” อายุ 40 ปี อาชีพขายก๋วยเตี๋ยว พื้นเพเดิมเป็นชาวกำแพงเพชร
5- ตอนที่กัน จอมพลัง พาเจ้าหน้าที่ไปถึงนั้นพ่อไม่อยู่บ้าน นอกจากน้องวิกับแม่แล้วในบ้านยังมีเด็กหญิงอายุ 4 ขวบ (น้องมิ้นท์) ซึ่งเป็นน้องสาวของน้องวิอยู่ด้วย พบว่าน้องมิ้นท์ผิวหนังเปื่อยเพราะถูกจับแช่น้ำ ตาบวมเป่ง และปากแหว่ง
6- น้องวิเล่าว่า พ่อทำร้ายเธอมาตั้งแต่เล็ก และบังคับให้แม่ทำด้วย พ่อเคยทุบตีจนเธอชัก เอามีดลนไฟจี้ตามตัว และขังเธอไว้ในห้องน้ำ ส่วนน้องมิ้นท์ก็ถูกพ่อจับกดน้ำ บังคับให้แช่น้ำจนตัวเปื่อย แล้วยังเอาสายฉีดก้นมาฉีดน้ำใส่ตาน้องจนน้องตาบอด ทุกครั้งที่ลงมือทำร้ายพ่อจะสั่งว่าห้ามร้อง ถ้าร้องจะโดนหนักกว่าเดิม จึงไม่กล้าส่งเสียงร้อง
7- แต่นางสุนันยืนยันว่าเธอกับสามีไม่เคยทำร้ายลูก เธออ้างว่าน้องวิเป็นเด็กออทิสติก ดูหนังแล้วชอบจินตนาการ โกหกแต่งเรื่องรียกร้องความสนใจ ส่วนแผลตามตัวเกิดจากรถล้มและน้องทำร้ายตัวเองด้วยการเอาไฟแช็กลน จนเธอต้องเอาไฟแช็กไปซ่อน
8- พม.ตัดสินใจรับเด็กทั้ง 2 คนไปอยู่ในความดูแลก่อน พอนางสุนันได้ยินก็ถึงกับเข่าอ่อน ทรุดลงนั่งและร้องไห้ว่าไม่อยากแยกจากลูก ส่วนนายเอ็มนับแต่วันนั้นก็ไม่กลับมาที่อพาร์ตเมนต์แห่งนี้อีกเลย
** พม. = กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
—————
ข้อมูลที่ค่อย ๆ ถูกเปิดเผย
:
9- เมื่อเด็ก ๆ ได้ไปอยู่ในความดูแลของ พม. ทำให้ทราบข้อมูลเพิ่มเติมอีกหลายอย่าง อย่างแรกคือน้องวิไม่ใช่ลูกของนางสุนัน แต่เป็นลูกที่เกิดจาก “นางเจษฎา” ภรรยาคนที่ 2 ของนายเอ็ม ส่วนนางสุนันเป็นภรรยาคนที่ 4 ทั้งนี้นายเอ็มมีภรรยาทั้งหมด 4 คน และมีพฤติกรรมคบซ้อน

10- ข้อมูลอีกอย่างคือ น้องวิบอกว่าเธอยังมีน้องอีก 2 คน คนหนึ่งเป็นเด็กผู้หญิงอายุ 2 ขวบ (น้องโมเดล) เมื่อก่อนเคยอยู่ด้วยกัน แต่วันหนึ่งน้องหายตัวไป พ่อบอกว่าเอาไปให้ปู่เลี้ยงที่ภาคใต้ อีกคนเป็นเด็กผู้ชายอายุ 6 เดือน (น้องโตโต้) อยู่กับยายที่กำแพงเพชร

11- เจ้าหน้าที่ไปสืบที่กำแพงเพชร พบว่าน้องโตโต้อยู่ที่นั่นจริง ญาติบอกว่านางสุนันเอามาทิ้งให้เลี้ยงตั้งแต่เด็กอายุ 2 วัน และไม่เคยส่งเสีย ที่ผ่านมานางสุนันคลอดลูกแล้วไม่เคยเลี้ยงเอง แต่จะเอามาทิ้งไว้ให้แม่และญาติ ๆ ช่วยกันเลี้ยง พอเด็กพูดได้เดินได้จึงมารับไปอยู่ด้วยที่กรุงเทพฯ

12- ญาติคนหนึ่งเล่าว่าตนเลี้ยงน้องโมเดลมาตั้งแต่เล็ก หลังนางสุนันมารับน้องไปอยู่ด้วย ตนก็คิดถึงหลานจึงพยายามติดต่อเพื่อถามทุกข์สุข เวลาขอดูรูปหลานนางสุนันก็ส่งแต่รูปเก่า ๆ มาให้ พอขอวิดีโอคอลนางสุนันก็ปฏิเสธ อ้างว่ากลัวนายเอ็มทำร้าย

13- “น้องฟิล์ม” อายุ 22 ปี ลูกสาวของนางสุนันที่เกิดกับสามีคนแรก เล่าว่า เมื่อก่อนน้องมิ้นท์กับน้องโมเดลอยู่ที่กำแพงเพชร ต่อมาแม่รับน้องไปอยู่ด้วยที่กรุงเทพฯ ตั้งแต่นั้นมาเธอก็ไม่ได้เจอน้องอีกเลย เวลาแม่พาน้องมากำแพงเพชรก็ไม่ยอมให้เธอพบ อ้างว่าน้องหลับบ้าง อ้างว่าพ่อเขาไม่ให้เจอบ้าง

14- จากนั้นเจ้าหน้าที่ติดต่อไปหาปู่ที่ภาคใต้เพื่อถามหาน้องโมเดล แต่ปู่บอกว่านายเอ็มไม่เคยเอาลูกมาให้เลี้ยง และตนก็ไม่ทราบว่าหลานอยู่ที่ไหน เจ้าหน้าที่ขอให้ปู่ช่วยถามนายเอ็มให้ สุดท้ายนายเอ็มสารภาพกับพ่อว่าเขาพลั้งมือฆ่าน้องโมเดล
—————

ฆ่าลูกสาวฝังโบกปูน
:
15- วันที่ 19 กันยายน ตำรวจจับกุมนายเอ็มกับนางสุนันได้และนำตัวมาสอบเค้น นายเอ็มสารภาพว่าพลั้งมือฆ่าน้องโมเดลตายที่อพาร์ตเมนต์ แล้วเอาศพใส่ถุงดำ 3 ชั้น ขึ้นรถเก๋งขับไปบ้านแม่ของนางสุนันที่กำแพงเพชรเมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม บ้านของแม่มีครัวแยกออกมาจากตัวบ้าน ตนจึงขุดหลุมฝังศพลูกไว้ใต้พื้นครัวและโบกปูนทับ แล้วกลับมากรุงเทพฯ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

16- ญาติที่กำแพงเพชรบอกว่า ปกตินางสุนันกับนายเอ็มจะกลับมากำแพงเพชรทุก ๆ 2-3 เดือน มาถึงจะพักอยู่ราว 3-4 วันก็กลับ ในวันที่ 21 พฤษภาคม ทั้งคู่มาถึงและบอกว่าจะเทปูนพื้นครัวให้เพื่อทำซิงค์ล้างจาน จากนั้นนายเอ็มก็เอาสังกะสีมากั้นพื้นที่และนางสุนันเป็นคนออกไปซื้อปูน

17- เจ้าหน้าที่เดินทางไปที่บ้านหลังดังกล่าว พอทุบพื้นปูนออกก็พบถุงดำวางอยู่ในหลุม พอเปิดถุงก็เจอร่างของน้องโมเดลนั่งคุดคู้อยู่ ที่หัวมีรอยถูกของแข็งกระแทกอย่างรุนแรง คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วราว 4 เดือน
—————
ฆ่าลูกชายอีก 4 ศพ
:
18- ตำรวจสงสัยในพฤติกรรมของนายเอ็ม จึงเรียกตัวนางเจษฎามาสอบปากคำ นางเจษฎาบอกว่าเธอมีลูกกับนายเอ็ม 5 คน นอกจากน้องวิแล้วยังมีลูกชายอีก 4 คน แต่ถูกนายเอ็มฆ่าตายหมดแล้ว โดยเด็กถูกฆ่าในปี 2556, 2557, 2559 และ 2561 ขณะเสียชีวิตเด็กมีอายุตั้งแต่ 1 เดือน – 10 เดือน

19- นางเจษฎาบอกว่า นายเอ็มจะทำร้ายลูกช่วงที่เธอออกไปทำงาน ทุกครั้งที่ลูกเสียชีวิตเธอไม่อยู่ในเหตุการณ์ แต่ตอนเอาศพลูกไปทิ้งนายเอ็มจะบังคับให้เธอพาน้องวิไปร่วมทิ้งศพด้วย โดยเอาไปทิ้งในช่วงกลางคืน จุดทิ้งศพเป็นบริเวณที่เคยพักอาศัยอยู่ด้วยกัน เช่น สายไหม จตุจักร

20- ต่อมาตำรวจพบหลักฐานในเฟซบุ๊กว่า เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม นายเอ็มกับนางเจษฎาเคยเอารูปน้องมิ้นท์ (ลูกสาวนายเอ็มกับนางสุนัน) ไปโพสต์ขอรับบริจาค อ้างว่าลูกพิการซ้ำซ้อน ทั้งตาบอด ปากแหว่งเพดานโหว่ และเป็นโรคหัวใจ แล้วใส่ชื่อบัญชีนางเจษฎา มีคนหลงเชื่อโอนเงินให้จนมีเงินหมุนเวียนในบัญชีจำนวนมาก
** ญาตินางสุนันยืนยันว่าเมื่อยังเล็กน้องมิ้นท์ไม่ได้ปากแหว่ง
—————
ภรรยา 4 ลูก 10 (ตาย 5)
:
21- สรุปแล้ว…นายเอ็มมีภรรยาทั้งหมด 4 คน มีลูก 10 คน ถูกพ่อฆ่าไปแล้ว 5 คน
▪️ ภรรยาคนที่ 1 นางศิรินันท์ ชาวตรัง มีลูกชายด้วยกัน 1 คน อายุ 20 ปี ปัจจุบันเรียนอยู่ที่สงขลา
▪️ คนที่ 2 นางเจษฎา ชาวชุมพร มีลูกด้วยกัน 5 คน คือ น้องวิ อายุ 12 ปี (อยู่ในความดูแลของ พม.) ส่วนลูกชายอีก 4 คนเสียชีวิตหมดแล้ว
▪️ คนที่ 3 นางศรินญา ชาวตรัง มีลูกชายด้วยกัน 1 คน อายุ 10 ขวบ ปัจจุบันอยู่กับแม่ที่ตรัง
▪️ คนที่ 4 นางสุนัน มีลูกด้วยกัน 3 คน คือ น้องมิ้นท์ อายุ 4 ขวบ (อยู่ในความดูแลของ พม.), น้องโมเดล อายุ 2 ขวบ (ถูกพ่อฆ่าโบกปูน) และน้องโตโต้ อายุ 6 เดือน (อยู่กับยายที่กำแพงเพชร)
—————
จับมือปลอบใจกันผ่านลูกกรง
:
22- ตำรวจบอกว่า นายเอ็มอ้างว่าทำร้ายลูกเพราะทนเสียงเด็กร้องไม่ได้ ได้ยินแล้วจะเกิดอาการโมโหฉุนเฉียว นอกจากทำร้ายลูกแล้วยังทำร้ายภรรยาด้วย ทั้งตีด้วยไม้แขวนเสื้อ จับหัวกดน้ำ จับล่ามแล้วใช้มีดลนไฟจี้ หรือใช้ไฟแช็กลนตามร่างกาย
23- นายเอ็มร่ำไห้ขณะบอกนักข่าวว่าตนฆ่าลูกเพราะมีอาการจิตเวช แต่ตนไม่ได้ทำทั้งหมด ตอนนี้สำนึกผิดแล้วและอยากขอโทษสังคม แต่แพทย์ยืนยันว่าผลตรวจทางจิตของนายเอ็มเป็นปกติ ไม่ได้ป่วยจิตเวชแต่อย่างใด
24- นายเอ็มกับนางสุนันถูกจับแยกขัง แต่ห้องขังติดกัน ทั้งคู่นั่งจับมือร้องไห้และปลอบใจกันผ่านลูกกรง กลายเป็นภาพที่คนไทยไม่รู้ว่าควรจะรู้สึกอย่างไรดี
—————
▪️ สรุปและเรียบเรียงจาก: รายการถกไม่เถียง, ไทยรัฐ, เรื่องเล่าเช้านี้, Nation TV, อมรินทร์ ทีวี

เลวระยำจริงๆ อย่าเป็นพ่อคนเลย เป็นเศษผงโง่ๆไปเถอะ มึ- ไร้ค่า

แม่เ-ี้ยๆ หลง ค จนลืมลูก
ประหารไปเถอะ ติดคุกก็เปลืองข้าว เปลืองอากาศหายใจ

ประหารชีวิตอย่างเดียว ติดคุกเปลืองภาษีกับแม่งอีก

อ่านถึงข้อ 6 ไม่อยากอ่านต่อแล้ว

แม่เ-ี้ยๆ หลง ค จนลืมลูก
ประหารไปเถอะ ติดคุกก็เปลืองข้าว เปลืองอากาศหายใจ

ผัวเมีย นี่มัน ผีเน่ากับโลงผุชัดๆ

ควรทรมานมันก่อนอย่างที่มันทำกับลูก
แล้วค่อยให้มันตายอย่างช้าๆ
ถึงจะสาสมกับที่มันทำ

ประหาร ทั้งคู่

แต่สารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่ง จากยิง 12นัด เหลือยิง 6นัด

ไม่มีเหตุผลให้เก็บคนแบบนี้ไว้บนโลกเลยจริงๆ

อ่านแล้วใจหวิวเลย

ทำไมผมรู้สึกว่าคนแบบนี้ ไม่อยากให้ตายก่อน อยากให้มันอยู่อย่างทรมานมากกว่า เป็นทาส โดนใช้แรงงาน ใช้การทรมาน การทำร้ายร่างกาย อย่างที่มันทำกับคนอื่น

อ่านแล้วจะร้อง ทำไมคนเรามันเลวระยำได้ขนาดนี้ สามัญสำนึกความเป็นคนไม่มีเลยหรอ ตายๆ ไปทั้งคู่นั้นแหละ

สงสารเด็กๆมาก

เชื่อไหม ขนาดนี้แล้ว ไม่มีประหารแน่นอน รออภัยโทษกลับออกมาในสังคมอีก

ประหารก็ง่ายไป๊ ผมว่าให้ไปโดนกลั่นแกล้ง ซ้อมจนตายในคุกน่าจะสะใจกว่าเยอะ
โหดชิบหาย คดีพ่อแม่ทารุณลูกฟังของต่างชาติมาเยอะ แต่อันนี้บ้านเราให้อยุ่ใน top ๆ เลย โหดชิบ

แม่งอ่านแต่ไอ้เพจ กปปค กปปพ เยอะจัด ย่อ พม. ผมอ่านเป็นพรี่หมีตลอดเลย แสรสเอ้ย

เสียใจจริง รึ แค่กลัวติดคุก