#ถ้าเปลี่ยนให้เขาเป็นฉัน ชนาธิปกับโอกาสและถ้าเรามีหมากแบบโทรุ โอนิกิ ใครจะอยู่ในใจเรา
ผ่านไปอีกเกมส์กับการไร้ชื่อทั้งตัวจริงและตัวสำรองบนเวทีเจลีกฤดูกาล 2023 ของชนาธิป สรงกระสินธุ์ กองกลางหมายเลข 18 ของทัพฟ้าดำแห่งเมืองคาวาซากิ ถ้าหากเราเพ่งเล็งไปถึงคนที่น่าจะมีส่วนของการหายไปของชนาธิปมากที่สุด คงหนีไม้พ้นกุนซืออย่าง โทรุ โอนิกิ ซึ่งคนไทยพูดถึงการตัดสินใจอยู่ทุกอาทิตย์
.
บทความนี้จะพาทุกท่านไปรู้จักกับผู้เล่นในแผงกองกลางและแนวรุกของฟรอนทาเล่ ว่าหากเราเป็น โทรุ โอนิกิ เราจะมีคำตอบแบบไหน ให้กับคำถามของแฟนบอลชาวไทย หากเรามีตัวเลือกบนหน้ากระดานของแบบที่กุนซือแชมป์เจลีก 4 สมัยมีถือไว้บนมือ ณ สถานการณ์ของทีมตอนนี้ ถึงเวลาที่ ชนาธิป จะได้รับโอกาสในการลงเล่นแล้วรึยัง
.
#รูปแบบการยืนตำแหน่งแบบ 4-3-3

เพื่อให้เราเห็นภาพรวมของแนวรุกของฟรอนทาเล่ ต้องขอพูดถึงแผนการเล่น หรือ วิธีการยืนตำแหน่งของคาวาซากิ ฟรอนทาเล่ เป็นส่วนแรกสามนัดแรกของเจลีกในปีนี้ โทรุ โอนิกิ มักให้ผู้เล่นยืนตำแหน่งด้วยระบบ 4-3-3 ที่แผงกองกลางจะมีตัวรับหนึ่งตำแหน่ง ฉะนั้นหากเราจะมาพูดถึงตำแหน่งที่ชนาธิปสามารถลงเล่นได้ก็จะเหลือ กองกลางอีก 2 ตำแหน่งและปีกตัวบนซ้ายขวาอีก 2 ตำแหน่ง
.
ซึ่งต่างจากปีที่แล้วที่ในช่วงท้ายฤดูกาล โทรุ กุนซือของทีมมักวางหมากในระบบ 4-1-4-1 ซึ่งชนาธิปสามารถเป็นตัวเลือกได้ทั้งหน้าต่ำและปีกทั้งสองฝั่ง


.
#ผู้เล่นตัวหลักในสามนัดแรกในแผงกองกลาง

#ยาซูโตะวากิซากะ แผงกองกลางในปีนี้ แม้ว่าทีมจะมีการโรเตชั่นผู้เล่น แต่ว่าหนึ่งในตัวยืนทางกราบขวาของแผงกองกลาง คือ กองกลางวัย 27 ปี ที่ฝากชีวิตในโลกฟุตบอลไว้กับทีมตั้งแต่อายุ 16 ปี ยาซูโตะ วากิซากะ เขาเริ่มต้นการเป็นสมาชิกของทัพฟ้าดำในชุดเยาวชนของทีม แม้ว่าหลังจากเล่นในชุดอายุไม่เกิน 18 ปี ยาซูโตะจะออกจากทีมเพื่อไปเรียนและลงเล่นให้ทีมมหาวิทยาลัยถึงสี่ปี แต่เขาก็ได้รับโอกาสกับมาร่วมทีมอีกครั้งหลังเรียนจบ 4 ปีเต็ม
.
ฤดูกาลที่ผ่านมา ยาซูโตะ ลงเล่นเป็นกองกลางตัวหลักของฟรอนทาเล่ ด้วยสถิติลงสนาม 32 นัดในเจลีกยิงไป 5 ประตู แอสซิสท์ไปอีก 10 ครั้ง เขาลงเล่นเป็นตัวหลักให้กับทีมตั้งแต่ปี 2019 รวมถึง เขามีสถิติการลงเล่นในเจลีกให้กับทีม ในปี 2020 และ 2021 เกิน 30 นัดทั้งสองฤดูกาล
.
#เรียวตะโอชิมะ ถ้าไม่แน่จริงคงไม่ใส่เสื้อเบอร์สิบรับใช้ทีม กองกลางเชิงสูงคนนี้ มีอาวุธครบมือทั้งการครองบอล หรือ การหลบคู่ต่อสู้ การส่งบอลแบบมีทีเด็ดทีขาด หรือแม้กระทั่งการยิงไกลนอกกรอบเขตโทษ เรียวตะอยู่กับทีมมาตั้งแต่ปี 2011 นับนิ้วดูแล้วปีนี้ นับเข้าสู่ปีที่ 12 ที่เขาสวมเสื้อสีฟ้าดำลงเล่นในถิ่นโทโดโรกิ หากไม่มีอาการบาดเจ็บจำนวนนาทีในการลงเล่นของเขาคงไม่น้อยแบบนี้

.
ปี 2022 เรียวตะ ลงเล่นไปเพียง 11 นัดในเจลีก มีการบันทึกไว้ว่าเขาได้รับการบาดเจ็บถึงสามครั้งที่ข้อเท้า กล้ามเนื้อขาหนีบ หรือ แฮมสตริง และ กล้ามเนื้อน่อง ย้อนหลังไปในปี 2021 เช่นกัน ทั้งปีในเจลีก กองกลางส่วนสูง 168 ซม. ลงเล่นไปเพียง 7 นัด หรือ ถ้าเรารื้อประวัติอาการบาดเจ็บของเรียวตะ ฤดูกาลสุดท้ายที่ เรียวตะ ลงเล่นเล่นเกิน 20 นัดในเจลีก ต้องย้อนไปถึงปี 2017 กันเลยทีเดียว เรียกได้ว่า อาการบาดเจ็บกับเรียวตะ โอชิมะอยู่เคียงข้างกันมาแบบสลัดไม่ออก
.
#แนวรุกปีกซ้ายและขวา
#อากิฮิโระอิเอนางะ แทบจะไม่ต้องบรรยายอะไรให้มากความ กับการที่พึ่งบันทึกการลงเล่นในเจลีกด้วยจำนวน 400 นัด แนวรุกมากประสบการณ์ อยู่กับทีมมาในยุคที่เริ่มความยิ่งใหญ่ไล่ล่าแชมป์ให้ฟรอนทาเล่มาตั้งแต่ปี 2017 พร้อมด้วยดีกรีผู้เล่นทรงคุณค่าของเจลีกปี 2018 รวมถึงติดทีมยอดเยี่ยมของเจลีก 4 ครั้ง (2018 / 2020 / 2021 / 2022)

.
เป็นผู้เล่นที่แฟนบอล พูดติดตลกกันว่าถ้าขาไม่หักยังไงก็ต้องลง แต่ถ้าพูดประโยชน์ของการเล่นของอากิฮิโระ คงปฏิเสธไม่ได้ว่าการมีเขาอยู่ในสนาม สามารถสร้างความแตกต่างให้กับทีมได้จริงๆ ด้วยสไตล์การเล่นที่มีทั้งการวางบอลเข้าไปสร้างโอกาสในกรอบเขตโทษ และการทำประตู โดยรวมแล้วแม้ปีนี้จะเป็นขวบปีที่อายุของ อากิฮิโระ อิเอนางะ จะเข้าเลข 36 ไปแล้ว แต่เขายังเป็นตัวเลือกแรกของโทรุ โอนิกิอยู่เสมอ
.
#มาร์ซิญโญ่ ปีกตัวจิ๊ดชาวบราซิลเลี่ยน ย้ายมาร่วมทีมในปี 2020 จากลีกของประเทศจีน หลังจากอดทนและพยายามด้วยการลงเล่นเป็นตัวสำรองอยู่บ่อยครั้ง ปี 2021/22 ก็เป็นปีที่ปีกซ้ายเจ้าของหมายเลข 23 พิสูจน์และสร้างศรัทธาให้กับแฟนบอลและเพื่อนร่วมทีมด้วยผลงานการลงเล่น 30 นัดยิงไป 12 ประตู แอสซิสท์ไป 6 ครั้ง ปีที่แล้วได้ดีกรี ติดทีมยอดเยี่ยมประจำปีของเจลีกอีกด้วย
.
ถ้าพูดถึงสไตล์การเล่น เรียกได้ว่า มาร์ซิญโญ่ คือ ปีกซ้ายอาชีพอย่างแท้จริง การวิ่งหาตำแหน่ง หรือ การใช้ความเร็ววัดกับกองหลังฝั่งตรงข้าม รวมถึงยังมีทีเด็ดในการสอดเข้าไปกรอบเขตโทษเพื่อทำประตู คือ สิ่งที่แสดงให้แฟนบอลเห็นถึงประโยชน์ด้วยของการลงเล่นของเขา

.
#ผู้เล่นดาวรุ่ง+ตัวใหม่
ไดยะ โทโนะ คือ หนึ่งในคนที่ได้รับโอกาสมากที่สุดในฤดูกาลนี้ ทั้งการลงเป็นตัวจริงในแรกกับมารินอส รวมถึงการลงเป็นตัวสำรองในสองนัดต่อมา ไดยะ อายุ 23 ปี เล่นได้ทั้งกองหน้าและปีก แต่นัดแรกที่เจ้าตัวได้รับโอกาสลงเป็นตัวจริง ยืนตำแหน่งที่แผงกองกลาง เจ้าตัวมีทีเด็ด คือ ลูกยิงที่หนักหน่วง รวมถึงสามารถวิ่งทะลุแนวรับเข้าไปในกรอบเขตโทษเพื่อทำประตูด้วย

.
คนต่อมา คือ ชิน ยามาดะ ในวัย 22 ปี กับตำแหน่งกองหน้าตัวเป้า ที่แม้จะไม่ตรงกับตำแหน่งของชนาธิปโดยตรง แต่ก็เป็นคนที่ถูกเปลี่ยนตัวลงไปเป็นทีเด็ดในช่วงท้ายเกมส์ทั้งสามนัดหลังในเจลีก โดยพึ่งยิงประเดิมไปในนัดที่เจอคาชิม่า แอทเลอร์

.
คนสุดท้าย คือ ยูสุเกะ เซกาว่า ปีกหรือกองหน้าตัวใหม่ที่พึ่งย้ายมาร่วมทีมในฤดูกาลนี้ เล่นได้ทั้งปีกซ้าย หน้าต่ำ หน้าเป้า นัดล่าสุดถูกเปลี่ยนลงมาแทน ยาซูโตะ วากิซากะ ในแล้วทำไปหนึ่งประตู ชื่อนี้อาจไม่ติดหูแต่ถ้าพลิกดูประวัติแล้วแต่ถ้าลองดูสถิติการลงเล่นแล้วไม่ใช่หน้าใหม่ของเจลีกลงเล่นให้ ทีมคาชิว่า เรย์โซลมาแล้ว 100 นัด

.
หลังรู้จักตัวเลือก หรือ หมากบนมือของโทรุซังแล้ว
ถ้าเป็นเราคงเลือกไม่ง่ายเหมือนกัน แต่ในฐานะแฟนบอลชาวไทย อย่างไรก็ตามก็หวังให้ชนาธิปได้รับโอกาสลงสนามในเร็ว

.
#เจลีกโดยสังเขป
#JLeague
#J30

ตัวรุกลูกครึ่งญี่ปุ่น-เมียนมา ฤดูกาลแล้ว ลงมาสำรองทำผลงานสุดยอดเสมอ

สิ่งนึงที่คิดว่า ถ้าเราเป็นโอนิกิจะไม่ทำแน่ๆคือ เอาโทโนะเล่นกลาง
โทโนะมันเป็นกองหน้า จับมาเล่นกลางนี่โคตรจะเสียของ แถมทำให้หายจากเกมมากกว่าที่จะได้ลูกสอดไปยิง

ส่วนเจ ผมว่าปัญหาเดียวเลยคือ สไตล์เจทับกับอิเอนากะ
อะไรที่เจทำได้ อิเอนากะก็ทำได้ พอลงด้วยกันกลายเป็นว่าต้องมาเกรงใจฝั่งใดฝั่งนึง

เป็นโพสต์ที่ดีครับเอาข้อมูลมาลงไม่เหมือนที่อื่นๆที่สักแต่จะด่าว่าทำไมไม่เอาเจลง ถ้าหลายๆคนนอกบอร์ดได้มาอ่านแล้วคิดตามก็คงไม่แปลกใจอ่ะว่าทำไมเจถึงยังไม่มีโอกาสฤดูกาลนี้(ฤดูกาลที่แล้วก็ได้โอกาสเยอะพอควรแล้วดังนั้นฤดูกาลนี้ก็ต้องก้มหน้าซ้อมเพื่อรอโอกาสแฟนๆไทยก็ต้องอดทนไม่ทำตัวเป็นเหมือนแฟนเวียดนาม.....เดี๋ยวจะไปตัดโอกาสเจเพราะความเกรียน)

ถ้ากลาง 3 ตัว เจ ตอนนี้ เจ สามารถทำได้เเค่เเช่งให้ โอชิมะ no10 เจ็บอย่างเดียว เหมือนฤดูกาลที่เเล้วอ่ะ

ส่วน เจ้าชายวากิ พี่เเกเเบกกองกลาง ฟรอนตาเล่ ทุกนัดอยุ่เเล้ว อีกคน ทาจิบานาดะ เป็นกลางรับธรรมชาติอยุ่เเล้ว

เจ ไม่มีสิทธิลงตำเเหน่งนี้เเน่นอน

ลำพัง จะให้เล่นปีกซ้ายเหมือนตอนโค้ชเขาทดลองอุ่นเครื่องกับตัวจริง 1-2 นัด ซีซั่นก่อน

ก็โครตไม่เวิร์ค เหมือนตอนอยุ่ ซับโปโล เเน่นอน เพราะ เจ ไม่ใช่ประเภท เลี้ยงกระชาก

เหมือน มาเซลิญโญ่

เห็นด้วยครับ และเป็นแบบนี้มาตั้งนาน ผมขัดใจจุดนี้มากที่สุดละ

ผมโอเคนะถ้าเจไม่ใช่ตัวจริง แต่ผมมองว่าเจควรได้มีชื่อเป็นสำรอง สลับกับโอชิมะหรือวากิซากะตามแทคติก

ต้องการคุมเกม ใช้ โอชิมะ วากิซากะ อิเอนากะ เซกาวะ

ต้องการtransition ใช้ เจ ชมิดท์ มาซินโญ่ โทโนะ

ยังไม่รวมตัวที่เสียของไปอีกอย่างเซโกะกัปตันโยโกfc ตอนนี้กลายเป็นแบคขวาไปละ - -"

ทรัพยากรล้นๆ จารย์โอนิก็เล่นอยู่แผนเดียว ขนาดเป๊บเจ้าพ่อ 433 ยังมีปรับเปลี่ยนแล้วแต่เกมเลย

ผมบอกตามตรง ด้วยสไตล์ของโอนิกิ ต้องการพวก กลางพลังม้า ที่วิ่งได้ทั้งเกมส์และมีลูกปะทะที่ดี ซึ่งไม่เหมาะกับเจเลย ส่วนตัวมองว่า ควรย้ายทีมเพื่อโอกาสเล่นมากกว่า โดนดร็อปนานๆ ความมั่นใจหายหมด

กลางก็เบียดยากเพราะทีมใช้b2b พลังม้า จะไปยืนปีกซ้ายได้เหมือนที่ทีมพยายามลอง ก็ต้องเป็นฟีลยืนซ้ายแต่เป็นตัวฟรี อิสระเยอะๆ พูดง่ายๆก็คือเล่นแบบอิเอนากะตอนนี้นั่นล่ะ แต่มีลูกพี่ใหญ่อยู่แล้วก็ไม่รู้จะลงตรงไหนเลย สู้ต่อ แต่ถ้าไมได้โอกาส ไม่เข้าระบบ ก็อยากให้ย้ายไปหาทีมที่เหมาะ

รายชื่อออกแล้ว
ลูวานคัพเจยังเล่นกลางเหมือนเดิม
โค้ชจะให้เล่นตรงนี้ก็ต้องทำให้ได้
ทำไม่ได้ก็ย้าย จบ

ผมยังคิดว่าระบบนี้มันไม่มีทางใข้งานเจได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เพราะระบบนี้มันต้องทำตัวเป็นb2bขึ้นสุดลงสุดพลังงานสูง แต่ครีเอทต่ำ แล้วกายภาพเจมันไม่ใช่นักบอลที่จะทำหน้าที่ตรงนี้ได้อย่างเป็นธรรมชาติ ดังนั้นไม่มีทางเลยที่เจจะพีคได้ในระบบแลบนี้อย่างมากแค่ประคองตัว ต้องลงไปทีมเล็กกว่านี้ถึงจะเหมาะ แต่ถ้าเป้าหมายอยากลุ้นแชมป์มันก็ไม่ตอบโจทย์ แต่ถ้าอยากลงเล่น มันทำได้แน่

ไม่รู้

ผมว่าคนที่มีส่วนให้เจหายสุดคือ โอชิมะ
ในสายตาโอนิกิวากิซากะมันตัวยืน ส่วนคนที่มาจับคู่ก็เวียนกัน โอชิมะ ตามด้วย เจหรือโทโนะ เพียงแต่ว่าปีที่แล้วโอชิมะมันเจ็บแทบตลอด เจเลยได้โอกาสแล้วมันเลยดูเหมือนปีนี้เจหาย ซึ่งจริงๆถ้าปีที่แล้วโอชิมะไม่เจ็บ เจคงหายตั้งแต่ปีที่แล้วไปแล้ว เอาจริงโอนิกิแกคิดเหมือนเดิมแหละแกไม่ได้เปลี่ยนไปหรอก แค่โอชิมะมันหายเจ็บเจก็หล่นไปตามระเบียบ