ให้รีวิวนี่รีวิวไม่ถูกจริงๆ จะบอกดีมากก็ไม่เต็มปากเพราะไม่ใช่คนดูหนังแนวนี้ แต่จะบอกไม่ดีก็ไม่ได้อีก เอาเป็นความรู้สึกละกัน

-การเฉลี่ยบททำได้ดีมาก นักแสดงเทพทุกคน บางคนคิดว่ารับเชิญมาเฉยๆ แต่มีบทมีซีนทุกคน ให้ตายเถอะ (ควรศึกษาก่อนว่าใครเป็นใครไปบ้างจะดีมาก)


-หลายๆอย่างโคตรจะ related กับการเมืองไทยช่วงนี้สุด ๆ

-สามชั่วโมง คุณไม่อาจลุกไปเข้าห้องน้ำได้เลย หนังเต็มไปด้วยบทที่อัดแน่น ยิ่งช่วงครึ่งหลัง หนังมันจะรัวทุกสิ่งใส่คุณจนจบเลย

-เพิ่มเติมจากด้านบน สิ่งที่ทำให้ผมทึ่งไม่ใช่ฉากระเบิด แต่เป็น "บท" ที่โคตรแน่นและแยบคาย

สรุป จากคนดูหนังทั่วไปหลังดูจบผมเข้าใจแล้วว่าทำไมหลายๆ คนบอกเรื่องนี้ไปถึงออสการ์ได้เลย ใครยังลังเล ไปดูเถอะครับ ไม่เสียดายเงินแน่นอน

ไม่ถามเรื่องคุ้มตัง

ต้องดูในโรง หรือต้อง imax มั้ยครับ อยากดูงานภาพ imax no cg จัดๆ จะเอาไปบิ้วภรรแฟน

RDJ เล่นแล้วไม่เหลือ Iron man เลย สลัดได้หมดจดจริง

ดู IMAX เถอะครับ ภาพชัด ๆ เต็มตา เสียงกระหึ่ม ๆ เพิ่มเติมนิดนึง ผมคิดว่าต้องเป็นคนที่สนใจวิทยาศาสตร์อยู่บ้าง ถึงจะดูเรื่องนี้ได้เข้าใจครับ

ก้มลงไปคุ้ย ๆ ทิชชู่เปียกจากในกระเป๋า
เงยหน้าขึ้นมา อ้าว หลุด ตะกี้มันพูดอะไรวะ
ตั้งใจกว่าเรียนแลคเชอร์

เห็นด้วยครับ แต่ท่าเดินยังโทนี่ สตาร์ค อยู่นะ 555 (ตอนเดินมาหาพระเอกตรงริมน้ำ)

บทสนทนาสุดท้ายของเรื่องนี้มันทัชผมจริงๆครับ

บทพูดดีจริง เรื่องนี้ คอนเฟิร์ม

ทีแรกตั้งใจจะเข้าไปดูระเบิด
แต่พอเจอบทพูดเข้าไป โอ้โห้ แยบยล คมคาย ดีงาม

มันจะมีช่วงนึงท้ายๆ ที่ผมแว้บขึ้นมาในหัวว่า นี่พูดถึงการเมืองไทยตอนนี้ อยู่รึเปล่า

ผมเข้าใจแบบนี้นะ ไม่รู้ถูกมั้ยเลย หนังงงชิบเป๋ง

Imax เรื่องนี้ไม่ได้เน้นงานภาพอลังครับ มันเป็นมิติใหม่เน้นฉากสนทนา มุมกล้อง ความรุ้สึกของตัวละครล้วนๆ เลย

ลองฟังประวัติ oppenheimer ไปก่อนนะครับ หาคลิปสัก 10-20 นาทีที่เค้าสรุปประวัติให้ น่าจะดูแล้วไม่งงครับ แต่จะสปอยนะ 555

โลเคชันสวยครับ เป็นหนังปรัชญา วิทยาศาสตร์ การเมือง ความสัมพันธ์ แสดงผ่านตัวละครในเชิงนามอธรรม ซ่อนความหมายเบื้องลึกผ่านการแสดงของตัวละคร ไม่ต้องหลบสปอยครับ เพราะอ่านสปอยก็งงอยู่ดี หนังมันอิงเรื่องจริงอยู่แล้ว ผมแนะนำให้ทำการบ้านเรื่อง ความสัมพันธ์ของพระเอกและคนรอบตัว+รายละเอียดของการสอบสวน รวมถึงบทสรุปที่พระเอกโดนตัดสิน ปวดหลังเลยครับ 3 ชม.

จำเป็นต้องดูซับไหม