เรียงหน้ายิง! 'ตราไก่' ปิดจ็อบถล่มสวิส 4-1 กอดคอเข้ารอบ
BLOG TOPIC_A
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email:
sale@soccersuck.com
โปรโมชั่นลดจากเดิม 30% (ไม่รับโฆษณาผิดกฏหมายทุกประเภท)
ตราไก่ ฝรั่งเศส ปิดท้ายรอบแบ่งกลุ่มได้อย่างสวยหรู คว้าแชมป์กลุ่มดี จากการชนะ 3 นัดรวด หลังไล่ถล่ม สวิตเซอร์แลนด์ แบบขาดลอย 4-1 กอดคอกันเข้ารอบ ภายหลัง อิตาลี พลาดท่าแพ้ นอร์เวย์
สวิตเซอร์แลนด์
Starting Formation: 4-2-3-1
2.
เลวิน บลูม

86'
19.
ดาเรียน มาเลส

71'
10.
คาสทริออท อิเมรี่

77'
7.
แดน เอ็นดอย

87'
23.
เซกี้ อัมดูนี่

87'
ตัวสำรอง
6.
ซิมง โซห์ม

71'
11.
ยูเลียน ฟอน โมส

77'
14.
มัตเตโอ ดิ กุสโต้

87'
16.
แซร์จ มุลเลอร์

86'
18.
เบลเดียน คราสนิกี้

87'
ยูโร ยู-21 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มดี
สนาม สตาดิโอนุล ดร.คอนสแตนติน ราดูเลสคู
พุธที่ 28 มิถุนายน 2566
กรรมการ มอร์เทน ครอฟ (เดนมาร์ก)
สวิตเซอร์แลนด์
1
4
ฝรั่งเศส
0-1 อามีน กูอิรี่ 16' (Pen.)
1-2 แบรดลี่ย์ บาร์โคล่า 65'
1-3 รายาน เชร์กี้ 76'
1-4 มักแซงซ์ คาเกเรต์ 81'
สวิตเซอร์แลนด์ เจองานหนักเพราะ ต้องมาพบกับ ฝรั่งเศส จ่าฝูงของกลุ่ม ที่คว้าชัยมา 2 นัดติดต่อกัน เพราะงั้นพวกเขาต้องชนะสถานเดียวเพื่อการันตีเข้ารอบ เกมนี้จัดชุดคล้ายกับแมตช์ที่แล้ว โดยให้ เซกี้ อัมดูนี่ เป็นตัวความหวังในแดนหน้า
สำหรับ ฝรั่งเศส ขอแค่เสมอเพื่อตีตั๋วเข้ารอบน็อคเอาท์ หลังจากชนะได้ทั้ง 2 นัดที่ผ่านมา โดย อามีน กูอิรี่ และ แบรดลี่ย์ บาร์โคล่า จับคู่ยืนหน้า
กูอิรี่ สังหารจุดโทษให้ ฝรั่งเศส ออกนำ 1-0
ฝรั่งเศส เป็นฝ่ายขึ้นนำไปก่อน รีเดอร์ ไปสกัดขาของ เชร์กี้ ในเขตโทษ ผู้ตัดสินไม่ลังเลมอบจุดโทษทันที แล้วก็เป็น กูอิรี่ รับหน้าที่ยิงเข้าไป
โคเน่ เล่นต่อไม่ไหว เลอ เฟเอ้ ลงไปแทน
ฝรั่งเศส ต้องเปลี่ยนตัวเร็ว โคเน่ บาดเจ็บเล่นต่อไม่ไหว เลอ เฟเอ้ ถูกส่งลงไปเล่นแทน
อัมดูนี่ ฟาดเป็นตะกร้อหลุดกรอบน่าเสียดาย
สวิส ตอบโต้บ้างแล้วเกือบเป็นประตูตีเสมอ มาเลส ครอสเข้าเขตโทษเข้าทาง เอ็นดอย ชงให้ อัมดูนี่ ฟาดบอลหลุดกรอบอย่างน่าเสียดาย
บาร์โคล่า ยิงแป้ก ๆ เข้าซอง ไซปี้
ฝรั่งเศส คุมเกมเหนือกว่าและได้ลุ้นประตูอีกครั้ง แต่ บาร์โคล่า ยิงด้วยขวาจังหวะนี้บอลไม่เต็มเท้าเข้ามือ ไซปี้ รับสบาย
อิเมรี่ ยิงไกลหลุดเสาแรก
สวิส มาได้ลุ้นบ้าง อิเมรี่ รับบอลจาก เอ็นดอย ก่อนเลือกยิงไกลด้วยขวา บอลหลุดเสาแรกได้เสียว
เอ็นดอย ปั่นโค้ง ๆ เสียบเสาไกลให้ สวิส ตีเสมอ 1-1
สวิส ไม่ยอมแพ้มาได้ประตูตีเสมอจนได้ จากจังหวะทีมเวิร์ค บลูม เปิดจากกราบขวา อิเมรี่ ข้ามหลอกเข้าทาง อัมดูนี่ จ่ายให้ เอ็นดอย แปสวนตัว เชวาลิเยร์ เข้าไป
อัมดูนี่ อัดเต็มแรงติดเซฟ เชวาลิเยร์
สวิส น่าได้ประตูแซงนำแบบสุด ๆ บลูม จ่ายให้ อัมดูนี่ ยิงเต็ม ๆ บอลพุ่งจะเข้าประตูแต่ เชวาลิเยร์ เซฟไว้ได้
เชร์กี้ ยิงแฉลบข้ามคานนิดเดียว
ฝรั่งเศส บุกบ้างแล้วเกือบได้ประตูขึ้นนำอีกครั้ง เชร์กี้ หลอกล่อแนวรับคู่แข่งก่อนยิงแฉลบ บอลย้อย ๆ ข้ามคานได้ลุ้นเลย
บาร์โคล่า ยิงให้ ฝรั่งเศส นำอีกครั้ง 2-1
ฝรั่งเศส บุกมากขึ้นเรื่อย ๆ แล้วก็มาได้ประตูขึ้นนำอีกครั้ง บาร์โคล่า จ่ายให้ กูอิรี่ จะยิงแต่โดนสกัด แต่บอลเข้าทาง บาร์โคล่า ยิงตุงตาข่าย
กูอิรี่ ยิงติดเซฟ ไซปี้ หวุดหวิด
ฝรั่งเศส เกือบได้ลูกที่สาม เลอฟ เฟเอ้ จ่ายยัดเข้าเขตโทษ กูอิรี่ ชาร์จติดเซฟของ ไซปี้ หวุดหวิด
เชร์กี้ ทำชิ่งก่อนยิงให้ ฝรั่งเศส หนี 3-1
ฝรั่งเศส มาได้ประตูที่สามจนได้ ต้องชม เชร์กี้ ที่ทำชิ่งกับ กูอิรี่ ก่อนเป็น เชร์กี้ ที่หลุดไปยิงไม่เหลือ
สกอร์ไหล คาเกเรต์ แปนิ่ม ๆ ให้ ฝรั่งเศส นำ 4-1
ท้ายครึ่งหลังบอลเข้าทาง ฝรั่งเศส แล้ว พวกเขามาได้ประตูที่สี่ จังหวะนี้ บาร์โคล่า ลากไปถึงสุดเส้นก่อนเปิดให้ คาเกเรต์ แปง่าย ๆ เข้าไป
เชร์กี้ ยิงเข้ามือ ไซปี้
สวิส เล่นแบบหมดแรงจูงใจแล้ว จังหวะนี้เกือบโดนลูกห้า แต่ เชร์กี้ ยิงไม่หนีมือ ไซปี้ เอง
จบเกม ฝรั่งเศส ถล่ม สวิตเซอร์แลนด์ 4-1 กอดคอเข้ารอบทั้งคู่ ส่วน ตราไก่ คว้าแชมป์กลุ่มดี
ฝรั่งเศส
Starting Formation: 4-3-1-2
20.
ปิแอร์ คาลูลู

86'
14.
คาสติลโญ่ ลูเกบา

86'
19.
เคเฟรน ตูราม

70'
7.
มานู โคเน่

18'
17.
แบรดลี่ย์ บาร์โคล่า

87'
ตัวสำรอง
2.
โมฮาเหม็ด ซิมาก็อง

86'
6.
เอนโซ่ เลอ เฟเอ้

18'
9.
อาร์โน คาลิมูเอนโด้

87'
13.
โยริส โชตาร์

70'
18.
บาโฟเด้ เดียคิเต้

86'
404: Not Found
แก้ไขล่าสุดโดย Asarinho10 เมื่อ Thu Jun 29, 2023 03:50, ทั้งหมด 9 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ