ขออนุญาตเขียนกระทู้ในมุมมองส่วนตัว เพราะช่วงนี้ไม่ได้สนใจท่าทีเพื่อไทยอีกแล้ว คือมันเป็นไปตามคาดจริงๆ ถ้าไม่มองโลกในแง่ดีเหมือนช่วงหลังเลือกตั้งใหม่ๆเกินไปนัก จะเห็นคนมาเบรคด้วยscenarioเยอะแยะ ทั้งคุณศิธา เสี่ยชูวิทย์ หรือ อจ.เจียม แต่ช่วงนั้นอย่าว่าแต่ในFBเลย เอาแค่ในSSเนี่ย ใครตั้งกระทู้พวกนี้นะเป็นต้องโดนแซะ แต่ท้ายที่สุด ก็เริ่มๆจะเป็นตามที่คนเขาเตือนๆกันจริงๆ

ทีนี้ผมรู้สึกอยากแสดงความคิดเห็นท่าทีของอจ.เจียมกับก้าวไกลมากกว่า แท้จริงแล้วอุดมการณ์ตั้งแต่ของธนาธรกับอจ.เจียมดูไม่ได้แตกต่างกันมากนัก แต่ก้าวไกลสมัยนี้ผมว่าค่อนข้างจะต่างกันเยอะ

ในความเข้าใจของผมประเทศนี้Runโดยกลุ่มElite ผสมผสานไปด้วย พวกชนชั้นนำทางเศรษฐกิจ กลุ่มทหาร และก็ขั้วการเมือง ซึ่งพวกนี้ สุดท้ายแล้วถึงแม้จะดูเหมือนเป็นเบื้องหลังที่คอยRunทุกอย่างบนประเทศนี้ แต่ก็จะมีสิ่งเชื่อมโยง ยึดเหนื่ยวเอาไว้ ก็คือสถาบันนี่แหละ จะทำอะไร ยกชื่อสถาบันขึ้นมา คนก็เชื่อ ก็กลัว ก็ยอมกันทั้งหมด จะเอาไปหาเสียง ก็ยังหลอกคนได้ในบางกลุ่ม จะเอาไปขูดรีด ก็ยิ่งทำได้ง่าย ปฏิเสธไม่ได้หรอก คำว่า"ผู้ใหญ่"ที่ใช้หากินกันแบบชั่วๆในประเทศเรา ใหญ่สุดมันใครล่ะ คิดไม่ยากเลย Common Senseเท่านั้น แต่ต่อให้สถาบันไม่ได้ลงมือทำอะไรพวกนี้เอง แต่การที่ไม่ได้ขัดขวาง เพราะมันเสมือนเป็นน้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่ากัน ก็ยิ่งตอกย้ำว่าทุกPartyภายใต้วงแหวนEliteอันนี้นั้น ต่างก็ทำเพื่อความอยู่รอดของตัวเองมาก่อน

ผมเชื่อว่า อจ.เจียม หรือ ก้าวไกล ก็ต้องเห็นสิ่งนี้(แต่ก็แน่นอนว่าต้องเชิงลึกกว่า ซับซ้อนกว่า และเข้าใจมากกว่าคนด้อยประสบการณ์อย่างผมแน่ๆ) แต่ที่ภาพที่เห็นเหมือนอจ.เจียมแกคอยจะหาเรื่องก้าวไกล(ผมไม่ได้รู้สึกแบบนั้นนะ แต่จากคอมเม้นท์ในเพจอจ.แกไปทางนั้นเยอะ) จริงๆมันมีมากกว่านั้น ในความเห็นส่วนตัวผมคิดว่า ทั้งสองฝ่าย อยากสร้างความเปลี่ยนแปลง แต่มีวิธีexecutionที่แตกต่างกัน(ขอพูดในมุมมองว่าแต่ละฝ่ายอยากจัดการปัญหาบ้านเมืองอย่างไร ดังนั้นแม้อจ.เจียมจะไม่ใช่นักการเมือง แต่วิธิการแสดงออกของแกค่อนข้างจะชัดเจน)

- อจ.เจียม อยากจะกำจัดหรือปฏิรูปสถาบัน เป็นPriorityแรก แล้วจึงค่อยขยับไปจัดการสิ่งอื่นๆ ที่แกขัดใจว่าก้าวไกลจะยอมถอยเรื่องปธ.สภา จะยอมถอยเรื่อง112 เพราะแกคิดว่า อุดมการณ์มันต้องไม่มีถอยเพียงเพราะการเข้าไปสู่อำนาจ เพราะถ้าถอยวันนี้ วันหน้าจะต้องถอยอะไรอีก ในมุมมองของแกมันเป็นเกมยาว แม้คราวนี้ชนะ แต่ถ้าต้องถอยไปเรื่อยๆ ไม่ได้ขจัดปัญหาต้นตอ มันจะไม่มีทางสำเร็จ และยิ่งจะเผยจุดออ่อนทางการเมือง พร้อมจะอะลุ่มอล่วยให้กับความไม่ถูกต้องบางอย่าง เพื่อไปเอาความถูกต้องกว่า บางครั้งในอนาคตมันจะเป็นแผลที่พร้อมจะถูกเปิด หรือ ถ้าเรามาพูดเรื่องความยุติธรรม การละเว้นบางอย่างเพื่ออีกอย่างนั้น สิ่งแรกที่เราละเว้นไป ถ้ามันมีคนต้องทนทุกข์กับสิ่งนี้ล่ะ แล้วมันจะใช่ความยุติธรรมรึเปล่า

- ก้าวไกล เชื่อว่าการจะทำหลายอย่างพร้อมกันได้ ดังนั้นการเข้าสู่อำนาจ ก็คือเรื่องที่มีความจำเป็นอย่างมาก ก็จะเห็นได้จากท่าทีของก้าวไกลตั้งแต่หาเสียง แม้ดูแหลม แต่ก็ไม่ได้คมเสียดแทงคนบางกลุ่ม ทำให้ได้เสียงมาเป็นอันดับ1ได้ คือตอนนี้ก้าวไกลเป็นผู้เล่นอย่างเต็มตัว ก้าวไกลมองว่าการจะเปลี่ยนแปลงนั้นสามารถเริ่มทำได้เลย การมองข้ามบางอย่าง เพื่อคว้าผลประโยชน์ที่จับต้องได้เลย มันจะเกิดการเปลี่ยนแปลงเล็กๆที่นำพาไปสู่สิ่งใหญ่ๆได้ในภายหน้า อาจจะต้องเพิ่มแรงส่งจากกระแสสังคม การชุมนุม หรืออะไรก็ว่ากันไป

แบคกราวน์ผมอาจจะอ่อนด้อยเกินไป(แค่ชอบอ่านสามก๊ก)ในการวิเคราะห์สถานการณ์ทางการเมืองที่มันซับซ้อนมากๆ แต่ก็มีความรู้สึกเข้าใจทั้ง 2 มุมมอง แต่ถ้าต้องเลือก ผมค่อนข้างจะเอนเอียงไปทาง อจ.เจียม อยากจะเล่นเกมยาว ยึดถือคุณค่าและอุดมการณ์ตัวเองเอาไว้ เข้าไปขจัดรากเหง้าปัญหา และรอแลนด์สไลด์ครั้งหน้า แม้ครั้งนี้ต้องเป็นฝ่ายค้านก็ตาม บางทีผมอาจจะผิดก็ได้ เพราะมีคนอีกมาก ที่ไม่มีจะกินแล้วรอไม่ได้อีกแล้ว แต่ในความคิดเห็นส่วนตัว ก็ยังคิดว่า การขจัดปัญหาหมักหมมมานานเป็นร้อยเป็นพันปี มันต้องแก้ปัญหากันอย่างอดทน แน่วแน่ในจุดยืน ไม่อะลุ่มอะหล่วยให้กับความไม่ถูกต้อง เพราะสิ่งที่เราจะทำมันไม่ใช่การแก้ปัญหาอย่างเดียว แต่เรากำลังจะสร้างไม้บรรทัดใหม่ เพื่อเป็นมาตรวัดชิ้นใหม่ให้กับสังคม นั่นไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้องกว่าหรือ?

คิดเห็นประการใด มาลองแลกเปลี่ยนกันได้นะครับ

ช่วงก่อนเลือกตั้งเจียมแกอวยก้าวไกลรัวๆนะครับ มาด่าช่วงนี้แหละ คือแกไม่ได้คิดว่าตอนนี้มันเป็นฝั่งปชต.สู้กับฝั่งเผด็จการอ่ะ แกมองเพื่อไทยเป็นพวกเดียวกับพปชรตั้งแต่แรกแล้ว เลยไม่อยากให้กก.ไปจับ แกอยากให้กก.ชนะเกินครึ่งให้ได้ก่อนละค่อยตั้งรัฐบาล รอบนี้ยังตั้งไม่ได้ก็ไม่ต้องตั้ง

สิ่งที่ อจ. เจียม แกต้องการทำคือ ปฏิรูปอิมอย่างเดียว เพราะแกมีประเด็นอยู่
สิ่งที่ กก. ต้องการทำคือ ช่วยเหลือประชาชน ทุกเรื่องที่เป็นปัญหาต้องเร่งแก้ไข

นั่นคือความต่าง วิธีการมันเลยต่าง

ช่วงหลังเลือกตั้งคนก็ถล่มแกเยอะ หาว่าเกลียดก้าวไกล

แต่ไม่จริงหรอก แกแค่ไม่ใช่คนที่อินในตัวบุคคลหรือตัวสถาบันการเมืองใดๆ



ช่วงยิ่งลักษณ์เป็นรัฐบาลแกด่ายับกว่านี้เยอะมากๆ อันนี้แซะก้าวไกลนิดนึงก็ร้องกันแล้ว

ลองไปย้อนดูคลิปเก่าๆก็ได้จะเห็นเลยว่าแกตีกับทุกคนที่สู้ไปกราบไป

พอติ่งส้มที่ล้อติ่งแดงเรื่องสู้ไปกราบไป กลับจะยอมให้ก้าวไกลหันมากราบอีกพรรค

สู้ไม่ถอย ถ้าพลาดพลั้งก็ได้บินแบบ เจียมแน่นอน

รอบนี้พลังยังไม่พอจะแก้ 112 รอไปก่อนให้เสียง สส เกิน 375 เมื่อไหร่ เสียงประชาชนมากพอจะพูดได้เต็มปากว่าต้องแก้ 112 นะตามมติประชาชน

สิ่งเดียวที่เจียมชอบก้าวไกล คือเป็นพรรคเดียวที่มีนโยบายเกี่ยวกับสถาบันฯครับ ไม่มีอย่างอื่นเลย ถ้ามีพรรคอื่นที่ตรงกว่านี้ แรงกว่านี้ กล้ากว่านี้ เจียมก็คงไปเชียร์พรรคนั้นเหมือนกัน


กลับกัน เจียมเองก็มองเพื่อไทยมาตลอดว่าเป็นแบบนี้ และที่หัวเสียที่สุดคือก้าวไกลไปเชื่อใจคนแบบนั้น เลยโดนแทงเข้าเต็มหลัง เลยทำให้เรื่องที่แกแคร์ คือ 112 เนี่ย น่าจะตัดจบไปทันทีเลยมากกว่า

ตอนนี้ท่านอิมกำลังขาลงแล้ว ต้องใช้เวลากว่าจะสุขงอมเต็มที่
เชื่อว่าวันที่เจียมคิดจะมาถึงอย่างแน่นอน

คหสต. ผมนะ ถ้าเปรียบ 112 เป็น สเต็ก ซึ่งเวลาคนเข้ามาที่ร้านอาหาร เสต็ก ก็คือ จานที่สำคัญ และส่งผลต่อร้านๆนั้นมากๆๆ

SSJ - ทำสเต็ก

Move Forward - ทำสเต็ก, หั่นผัก, ทำซอส, ล้างจาน, เตรียมโต๊ะ, ทำบัญชี, ทิ้งขยะ, etc.

ถูกเลยครับ ซึ่งผมก็ถึงบอกว่าผมก็เอนเอียงไปทางฝ่ายแก คือไม่ได้หมายถึงเชื่อแกบูชาแกอะนะ แต่ค่อนข้างจะมีมุมมองเหมือนแก แต่คงไม่ได้ถึงขั้นมาด่าก้าวไกลหรอก เพราะก็อย่างที่บอกว่าเข้าใจ ว่ามันเป็นเพียงExecutionที่ต่างกัน ตอนนี้รำคาญอย่างเดียวคือพวกด่าสมเจียม ว่ามาดิสเครดิตก้าวไกล ผมว่าแกเหมือนอจ.ปวีณจะตาย อวยเยอะแยะไปตามข้อเท็จจริง เพราะมีอุดมการณ์ใกล้เคียงกับคำว่าอุดมคติที่สุดแล้วสำหรับประเทศไทยในเวลานี้ เพียงแต่ๆหลังๆการเดินเกมมีมุมมองที่ต่างกันเท่านั้นเอง

จากที่อ่านมาผมไม่คิดว่าแกไม่อยากให้กก.เป็นรัฐบาล อันนี้ต้องแยกกับเรื่องที่แกวิจารณ์ว่า 112 อย่างเดียวมันไม่พอ

ที่แกโพสทุกวันนี้คือแกเชื่อว่าใจจริงไม่มีใครเอากก. แกเลยอยากให้แต่ละพรรคจับมือกันตามใจอยากไม่ต้องฝืนให้เห็นธาตุแท้



https://www.facebook.com/somsakjeam/posts/pfbid0HCivhmx2Dp9hkg7keKbh4fZra8fw3qix8eZzD9GFpVfJRx18Ea2Z2qso2ahJYbYel



https://www.facebook.com/somsakjeam/posts/pfbid0Y2KJkyU7RDjZtkYYM7LJ1TbNUCVjgWnWkdmH9Sft3ri6Ktv3kYjp6CKquGssyMjVl

นี่โพสหลังเลือกตั้ง 1 อาทิตย์

ดูคล้ายกับว่าท่าที กก มันไม่ได้ดั่งใจแก แม้แกจะแอบๆเชียร์ก้าวไกลเกี่ยวกับเรื่องอุดมการณ์หรือความพยายามเรื่องสถาบันก็ตาม ทั้งที่เอาเข้าจริงสถานการณ์ไม่ได้ผิดไปจากที่แกคาดมากนัก คือ พท ตลบหลังกินรวบ
แต่ก็ไม่เข้าใจว่าแกจะจิกกัด กก อะไรนักหนา เหมือนลูกไม่ได้ดั่งใจ เหมือนแกคาดหวังว่า กก จะชนได้มากกว่านี้ แต่มูฟเม้นมันบุ่มบ่ามห่ามห้าวแบบในการ์ตูนพลังพวกพ้องไม่ได้ไง

เจียมไม่โอเคตั้งแต่ก้าวไกลเลือกที่จะ"แก้"แทน"ยกเลิก"ละมั้ง
แต่ส่วนตัวผมยังโอเคกับหลักการของแกอยู่

ใช่ครับ ก็เป็นแบบนั้นแหละ ก็อย่างในเนื้อหาที่ผมเขียน ผมว่าแกมองเรื่องปัญหาตรงนี้เป็นPriorityแรก เป็นรากเหง้าของทุกปัญหาไง เหมือนอจ.ปวีณเลย ไม่ใช่พวกอจ.แกมองข้ามปากท้องหรอก แต่อจ.แกรู้ว่ามันต้องขจัดตรงนี้ไปก่อน แล้วค่อยไปคุยกันตรงนั้น (แต่ก็อย่างที่บอก บางทีมันอาจจะผิดก็ได้ เพราะมันมีคนที่ไม่มีกินแล้วรอไม่ได้ แล้วก็ขอทิ้งท้ายแบบในกระทู้ว่า ปัญหาหมักหมม มันแก้ด้วยการอะลุ่มอะล่วยไม่ได้ แต่ต้องแน่วแน่ในจุดยืน และต้องอดทนและใจเย็น คือถ้ามันแก้ไม่ได้ในรุ่นของเราจริงๆ เราก็ทำประโยชน์ให้มากที่สุดเพื่อส่งต่อไปแก้ในรุ่นถัดไปเท่านั้นเอง)

112 ต้องทำไป ได้โอกาสไปเปน รัตบาลควรไม่ทิ้ง มีผลงานมาก คนเหน ได้ สส มาก ความชอบธรรมในการแก้112 ถ้ามวลชนถือหาง กก ทำไรง่ายขึ้น

ปัญหาเดียวกันแต่ต่างคนมันก็มองวิธีแก้ต่างกันอ่าครับ
ยิ่งกับปัญหาระดับสถาบัน การเมือง เศรษฐกิจ ปากท้องต่างๆมันยิ่งกว้างอีก
อย่างผมก็คิดแบบเดียวกับเจียมเรื่องสถาบัน แต่สุดท้ายพอมันมีเรื่องอื่นๆมาเกี่ยวข้อง
ตัวแปรมันเยอะ หลายๆอย่างมันหลากหลายมากๆ ก็เริ่มจะมองในมุมที่ต่างออกไป

สิ่งที่ผมเชื่อคือทุกอย่างมันต้องใช้เวลา ไม่ว่าจะเปลี่ยนแปลงแค่ไหน อะไรยังไง
แต่สิ่งที่จะเร่งเวลาได้คือตัวกระตุ้น ซึ่งของพวกนี้จังหวะและไทม์มิ่งมันต้องเป๊ะ
อย่างพวกประวัติศาสตร์หลายๆอย่างที่เกิดก่อนหน้าอะนะ