ปลดโค้ชเฮเลย! 'มุลเลอร์,ซาเน่' ยิงส่งอินทรีเฉือนน้ำหอม 2-1
BLOG TOPIC_A
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email:
sale@soccersuck.com
โปรโมชั่นลดจากเดิม 30% (ไม่รับโฆษณาผิดกฏหมายทุกประเภท)
ทีมชาติ เยอรมนี ปลดโค้ชไปแล้วเลยแสดงความมุ่งมั่นให้เห็นออกสตาร์ทด้วยประตูนำในเวลาเพียงแค่ 4 นาทีจากลูกยิงของ โธมัส มุลเลอร์ ก่อนจะเงียบๆไปจนกระทั่งท้ายเกม เลรอย ซาเน่ ยิงเพิ่มและแม้จะเสียจุดโทษแต่ ฝรั่งเศส ก็ไล่ไม่ทันทำให้ อินทรีเหล็ก เป็นฝ่ายอุ่นเครื่องเฉือนชนะ น้ำหอม 2-1
เยอรมนี
Starting Formation: 4-2-3-1
1.
มาร์ก-อันเดร แตร์ สเตเก้น
16.
เบนยามิน เฮนริคส์
78'
21.
อิลคาย กุนโดกาน
25'
9.
ฟลอเรียน เวิร์ตซ์
78'
10.
แซร์จ กนาบรี้
64'
13.
โธมัส มุลเลอร์
64'
ตัวสำรอง
20.
โรบิน โกเซนส์
78'
7.
ไค ฮาแวร์ตซ์
64'
17.
ยูเลี่ยน บรันท์
64'
18.
โยนาส ฮอฟมันน์
78'
24.
พาสคาล โกรส
25'
ฟุตบอลกระชับมิตร
สนาม ซิกนัล อิดูน่า ปาร์ค
วันที่ 12 กันยายน 2566
กรรมการ แอนโธนี่ เทย์เลอร์
เยอรมนี
2
1
ฝรั่งเศส
1-0 มุลเลอร์ 4'
2-0 ซาเน่ 87'
เยอรมนี ปลด ฟลิค ออกจากกุนซือตอนนี้เลยมี โฟลเลอร์ คุมขัดตาทัพแล้วก็ลองปรับแผงหลังให้ ทาห์ เป็นตัวจริงโดยให้ เฮนริคส์ ยืนแบ็คซ้ายแล้วทางแบ็คขวาขยับ ซูเลอ ไปเล่น
ฝรั่งเศส เลือกที่จะใช้ มูอานี่ ยืนกองหน้าแล้วดร็อป เอ็มบาปเป้ ไปนั่งสำรองพร้อมลองส่ง คามาวิงก้า มาช่วยแดนกลางที่มี ราบิโอต์ กับ ชูอาเมนี่
เริมต้นคึก! เฮนริคส์ หักถึง มุลเลอร์ ยิงตุงส่งอินทรีนำ
เริ่มเกมมาไม่ทันไร เยอรมนี เดินหน้ากดดันเข้าใส่แล้วก็เอาประตูนำทันที จากที่บอลเปลี่ยนแกนทางขวามาซ้าย เฮนริคส์ ฝากไปที่ กนาบรี้ ก่อนสอดเข้าเขตโทษรับบอลคืนแล้วหักมาตรงกลางบอลถึง มุลเลอร์ ซัดตุงตาข่าย เยอรมนี นำแล้ว 1-0
อินทรีลุยต่อ กนาบรี้ ตัดเข้าในยิงออกเสาสอง
เกือบมีเพิ่มให้กับ เยอรมนี หลังใช้บอลวางยาวขึ้นหน้าถึง กนาบรี้ แปะให้ มุลเลอร์ ก่อนส่งกลับคืนมาที่ กนาบรี้ ตัดสินใจเลี้ยงตัดเข้าในกรอบแล้วยิงออกเสาสอง
มูอานี่ ล้มในเขตโทษถามหาจุดโทษเปาไม่แจก
ฝรั่งเศส พยายามตอบโต้บ้างได้บุกมาด้วย โคมัน แหวกมาหน้าเขตโทษแล้วส่งต่อ มูอานี่ เข้าไปในกรอบโดนเบียดล้มก่อนได้ยิง ฝรั่งเศส ถามหาจุดโทษแต่เปาไม่แจก
กุนโดกาน โดนเปลี่ยนแล้ว โกรส ลงแทน
เยอรมนี จำเป็นต้องเปลี่ยนตัวไวเลย กุนโดกาน เหมือนจะบาดเจ็บเลยต้องให้ โกรส ลงมายืนในแดนกลางแทน
มูอานี่ ยิงจากกรอบเขตโทษข้ามคาน
กลับมาเป็น ฝรั่งเศส ได้โอกาสจบจากที่หน้าเขตโทษ ชูอาเมนี่ เบิ้ลให้กับ มูอานี่ แตะหลบตัวสกัดมาได้ก่อนจะยิงจากแถวกรอบเขตโทษส่งบอลพุ่งข้ามคาน
ชูอาเมนี่ ได้โหม่งสองหนติดยังไม่เป็นประตู
จังหวะนี้ของ น้ำหอม ได้ลุ้นกับฟรีคิกเกือบสุดมุมธงทางขวาเปิดมาในเขตโทษแล้วมี ชูอาเมนี่ โหม่งได้แต่โดนปัดปลายมือข้ามคานออกไป
จังหวะเตะมุมของ ฝรั่งเศส ก็ได้จบอีกหลังจ่ายสั้นให้ โคมัน เปิดเข้าไปในกรอบแล้ว ชูอาเมนี่ โหม่งได้หนนี้แต่โดนรับไว้
เตโอ ตัดเข้าในมายิงเองก็ยังหลุดกรอบ
ก่อนหมดครึ่งแรก ฝรั่งเศส หาโอกาสจบได้อีกทีด้วยบอลเปลี่ยนแกนจาก กรีซมันน์ ทางขวาข้ามไปให้ เตโอ ทางซ้ายเข้าเขตโทษก่อนพยายามล็อกเข้าขวาแล้วยิงเองยังหลุดกรอบ
ชูอาเมนี่ ลองยิงไกลยังโดนเซฟ
กลับมาครึ่งหลัง ฝรั่งเศส กดดันได้ในช่วงต้นแล้วมีจังหวะจบอีกจาก ชูอาเมนี่ รับบอลหน้าเขตโทษโดนไล่บี้มายังพยายามเลี้ยงหนีจนได้ยิงไกลแต่โดน แตร์ สเตเก้น เซฟเอาไว้
ชูอาเมนี่ เปิดให้ อ๋อง โหม่งบ้างแต่ออกหลัง
ฝรั่งเศสได้จบอีกครั้งเมื่อ ชูอาเมนี่ ทางซ้ายเลือกเปิดดีดไซด์ก้อยเข้ามาในกรอบแล้ว กรีซมันน์ โหม่งได้แต่ก็หลุดเสาแรกออกไปพอสมควร
อินทรีลองบ้าง! บรันท์ หักให้ เวิร์ตซ์ ยิงโดนบล็อก
เงียบไปนาน เยอรมนี หาโอกาสลุ้นประตูเพิ่มกันบ้างด้วยจังหวะโต้กลับจ่ายขึ้นทางซ้ายให้ บรันท์ โฉบมาแล้วหักเข้าในเขตโทษถึง เวิร์ตซ์ มีโอกาสส่องเน้นๆแต่โดนบล็อก
ตามสไตล์เกมอุ่นเครื่องไม่ค่อยมีอะไรมากในครึ่งหลัง
เกมเข้าช่วงท้ายต่างฝ่ายต่างไม่ได้เร่งอะไรกันมากเล่นไปตามประสาเกมอุ่นเครื่อง ที่เคลื่อนไหวก็มีเพียงแค่การทยอยเปลี่ยนตัวนักเตะออกไปเท่านั้น
มีลุ้น! อ๋อง ยิงโค้งๆโดนปัดข้ามคาน
ฝรั่งเศส ได้จังหวะให้ลุ้นตีเสมอจากทีแรก เด็มเบเล่ ยิงหน้าเขตโทษแล้วโดนบล็อกไว้บอลยังเด้งไปหา กรีซมันน์ เลยยิงโค้งๆสวนเข้าไปอีกทีแต่ สเตเก้น ปัดข้ามคานไปก่อน
ตอกฝาโลง! อินทรีโต้กลับ ซาเน่ ทะลุไปยิงฝัง
แล้วก่อนหมดเวลาก็เป็น เยอรมนี ที่เอาประตูเพิ่มได้จากจังหวะโต้กลับ ฝรั่งเศส จ่ายกันไม่ดีเลยโดน ฮาแวร์ตซ์ แทงทะลุช่องส่ง ซาเน่ สปีดตามบอลเข้าเขตโทษไปแปเสียบเสาไกลปิดท้ายนำ 2-0
ยังมีหวัง! น้ำหอมได้จุดโทษ อ๋อง ยิงตีไข่แตก
ให้หลังจากนั้นไม่กีนาที ฝรั่งเศส ได้จุดโทษเข้าให้หลังจาก คามาวิงก้า ล็อกหลบแล้วโดน ซาเน่ เตะกวาดล้มลงไปกรรมการชี้ทันที
กรีซมันน์ เป็นคนรับหน้าที่สังหารและก็ไม่พลาดทำให้ ฝรั่งเศส ยังมีความหวังไล่มา 2-1
จบเกม เยอรมนี น่าจะลดความกดดันไปบ้างเฉือนชนะ ฝรั่งเศส 2-1 จากนี้ไปจะเป็นการตามหากุนซือที่จะมารับตำแหน่งต่อจาก ฟลิค ให้ไวที่สุด
ฝรั่งเศส
Starting Formation: 4-2-3-1
2.
แบ็งฌาแม็ง ปาวาร์
64'
14.
อาเดรียง ราบิโอต์
78'
20.
คิงสลี่ย์ โคมัน
64'
12.
รานดัล โคโล่ มูอานี่
64'
ตัวสำรอง
11.
อุสมาน เด็มเบเล่
64'
18.
ยุสซุฟ โฟฟาน่า
78'
5.
ฌูลส์ คุนเด้
64'
15.
มาร์คุส ตูราม
64'
404: Not Found
แก้ไขล่าสุดโดย redenzo เมื่อ Wed Sep 13, 2023 04:01, ทั้งหมด 4 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ
: 0 ใบ
My Locker
