ในฐานะคนที่ให้บริการทางการแพทย์นะครับ เคยเผลอใจดีมากๆ หลังจากนั้นจะเจอการร้องขอทุกสิ่งทุกอย่างเกินกว่าจะจินตนาการได้

จนถึงขนาดว่าถ้าหมอทำตามนี่คือทุจริตแล้วอะ อีกอย่างคือถ้าเราสนิทสนมกับเตียงใดเตียงหนึ่งมากๆ เตียงอื่นจะไม่พอใจทันที


ดังนั้นต้องบาลานซ์อยู่ตลอดเวลา ระหว่างความใจดีกับใจแข็ง เวลาที่เจอกับคนไข้และญาติ แน่นอนว่าใจดีกับทุกเตียงเป็นไปไม่ได้

เพราะคุณอาจต้องสูญเสียเวลาในการทำงานทั้งหมดไปกับการทำความต้องการของคนไข้ทุกเตียงๆๆ ทำให้บางคนเลือกที่จะ

ตึงใส่คนไข้และญาติทุกคนไปเลยแต่แรก แต่ผมก็ไม่เห็นด้วยนะกับการที่ถึงขั้นดุหรือขึ้นเสียงใส่ตลอดเวลา ทุกอิริยาบถ

สุดท้าย มันค่อนข้างยากจริงๆในการบาลานซ์ระหว่าง ทำให้คนไข้พอใจ กับ ทำให้คนไข้ได้ใจ เพราะถ้ามีคนไข้คนนึงที่ได้ใจ

และทำตัวเป็น vip ขึ้นมา นั่นแปลว่าคนไข้คนนั้นก็กำลังเอาเปรียบคนไข้คนอื่นอยู่เหมือนกัน ในการดึงทรัพยากรการดูแลไป

ตอบในฐานะ ผัวพยาบาลนะครับ

บางวันเขาต้องทำงานติดต่อกัน 16-24 ชม. เวลาพักเทียงยั่งไม่เต็ม 1ชใ เลย

ปกติถ้าเลิกงาน 16:00น. กว่าจะได้กลับอีกเพราะต้องส่งเวรต่อให้กับกะถัดไป ได้กลับจริง ๆ 16:45น.(เร็วสุดแล้วนะ)

จะลางานไปเที่ยวที ต้องแพลนล่วงหน้าเป็นเดือน กว่าจะจัดเวรกันได้

จำนวนคนไข้ 50-55คน ต่อพยาบาล 3คน (เอกชนน่าจะ3/1)

คนไข้แต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน ยุ่งยากเรื่องมาก พูดไม่รู้เรื่อง บางคนถอดสายน้ำเกลือวันละ3-4รอบยังมี

ไหนจะเคสหนักที่ต้องใส่ท่อช่วยหายใจอีก

ค่าตอบแทนหรือ น้อยมากเมื่อเทียบกับเอกชน

เพื่อนๆแฟนผมไม่มีใครเขาอยากอยู่กันหรอกครับ พวกบ้านรวยหรือไม่มีปัญหาเรื่องก็ไม่อยู่แผนกหนักๆ บางคนย้ายไปอนามัย บางคนย้ายไปแผนกหลังคลอด เวรดึก(24.00-8.00)นอนตั้งแต่ตี 1 , ส่วนแผนกเมียผม ได้นอน1ชม ก็บุญแล้ว บางคนอยากย้ายก็ย้ายไม่ได้ก็มี

ไหนจะต้องไปรีเฟอร์ (กรณีต้องส่งไป รพ.ประจำจังหวัด)บางทีนอนๆอยู่ตี2 ยังต้องไป แล้วนั่งไปในรถตู้ที่ขับด้วยความเร็ว120-140km/hr รถเกิดอุบัติเหตุตายมาแล้วก็มีออกข่าว

เอาอะไรมากกับข้าราชการพยาบาล วันๆเขาต้องเจออะไรเยอะแยะ

ถามว่าถ้ามันหนักขนาดนั้นแล้วทำไมไม่ลาออก ถ้าออกจะเอาอะไร แด รก ละครับ ย้ายก็ยาก

Ultimately โลกนี้ก็ขับเคลื่อนด้วยผลประโยชน์ครับ จะเพิ่มโรงพยาบาล หรือเพิ่มเงินให้โรงพยาบาลเดิม ก็ใช้เงินทั้งนั้น

อยากเพิ่มประสิทธิภาพเรื่องการ manage workload ก็ต้องใช้เงินจ้างผู้บริหาร/ผู้จัดการที่มีความสามารถ ก็ใช้เงินเหมือนกัน

อีกมุมนึงคือบนเงินเท่าเดิม ทำยังไงให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ก็ต้องจัดการกับเรื่องปัญหา inefficiency ต่างๆ เช่น corruption / ...

ไม่ใช้เงินก็ต้องอาศัย effort ของประชาชนจำนวนมากที่จะทำ due diligence หน่วยงานรัฐต่างๆ หรือทำกับตัวแทน(ในภาคการเมือง) เพื่อไป represent เราในปัญหาเหล่านี้แทน

อารมคล้ายๆ สถานบริการเช่นโรงแรมกระมังครับ

ถ้าราคาสูงก็โอกาสเจอบริการที่ดีมากกว่าราคาต่ำ

รวมไปถึงปัจจัยอย่าง พนักงานก็ได้ค่าจ้างที่แตกต่างกัน

แค่นี้ ก็ไม่มีหมอ แล้วครับ

มีสถิติให้ดูคร่าวๆ
ประชากรหมอ ตอนนี้ รวมรัฐเอกชน
หมอกทม 30000คน
หมอ ตจว 30000คน
แล้วขนาดพื้นที่ กทม กี่เท่าของ 76 จังหวัดที่เหลือครับ

เงินเดือน
หมอรัฐบาล เงิน 50000
เอกชน/ฉีดสิว 150000

รพเอกชน bdms เปิดกัน เป็นว่าเล่นตาม ตจว
คลินิกฉีดสิวเปิดทุกตำบล

ภาระงาน รัฐ ทุกวัน +เวร เงินเท่าเดิม
เอกชน ทุกวัน+เวร แต่คนไข้มากเงินมาก น้อยเงินน้อย
ฉีดสิว ทุกวัน ไม่มีเวร

ผมพูดในฐานะตัวเองก็อยู่ กทมนะครับ

เอาตรงๆเลยนะ หมอพยาบาล รัฐ ตามตจว นี่ อุทิศตนมากๆนะ หรือไม่ก็บางคนอาจจะมองที่สิทธิสวัสดิการอะไรก็แล้วแต่
แต่ไม่ใช่เค้าไม่ทีที่ไปเเน่ๆครับ เอกชนเปิดเป็นว่าเล่น

คนไข้กรุณาให้ความร่วมมือเค้าเถอะ เค้าไม่อยู่ดีๆก็มาหัวร้อนหรอก ไม่ได้บ้า


ถ้าให้เลือกได้ว่า เอกชน เงินเดือน เท่าเดิม+ ได้สิทธิรักษาพ่อแม่ ได้บำนาญ จะไม่ไปกันหรอกถามจริงๆ

แล้วจะเอาหมอที่ไหนไปอยู่รพรัฐ ยิ่งตาม ตจว มีอะไร มาดึงดูด



พยบ นี่น่าจะยิ่งกว่าหมอนะครับ ผลิตมา ออกไปเอกชนหมด

รพ ตามบ้านนอก คนไข้ ญาตผู้ป่วยงี่เง่าเยอะมากครับ อาชีพพยาบาลเป็นอาชีพที่เหนื่อย
ถ้าอยากได้บริการดี ยังไงก้ต้องเอกชนครับ

ผมว่ามันทำให้ดีขึ้นได้ 1 อำเภอ 1 รพ. ควรจะรองรับคนไข้ให้เพียงพอ ทั้งอาคารสถานที่ เครื่องมือแพทย์และบุคลากร อยากให้พรรคการเมืองหาเสียงเรื่องนี้หน่อย ยิ่งประเทศไทยกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงวัย ถ้าสถานพยาบาลมีไม่เพียงพอ มันก็จะกระทบไปทั้งเด็ก วัยทำงานไปด้วย ยิ่งโรงพยาบาลเล็กและแออัด สุขภาพจิตของพยาบาลก็เครียด แล้วก็มาลงที่คนไข้ คนไข้พอได้ประสบการณ์ที่ไม่ดีกับโรงพยาบาลก็ไม่อยากมาโรงพยาบาล ทำให้หลายคนป่วยแล้วไม่ยอมมาโรงพบาบาลจนเสียชีวิตไปก็มาก

เคยเฝ้าไข้ห้องรวม 1 อาทิตย์ ผมเข้าใจพยาบาล ถ้าเป็นผมคงอยู่ไม่ครบปีแน่ๆ 55

พาเพื่อนฝรั่งเข้า รพ.ที่อุบล
นั่งเฉยๆ หัวใจขึ้น 136 ต้องวัดความดันแล้วยื่นสลิปผลให้เจ้าหน้าที่ดู ถึงให้เตียงมา ก่อนหน้านั้นบอกให้นั่งรอเหมือนๆกับคนอื่น

คนเยอะ อุปกรณ์ไม่พอ ไม่มีแอร์ ร้อน แล้วก็ไม่ใช่งานบริการครับ

แต่พยาบาลเด็กๆพูดดีนะ คนไข้แก่ๆคงเปรียบเหมือนผู้ใหญ่ในบ้าน ถ้ารุ่นเดียวกันคงไม่อ่อนน้อมแบบนี้

แล้วหมอ1คนดูแลคนไข้เกือบร้อย มันหนักเกินไป เพื่อนปอดมีปัญหา นอนรอหมอเฉยๆ3ชม.หน้าห้องฉุกเฉิน
พอนอนห้องรวมถึงได้รู้ว่าหมอน้อยจัด

ที่ผ่านมาเข้ารพ.บ่อย เข้าใจหน้างานเลยครับ งานเยอะไม่พอ เจอคนไข้พูดไม่รู้เรื่อง เจอทุกวัน วันละหลายคน ผมเห็นยังเหนื่อย

แล้วท่านไปทำอะไรท่านถึงโดนพยาบาลดุหล่ะ?

ประสบการณ์ผมที่ไปรพ.รัฐ ผมเจอแต่โอเคๆนะพุดจาไม่เพราะพริ้งแต่ตั้งใจบริการดี

แต่สงสัยผมไม่ได้ไปบ่อย ปกติไปแต่เอกชน

จากมุมผม เข้าออกรพ.รัวๆ เพราะพ่อป่วยหนัก 4เดือนส่งตัวไป3รพ.
สงสารพยาบาลชิบหายอะครับ งานโคตรหนัก คิดตลอดว่าถ้าเป็นเราจะเหนื่อยขนาดไหนวะ
อายุรกรรมนี่คือโคตรพีค คนแทบล้นทางเดิน

พยายามคุยดีๆกับหมอพยาบาล ขอบคุณทุกครั้งที่คุย ใจเขาใจเรา
แทบไม่เคยโดนดุบ่นครับ มีส่วนน้อยอะที่แบบไม่สนโลก ขี้บ่นจริงๆ

ทำตามแพทย์สั่งไหมละครับ ฮ่าๆๆๆ

คือ มันไม่มีหมอปกติคนไหนหรอกครับที่จะอยากมาบ่นคนไข้ตลอดเวลาอะ ทำการรักษาไปหลายๆโรคมันไม่ได้เป้าตามหวัง ยิ่งถ้าเพราะคนไข้ไม่ทำตามนี่ยิ่งเซ็งนะครับ

อยากให้พยายามเข้าใจ หมอ พยาบาล รพรัฐด้วยครับ
บุคคลากรไม่พอกับงาน เข้างานทีข้ามวันข้ามคืน พักผ่อนน้อย ทำให้ความเครียดสะสม

คือส่วนตัวผมไม่เคยนะครับ ไปใช้บริการในโรงพยาบาลทั้งรัฐทั้งเอกชนแล้วมีคนมาพูดไม่ดีใส่ อาจจะเป็นที่เราส่วนนึงด้วยหรือเปล่าครับ