ผมคิดว่าหลายๆคนน่าจะเห็นความระอุภายในเพื่อไทยอยู่บ่อยๆโดยเฉพาะช่วงหลังๆมานี้ ผมมีโจทย์ให้พวกท่านแลกเปลี่ยนกันเล่นๆ 3 ข้อ ว่าหากท่านเป็นผู้บริหารจะพลิกสถานการณ์อย่างไร ดังนี้

1. ท่านจะจัดการปัญหาภายใน อาทิเช่น ความเห็นที่แตกแยกภายในพรรค และ อาจรวมไปถึงการเจรจากับพรรคร่วมรัฐ การทำงาน การเจรจาต่างๆ (ขออนุญาตรวมพรรคร่วมไว้ในพาร์ทปัญหาภายใน เพราะภายนอกจะเว้นไว้ให้การสื่อสารกับประชาชนมากกว่า)

2. การสื่อสารกับประชาชน ท่านเห็นควรว่าควรเป็นไปไหนทางไหน รูปแบบอะไร มีข้อความใดที่ต้องแก้ไข หรือจุดยืนอะไรที่ต้องสร้างเพิ่มเติม เพื่อให้ได้มาซึ่งคะแนนเสียงเบอร์1หรือส่วนใหญ่กลับคืนมา

3. ถ้าทุกสิ่งที่ท่านแก้ในข้อ 1 และ ข้อ 2 ถือเป็นทางเลือกที่ถูกต้อง ท่านคิดว่าต้องใช้เวลากี่สมัย เพื่อบรรลุเป้าหมายในการกลับไปเบอร์1อีกครั้ง

ผมคิดว่าปัญหาเพื่อไทยเยอะจริงๆ และท้าทายมากในมุมมองการบริหาร เลยอยากทราบว่าหากเป็นท่านๆในssจะคิดเห็นอย่างไร เพราะมองเผินๆช่วงแบ่งประธานสภานี้เป็นอีกช่วงนึงที่มีความวุ่นวาย และโดยร่วมส่งผลเสียกับภาพลักษณ์ของพรรคค่อนข้างเยอะ แต่โดยส่วนตัวคิดว่าไม่ส่งผลอะไรมาก หากรัฐบาลเป็นไปตามที่ประชาชนต้องการ ท้ายที่สุดพาร์ทนี้คนจะลืมไป เพราะกว่าจะเลือกใหม่ก็4ปี

1.มันยากเพราะหัวหน้าพรรคไม่มีอำนาจตัวสินใจอะไรไง

2.มีหัวหน้าพรรค แล้วมีหัวหน้าครอบครัวอีก

3.ปัญหาของพรรคคือมันไม่ได้มาจากอุดมการณ์เดียวกัน มันคือคนที่เอาผลประโยชน์มาต่อรองกัน

แถมอีกข้อคือรอบนี้อยากเป็นรัฐบาลจนตัวสั่น ไปเอา สส ที่พรรคทําคนเค้าชังมาเข้าพรรคตัวเองอีก

ปัญหาคือหน.พรรคเป็นแค่หุ่นเชิดนี่แหละ
ถ้าอยากแก้ปัญหา มันต้องให้คนเบื้องหลังยอมวางมือ

ทักษิณยุติบทบาททางการเมือง อำนาจกลับไปอยู่ที่พรรค หลังจากนี้จะออกมาพูดอะไรก็ง่ายเอาให้มันเป็นไปตามมติพรรคจริงๆ
ใช้เวลา 4 ปีถ่ายเลือดใหม่ รอบนี้สส.อายุน้อยเขาก็ได้มาหลายคนอยู่ รอบหน้าถ้าทำดีๆเชื่อว่าน่าจะทำได้
ผมว่าการสื่อสารในส่วนหัวของพรรคช่วงหลังๆดีขึ้นมามากแล้วจากการถอดบทเรียนการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา
ทำนโยบายให้ได้ใจคนรุ่นใหม่ เพราะเจนนี้มันจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
กลับมายืนหนึ่งได้เมื่อไหร่ไม่รู้ ให้การทำงานเป็นตัวบอกดีกว่า

ผู้บริหารไม่น่าแก้ได้
ต้องให้เจ้าของพรรคตัวจริงแก้
แต่ดูแล้วแกก็แนวนี้แหล่ะ ลูกพรรคเลยตามนั้น

คำถามเดียวที่ต้องการคำยืนยันก็คือ "โทนี่จะเอายังไงต่อกับพรรคเพื่อไทยครับ" ประเด็นมีแค่นี้

เท่าที่ดูมา ผมเดาว่าโทนี่น่าจะอยากกลับบ้านเต็มที่แล้ว เลยส่งอุ๊งอิ๊งมาเป็นแกนนำ

(เพราะการให้ลูกตัวเองมาคุม อย่างน้อยก็มี level of authorize สูงกว่าคนนอกที่เลือกมาครับ)

แล้วคิดว่าถ้าทักษิณได้กลับไทย ทักษิณน่าจะปล่อยพรรคเพื่อไทยไปครับ อาจจะส่งให้ใครสักคนสานต่อหรือว่ายุบทิ้งไปเลย เพราะสำหรับโทนี่มันไม่จำเป็นอีกแล้ว คนที่เหลือก็แยกย้ายกันไป ส่วนอุ๊งอิ๊งผมว่าคงไม่สนใจการเมืองแน่ๆ

แต่พอสถานการณ์เป็นแบบนี้ ที่เรียกว่าเป็น scene ที่แย่มาก เพราะถ้าเพื่อไทยชนะขาดหรือแพ้ขาดยังมีทางออกดีๆอยู่บ้าง แต่มาเป็น dead end แบบนี้ก็เหนื่อย

ผมก็ไม่รู้ว่าโทนี่ไปดีลอะไรไว้กับ K10 เพราะนั่นคือ point สำคัญของเพื่อไทยเลย แต่ถ้าให้เดา คนในเพื่อไทยน่าจะโดนบรีฟมาว่าทำให้ยังไงก็ได้ให้เอา ปธ.สภามา ส่วนนายก เดี๋ยว สว. จะตีตกให้เอง

เลิกรับไอพวกสส รับจ้างมาก้จบแล้ว
เห็นคนที่มีอุดมการณ์ความคิดความอ่านดีก้เยอะ ก้ยึดโยงกับพวกนี้แหละ
พวก4กุมารห่าเหวไรพวกนั้นอ่ะถีบไปไกลๆ

ผมว่าระบบ สส. บ้านเรามันยากตรง ที่สส. สามารถย้ายพรรคได้ นะสิ ทำให้ความเคารพกับจิตสามัญสำนึกตัวแทนของประชาชนไม่มี... อยากให้แก้กฏหมาย ว่า ถ้าสมาชิกสภาผู้แทนไม่ปฏิบัติตามกฏพรรค สามารถมีขั้นตอนอย่างไรได้บ้าง

ก็ให้หัวหน้าตัวจริงออก
ให้หัวหน้ามีพรรคมีอำนาจตัดสินใจต่างๆ และเวลามีคุยสำคัญๆก็ทำมติพรรคไป แล้วถ้าใครไม่ทำตามมติพรรคคือขับออกจากพรรคสถานเดียว จะเตือนก่อน 1-2 รอบก็ว่าไป ถ้ามีคนแหกคอกมาให้สัมพาทกากๆ ก็เรียกเตือนถ้าทำอีกก็ให้ออกจากพรรค
ก็มาดูกันว่าหัวหน้าพรรคถ้าได้อำนาจจริงๆจะเกรงใจบ้านใหญ่หรือมุ้งใหญ่ในพรรคไหม ถ้าจำเป็นต้องตัดคนพวกนี้ออกแล้วคะแนนส่วนนี้หายจะยอมรับได้ไหม ถ้ามุ้งใหญ่นั้นมันทำตัวดีก็ดีไป แต่ถ้าทำถ้าไม่ดีต้องกล้าให้ออก

มันยากตรง เพื่อไทย มันเป็นการรวมตัวของหลายก๊ก ทักษิณ ตั้งมาจากการรวมกลุ่มอำนาจของแต่ละพื้นที่ ตั้งมาเพื่อชนะเท่านั้น พอไม่ชนะมันก็เป็นปัญหาแบบเนี้ย ยังไงก็แก้ไม่จบหรอก มีแต่ต้องเฉลี่ยๆผลประโยชน์ให้ทุกกลุ่มพอใจ ถ้าจะแก้ได้เด็ดขาดต้องแก้รัฐธรรมนูญให้กลับไปแบบสมัยก่อนที่ สส. ต้องทำตามมติของพรรคเท่านั้น ถ้าพรรคบอกให้โหวตอะไรก็ต้องโหวตตาม สมัยก่อนมันเลยคุมง่าย แต่พอพวกลุงมันเข้ามา มันตั้งใจจะทำให้ดึงพวก สส. เก่าและงูเห่ามาฝั่งตัวเองง่าย เลยแก้รัฐธรรมนูญให้ สส. มีอิสระของตัวเอง ไม่ต้องทำตามมติพรรค

ให้หมอชลน่าน ต่อยเรียงตัวเลยคับ จะได้สงบๆ
การสื่อสารกับประชาชน ก็ live สด ต่อยเลยคับ อดิศรงี้ จับใส่กระสอบให้หมอต่อย สดๆ โชว์เลย

แก้ไม่ได้หรอกครับ นอกจากออกมาตั้งพรรคใหม่ เอาจริงคือพรรคเพื่อไทย
มันก็คือนักการเมืองหน้าเดิม ที่เราคุ้นเคยกันดี

เพียงแต่ว่า เมื่อก่อนมันไม่มีทางเลือกมากนัก มันมีแค่ ปชป ซึ่งหนักกว่า
กับพรรคยิบๆย่อยๆ เพื่อไทยจึงเป็นทางเลือกเดียวทีเราต้องเลือก

ลองดูได้ คนในพรรคนี้คือคนที่ย้ายไปย้ายมากับ พวกไอ้ป้อม ได้ตลอดเวลา
แล้วจะบอกว่ามันไม่ใช่คนพวกเดียวกันเองได้ยังไง

วิธีแก้ ผมจึงคิดว่ามันไม่มี เพราะมันจะเล่นการเมืองแบบนี้ แบบที่เราไม่ได้ชอบ
มันไม่ได้สนใจประชาชนอยู่แล้วครับ คนดีๆคนมีความสามารถเยอะนะ แต่ต้องออกมาตั้งพรรคใหม่

แล้วปล่อยให้นักการเมืองหน้าเดิมๆ ตายไป

อยากเห็นครับ จะดูตั้งแต่ไลฟ์เปิดยันปิดเลย ฮ่าๆ

อันนี้ขอแย้งหน่อยครับ ผมคิดว่ามันแก้ด้วยการรีแบรนด์นะ เหมือนกับถ้าธุรกิจเราจะพังเพราะภาพลักษณ์เดิม เราก็เลือกได้สองอย่างระหว่างปล่อยมันตายไปกับสร้างภาพลักษณ์ใหม่ๆสร้างคุณค่าใหม่ๆเพื่อจับกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ ผมว่าคุณค่าในเชิงเศรษฐกิจเพื่อไทยยังดูดีกว่าก้าวไกลนะ แม้ในเชิงสังคมดูเทียบก้าวไกลไม่ได้เลยก็ตามที

ไม่ยาก เล่นตามเกมก้าวไกลเลย ในเมื่อก้าวไกลยกกระทรวงเศรษฐกิจให้แล้ว ก็ทำตรงนั้นแข่งกับก้าวไกล เพราะนโยบายเศรษฐกิจทำให้ได้เปรียบก้าวไกลที่ต้องเล่นกับกระทรวงที่สุ่มเสี่ยงต่อความเคยชินของสังคม ถ้าทำให้เศรษฐกิจดี เลือกตั้งครั้งต่อไปก็ได้เปรียบ วางตัวคนมีฝีมือลงแต่ละกระทรวงเพื่องัดผลงาน เลือกตั้วครั้งต่อไปไม่ต้องอะไรมาก ประกาศไปเลยสานต่อนโยบายเศรษฐกิจ จากนั้นในส่วนของนโยบายทางสังคมก็ชุบมือเปิบสิ่งที่ก้าวไกลทำเอาไว้ดีว่าจะสานต่อในฐานะรัฐบาลเดิม แล้วตอนหาเสียงก็โจมตีสิ่งที่ก้าวไกลทำพลาด ง่ายๆ

ส่วนศึกในไม่ยาก ถ้านโยบายดี กระทรวงเศรษฐกิจได้คนมีฝีมือมาทำ ที่เหลือจะกี่ก๊ก กี่เหล่าในพรรคก็มาเลย ใครจะต่อรองอะไรว่ามา เสนอคนที่เหมาะสมในการนั่งเก้าอี้ที่ต้องการมา พิจารณาเทียบกันเป็นคนๆ ไปเลย ถ้าคนไหนคุณสมบัติไม่ผ่านก็ปัดตก ถ้างอแงจะย้ายพรรค ไม่ทำตามมติพรรค ก็ไม่น่าห่วง เพราะหลายๆ คนในพรรคเพื่อไทยก็อายุมากแล้ว ปล่อยหลุดไปอยู่กับพรรคคู่แข่ง หรือไปตั้งพรรคเอง ก็ไม่หวั่นเอาจริงๆ หลายๆ คนก็ ส.ส.ปลายอาชีพเตรียมวางมือกันแล้ว ถ้าไม่สังกัดเพื่อไทยก็ใช่ว่ามันจะชนะได้ด้วยศักยภาพของตัวเองหรือทีมกลุ่มตัวเองจริงๆ หรอก บางคนต่อรองไปงั้นแหละ พอทำท่าจะให้ออกไปจากพรรคเดี๋ยวก็ยอมถอย โดยเฉพาะไอ้พวก ส.ส. ที่สังกัดปาร์ตี้ลิสต์พรรคนี่ยิ่งสบายเลย เตะออกจากพรรคไปให้ไปลงเขต ตัวมันเองนั่นแหละที่จะหนาว ลงเขตเจอคนใหม่ของพรรคเข้าชนก็ขนลุก ย้ายไปพรรคอื่นก็ต้องสู้ในฐานะ ส.ส.เขต เพราะปาร์ตี้ลิสต์พรรคอื่นๆ เขาก็มีคนเก่าคนแก่ของพรรคขวางอนยู่ จะไปแทรกง่ายๆ ก็ไม่ได้