BLOG BOARD_B
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email: sale@soccersuck.com
ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1, 2, 3
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ออนไลน์
ดาวเตะลา ลีกา
Status: เปียกปอนฉันภาวนา
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 01 Sep 2009
ตอบ: 7187
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Jan 25, 2023 20:39
[RE: นักข่าวเดินถามceoไฟเซอร์]
เขาวิจัยกันมาแล้วนะท่าน มีเอกสารให้อ่านเยอะเลยนะ ยังงี้จะบอกว่าแพทย์ทุกคนกำลังโกหกเราหรอ
มันไม่ได้ 100% ไงท่าน แต่มันช่วยลดการแพร่กระจายเชื้อ ลดการติดแล้วเป็นหนักได้

ถ้าลองไม่มีใครฉีดสิ เละ ตอนนี้มันเริ่มซาๆแล้วก็พูดได้
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน

Bnk48 - Korn, Jib, Noey, Can, Pun, Jane
Twice - Jeongyeon, Chaeyoung

ออฟไลน์
Tpk
ซุปตาร์โอลิมปิก
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 04 Sep 2013
ตอบ: 13207
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Jan 25, 2023 21:34
[RE: นักข่าวเดินถามceoไฟเซอร์]
tobisuki พิมพ์ว่า:
เขาวิจัยกันมาแล้วนะท่าน มีเอกสารให้อ่านเยอะเลยนะ ยังงี้จะบอกว่าแพทย์ทุกคนกำลังโกหกเราหรอ
มันไม่ได้ 100% ไงท่าน แต่มันช่วยลดการแพร่กระจายเชื้อ ลดการติดแล้วเป็นหนักได้

ถ้าลองไม่มีใครฉีดสิ เละ ตอนนี้มันเริ่มซาๆแล้วก็พูดได้  



โกหกพอไมครับแบบนี้ ลองไปดูคนพูดด้วยว่าใครบ้างระดับโลกทั้งนั้น
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
แข้งบุนเดสลีกา
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 22 Oct 2012
ตอบ: 8676
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Jan 25, 2023 21:42
[RE: นักข่าวเดินถามceoไฟเซอร์]
ผมเคยมีควมคิดจะสรุปความรู้เกี่ยวกับวัคซีนโควิด กับเชื้อไวรัสโควิดโอไมครอน สายพันธุ์ล่าสุดนะ ว่ามันยังไงบ้าง อาการ ผลของวัคซีน เทียบกับโอไมครอนยุคแรกๆ หรือเดลต้าอะไรก็ว่าไป (ข้อมูลเยอะมากกกกก เอามาย่อยนิยิ่งเหนื่อยเลย)

แต่จากประสบการณ์ก็บอกนะว่าแต่ละคนแม่มไม่ได้สนใจข้อมูลอะไรหรอก แค่รอฟังสิ่งที่อยากฟัง ไม่ว่าจะดีหรือไม่ดี ดูจากกระทู้นี้ก็ได้แค่เชื่อสิ่งที่อยากจะเชื่อเท่านั้นแหละ ก็เลยไม่ทำดีกว่า

เชื้อไม่เคยหยุดกลายพันธุ์ ในอนาคตก็คงกลายพันธุ์ไปเรื่อย วัคซีนประสิทธิภาพ มันก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆตามสายพันธุ์ที่ระบาด ซึ่งตามหลัก มันก็ต้องระบาดสายพันธุ์ที่วัคซีนมันกันได้แย่ๆ อยู่แล้ว

ในบอร์ดนี้หรือคนทั่วไปจะมีใครรู้สักกี่คน ว่าโอไมครอนมี 15+สายพันธุ์ย่อยแล้ว ซึ่งผลของวัคซีนในแต่ละสายพันธุ์ย่อยก็แตกต่างกัน

ใครไม่ฉีดวัคซีน ก็ไม่ต้องฉีด แต่อย่ามาทำตัวโง่ๆแบบพวกAnti vax ที่ต่างประเทศก็พอครับ
เพราะความจริงคือไม่มีวัคซีนโควิด( ไม่ว่ายี่ห้อไหนก็ตามนะ ) โลกแม่มก็ต้องฉิบหา_กว่านี้เยอะอะครับ
ช่วงนี้ไม่รู้ทำไมข่าวเยอะ อยากจะไฟท์เรื่องประสิทธิภาพกันจัง
ส่วนตัวผมว่าก็ออกจะปญอนิดๆนะ วัคซีนสร้างมาสำหรับโควิด19
แต่ตอนนี้มัน โควิด 23 แล้วเชื้อแม่มไปไหนแล้ว เอาข้อมูลดาต้าหลังๆมาดิส มันตลกไปครับ
7
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
Talent bringt dich an den start, Einstellung ans ziel.
พรสวรรค์นำคุณไปที่จุดเริ่มต้น ทัศนคตินำคุณไปสู่เส้นชัย
ออฟไลน์
นักบอลถ้วย ง.
Status: #Nerazzurri #LFC
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 12 Aug 2017
ตอบ: 15009
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu Jan 26, 2023 02:37
[RE: นักข่าวเดินถามceoไฟเซอร์]
ผมเข้าใจนานแล้วนะ ว่ามันไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อได้ 100 เปอร์เซ็นต์ แต่บรรเทาอาการป่วยได้หากติดเชื้อ

ก็ดูตอนมันระบาดแล้วยังไม่มีวัคซีน กับทุกวันนี้ มันต่างกันมากนะ ตอนนั้นทุกคนกลัวมาก เพราะใครติด โอกาสเสียชีวิตมันไม่น้อยเลย

แต่ทุกวันนี้คนส่วนใหญ่ ใช้ชีวิตกันได้ปกติ ผมว่าเรามูฟออนจากมันกันได้แล้วล่ะ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักบอลถ้วย ง.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 16 Feb 2011
ตอบ: 2108
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu Jan 26, 2023 09:47
[RE: นักข่าวเดินถามceoไฟเซอร์]
Satsatkub พิมพ์ว่า:
เรื่องของปลาหมึก พิมพ์ว่า:
Satsatkub พิมพ์ว่า:
Lisaverpool พิมพ์ว่า:
เอ้า มันกันตาย ไม่ได้กันติด ฉีดแล้วติดได้ก็ปกติไหม
นึกว่าเรื่องนี้จะเข้าใจกันหมดแล้ว  

MINIMALISM พิมพ์ว่า:
วัคซีนไม่ได้กันติดอยู่แล้วไม่ใช่เหรอครับ  

เค้าใช้คำว่าป้องกัน และลดการรุนแรงมีสองคำครับ

https://vichaivej-nongkhaem.com/health-info/วัคซีนไฟเซอร์/

https://hdmall.co.th/c/covid-vaccine-pfizer



จริงๆคำว่ากันตายไม่กันติดนี่มันมาจากรัฐบาลเพราะวัคซีนจากจีนนะเพราะคนไม่ยอมฉีด
เลยออกคำมาว่ากันตายไม่ติด ฉีดเพื่อให้อาการมันไม่หนัก  


งงอะไรอะ มันก็เขียนว่าป้องกัน 91% ต่อให้มั่นใจว่าแน่นอน 100% บนโลกนี้มันไม่มีใครกล้าการันตี 100% โฆษณา 99.99% ไว้ก่อน กันโดนเค้าฟ้อง  
อันนี้เล่นมุกไหมเนี่ย ป้องกัน90% แต่คนติดเกิน10%อะดิ  


คำว่า"ป้องกันโรค" กับ "ป้องกันการติดเชื้อมีอาการ" คือไม่รวมการติดเชื้อแบบไม่มีอาการหรือมีอาการเล็กน้อยจนผู้เข้าร่วมทดลองเองไม่คิดว่าจำเป็นต้องไปตรวจ PCR นะครับ เพราะการวิจัยที่เป็น field trial แบบนี้มันไม่สามารถจับคนมาแบ่งกลุ่มฉีดวัคซีนแล้วฉีดเชื้อดูได้ การจะมาตรวจดูว่ากลุ่มทดลองติดหรือไม่เลยต้องใช้ตัวผู้เข้าร่วมทดลองเป็นคนสังเกตอาการตัวเอง ถ้ามีอาการเข้าข่ายก็ค่อยไปตรวจครับ

ส่วนกรณีที่คุณบอกว่าคุณไปฉีดวัคซีนแล้ว 3-4 วันต่อมาก็ตรวจเจอว่าติดเลย ก็ต้องบอกว่า 3-4 วัน ร่างกายยังสร้างภูมิคุ้มกันต่อวัคซีนยังไม่สมบูรณ์เลยครับ แล้วที่สงสัยว่าจะติดโควิดจากวัคซีนยิ่งเป็นไปไม่ได้เลย เพราะไม่ว่าจะ mRNA วัคซีนหรือวัคซีน AZ ก็ใช้แค่ชิ้นส่วนเปลือกของไวรัส ไม่มีสารพันธุกรรมสำหรับการเพิ่มจำนวนของไวรัสเลยครับ
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ปลายอาชีพค้าแข้ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 30 Dec 2008
ตอบ: 14036
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu Jan 26, 2023 13:44
[RE: นักข่าวเดินถามceoไฟเซอร์]
Tpk พิมพ์ว่า:
Le Demon Rouge พิมพ์ว่า:
เรื่องวัคซีนท่านต้องอ่านจากแหล่งข่าวดีๆนะครับ เพราะหลายๆสำนักข่าวมันเอาแหล่งจ่าวจากพวก antivax มาลงครับ

ส่วนเรื่องป้องกันการติดโควิด มันไม่ได้ 100% นะครับ แต่ในหมู่วัคซีน pfizer moderna มันก็ประสิทธิภาพสูงสุดแล้วนี่

อย่างของผมประสบการตรง ผมติดโควิดปลายปีก่อน ผมไม่แยกห้องนอนกับภรรยาเลย ใช้ชีวิตด้วยกันตามปกติ ภรรยาผมเพิ่มฉีดไฟเซอร์เข็มกระตุ้นมา แฟนผมไม่ติดนะจนผมหายแล้วอะ แบบนี้ผมก็เคลมได้นะว่า Pfizer ของโคตรดี 555

 
เคลมแบบนั้นไม่ได้ครับเพราะ Pfizer director บอกว่าไม่เคยเทสเรื่องว่าวัคซีนกันการแพร่เชื้อ
 


เดี๋ยวนะ ผมไม่ได้บอกว่าวัคซีนป้องกันกันแพร่เชื้อนะ

ผมหมายถึง ผิดติดโควิด แฟนผมเพิ่งไปบูสมาอีกโดส อยู่ด้วยกันตลอดเวลา แฟนผมก็ไม่ได้ติด ผมก็เคลมได้สิว่าวัคซีน(ไฟเซอร์ที่แฟนผมฉีดไป)มันกันการติดเชื้อได้
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน

ออฟไลน์
ปลายอาชีพค้าแข้ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 30 Dec 2008
ตอบ: 14036
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu Jan 26, 2023 13:46
[RE: นักข่าวเดินถามceoไฟเซอร์]
Tpk พิมพ์ว่า:
tobisuki พิมพ์ว่า:
เขาวิจัยกันมาแล้วนะท่าน มีเอกสารให้อ่านเยอะเลยนะ ยังงี้จะบอกว่าแพทย์ทุกคนกำลังโกหกเราหรอ
มันไม่ได้ 100% ไงท่าน แต่มันช่วยลดการแพร่กระจายเชื้อ ลดการติดแล้วเป็นหนักได้

ถ้าลองไม่มีใครฉีดสิ เละ ตอนนี้มันเริ่มซาๆแล้วก็พูดได้  



โกหกพอไมครับแบบนี้ ลองไปดูคนพูดด้วยว่าใครบ้างระดับโลกทั้งนั้น  


วัคซีนไม่ได้ "ป่องกันการแพร่เชื้อ" อันนี้ถูกแล้ว

ก็วัคซีนมันดีไซน์มาเพื่อ "ป้องกันการติดเชือ"


ซึ่งประสิทธิภาพกาป้องกันมันก็ไม่ได้ 100%
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน

ออฟไลน์
ปลายอาชีพค้าแข้ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 30 Dec 2008
ตอบ: 14036
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu Jan 26, 2023 13:50
[RE: นักข่าวเดินถามceoไฟเซอร์]
Satsatkub พิมพ์ว่า:
Le Demon Rouge พิมพ์ว่า:
เรื่องวัคซีนท่านต้องอ่านจากแหล่งข่าวดีๆนะครับ เพราะหลายๆสำนักข่าวมันเอาแหล่งจ่าวจากพวก antivax มาลงครับ

ส่วนเรื่องป้องกันการติดโควิด มันไม่ได้ 100% นะครับ แต่ในหมู่วัคซีน pfizer moderna มันก็ประสิทธิภาพสูงสุดแล้วนี่

อย่างของผมประสบการตรง ผมติดโควิดปลายปีก่อน ผมไม่แยกห้องนอนกับภรรยาเลย ใช้ชีวิตด้วยกันตามปกติ ภรรยาผมเพิ่มฉีดไฟเซอร์เข็มกระตุ้นมา แฟนผมไม่ติดนะจนผมหายแล้วอะ แบบนี้ผมก็เคลมได้นะว่า Pfizer ของโคตรดี 555

 
ห่างกี่เดือนครับ ผมติดแล้งแฟนเป็นเดือนต่อมาก็ไม่แยกห้องไม่ติดครับ จากที่ดูลูกน้องหลายคู่ ไม่ได้แยกห้องไม่ได้ฉีดวัคซีนก็ไม่ติด งงมากตอนนั้น แต่ต้องให้หหยุดงานไปก่อน เพราะคิดว่ามันไม่ตรวจแต่หลังจากนั้นก็มีอีก2-3คู่เมียติดผัวไม่ติดโคตรแปลก เป็นตอนช่วงระบาดหนักด้วยนะ ไม่ใช่ตัวล่าสุดที่ไม่รุนแรง  


แฟนผมเพิ่งฉีดมาประมาณ 2-3 สัปดาห์ก่อนผมติดเชื้อครับ

คืออยู่ด้วยกันตลอด ไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด เลยคิดว่าผมติดแฟนคงต้องติดด้วยแน่ๆ เลยไม่ได้แยกกันอยู่

ปรากฎจนผมหายแล้ว แฟนก็ยังขีดเดียวตลอด 555
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน

ออฟไลน์
ซุปตาร์โอลิมปิก
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 12 Aug 2010
ตอบ: 10621
ที่อยู่: หมาไม่แดก
โพสเมื่อ: Mon Jan 30, 2023 09:18
[RE: นักข่าวเดินถามceoไฟเซอร์]
Tpk พิมพ์ว่า:
tobisuki พิมพ์ว่า:
เขาวิจัยกันมาแล้วนะท่าน มีเอกสารให้อ่านเยอะเลยนะ ยังงี้จะบอกว่าแพทย์ทุกคนกำลังโกหกเราหรอ
มันไม่ได้ 100% ไงท่าน แต่มันช่วยลดการแพร่กระจายเชื้อ ลดการติดแล้วเป็นหนักได้

ถ้าลองไม่มีใครฉีดสิ เละ ตอนนี้มันเริ่มซาๆแล้วก็พูดได้  



โกหกพอไมครับแบบนี้ ลองไปดูคนพูดด้วยว่าใครบ้างระดับโลกทั้งนั้น  


อ่านเอา https://www.facebook.com/OhISeebyAjarnJess/photos/a.220998438383217/1582266028923111/


คลิปซีอีโอไฟเซอร์ถูกสัมภาษณ์ เป็นปฏิบัติการที่เตรียมมา ของกลุ่มต่อต้านวัคซีนครับ"

จริงๆ ช่วงหลังๆ นี่จะค่อนข้างเบื่อหน่ายกับการมาคอยแก้ข่าวปลอมข่าวปั่น จากกลุ่มที่ต่อต้านวัคซีนโควิด -19 แล้วนะครับ ประมาณว่าถ้าไม่อยากฉีด ก็ไม่ต้องฉีด ไม่ได้บังคับให้ฉีดอะไร ... แต่ก็ยังมีคนส่งประเด็นใหม่ๆ มาถามอยู่เรื่อย

อย่างล่าสุด เมื่อไม่กี่วันนี้ เป็นคลิปวิดีโอยาว 3 นาที ทำนองว่านาย Albert Bourla ซึ่งเป็นซีอีโอ ของบริษัทไฟเซอร์ ได้ถูกคน 2 คนเดินเอาไมโครโฟน มาจี้ถามคำถามเกี่ยวกับวัคซีนโรคโควิด-19 ของบริษัท ขณะที่ซีอีโอไฟเซอร์ก็ตอบเพียงแค่ว่า "ขอบคุณมาก" และ "โชคดี" .. พร้อมกับข้อความประกอบทำนองว่า "เหลือเชื่อ นาย Albert Bourla ได้ถูกล่าโดยนักข่าวที่ทิ้งระเบิดใส่เขา ด้วยคำถามเกี่ยวกับการเสียชีวิตจากวัคซีน ที่เมืองดาวอส"

ซึ่งถ้าใครได้ดูคลิปนี้ โดยไม่รู้รายละเอียดอะไร ก็จะถูกทำให้เชื่อตามคนที่อ้างตัวว่าเป็น "นักข่าว" คนนี้ ที่พูดแต่เรื่องอันตรายจากการฉีดวัคซีน และไม่ได้มีการปฏิเสธจากซีอีโอของไฟเซอร์

แต่จริงๆ แล้ว มันเป็นการ "จัดฉาก" เพื่อให้เกิดความเข้าใจผิด หวาดกลัวในวัคซีน จากกลุ่มที่ต่อต้านวัคซีนต่างหากครับ

คลิปวิดีโอนี้ ถ่ายที่เมืองดาวอส ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ก็จริง แต่ไม่ใช่ที่งานประชุม World Economic Forum แต่เป็นช่วงที่นาย Albert Bourla ไปร่วมที่งาน "100 Days to Outrace the Next Pandemic" ซึ่งจัดเมื่อวันที่ 19 มกราคม ที่ผ่านมา

ส่วนคนที่ไล่สัมภาษณ์เขานั้น แม้ว่าในคลิปจะสื่อว่าเป็นนักข่าว แต่จริงๆ คือ Ezra Levant ซึ่งเป็นนักเคลื่อนไหวทางการเมืองหัวขวาจัด และ Avi Yemini ซึ่งเป็นยูทูเบอร์ ทั้งคู่ได้ร่วมกันทำเพจในประเทศแคนาดา ชื่อว่า Rebel News และอ้างตนเป็นสื่อ แต่จากการตรวจสอบของเว็บไซต์ Media Bias/Fact-Check ซึ่งคอยทำการตรวจสอบความน่าเชื่อถือของสื่อต่างๆ นั้น ระบุไว้ว่า เพจ Rebel News นี้เป็นแหล่งให้ข้อมูลโฆษณาชวนเชื่อและทฤษฎีสมคบคิด โดยเฉพาะกับเรื่องการให้ข้อมูลที่ผิดๆ เกี่ยวกับวัคซีนโควิด-19

ดังนั้น จริงๆ แล้ว คลิปดังกล่าว ไม่ใช้การสัมภาษณ์ตั้งคำถามโดยปรกติของนักข่าวที่มีต่อแหล่งข่าว แต่เป็น "ปฏิบัติการ" ที่จัดเตรียมมาเพื่อทำให้คนสนใจ และเชื่อตามให้คำถามที่ชี้นำให้หวาดกลัวและไม่เชื่อถือในประสิทธิภาพของวัคซีน ซึ่งเนื้อหาที่ถามส่วนใหญ่นั้น เป็นประเด็นที่เคยได้เผยแพร่และชี้แจงกันไปแล้ว ตั้งแต่ช่วงเดือนตุลาคม ปี 2022 (แต่ก็ยังถูกนำมาอ้างเรื่อยๆ)

ในคลิป จะเหมือนกับว่าซีอีโอของไฟเซอร์ต้องเผชิญหน้ากับ "คำถามจี้ใจดำ" เกี่ยวกับวัคซีนโควิดของบริษัท โดยยิงไปที่เรื่อง "การแพร่ระบาดของไวรัสที่ยังมีอยู่ หลังจากมีการฉีดวัคซีน" ซึ่งซีอีโอก็ไม่ตอบคำถาม และคล้ายจะเดินหนี ...
แต่ในความจริงแล้ว คำถามทำนองนี้ได้เคยถูกถามและตอบกันไปแล้ว ตั้งแต่ที่เขาได้ถูกสัมภาษณ์ และมีการตีพิมพ์ผลการวิจัยวัคซีน ในช่วงปลายปี 2020 แล้ว

เป็นที่ทราบกันดีว่า ในทางทฤษฎีนั้น วัคซีนทุกชนิดน่าจะกระตุ้นให้เกิดภูมิคุ้มกันต่อการเจ็บป่วยจากโรคได้ แต่ในชีวิตจริง มันเป็นเรื่องยากมากๆ ที่จะสร้างวัคซีนที่จะหยุด "การติดเชื้อโรค" ได้ด้วย ซึ่งทางไฟเซอร์เองก็ได้ระบุไว้เช่นนั้นตั้งแต่แรก ว่าวัคซีนไม่ใช่สูตรสำเร็จที่จะหยุดการแพร่เชื้อไวรัสโควิด-19 ได้ และถึงแม้ว่าจากผลการศึกษาติดตามการแพร่ระบาดของโควิดหลังจากรณรงค์ฉีดวัคซีน จะแสดงให้เห็นว่า วัคซีนช่วยลดความน่าจะเป็นในการแพร่ระบาดได้ ประเด็นปัญหาที่ตามมาคือ การเกิดเชื้อไวรัสโควิดสายพันธุ์ใหม่ๆ ที่กลายพันธุ์จากเดิมและแพร่ระบาดได้ดีขึ้น ซึ่งทำให้เปอร์เซนต์ความสามารถของวัคซีนลดลงโดยปริยาย

ตัวอย่างเช่น จากที่ผู้สัมภาษณ์นั้นพูดว่า “we now know that vaccines do not stop transmission เรารู้ว่าวัคซีนไม่ได้หยุดการแพร่ระบาด” .. อันนี้ไม่ใช่เรื่องจริง เพราะจากผลการศึกษาประสิทธิภาพของวัคซีนไฟเซอร์ต่อเชื้อไวรัสโควิด สายพันธุ์ดั้งเดิมอู่ฮั่น พบว่าถ้าฉีดวัคซีนไฟเซอร์ไป 2 เข็ม จะหยุดการแพร่ของเชื้อได้ 90% ขณะที่ถ้าฉีดไป 1 เข็มจะหยุดได้ 80% (จากงานวิจัย https://www.bmj.com/content/373/bmj.n888)

จากนั้นผู้สัมภาษณ์ก็พูดต่อว่า "You say it (Pfizer vaccine) is 100% effective, then 90%, then 80%, then 70% ท่านบอกว่ามันมีประสิทธิภาพเต็ม 100% แล้วก็เปลี่ยนเป็น 90% แล้วก็ 80% แล้วก็ 70% ” ... ซึ่งการพูดเช่นนี้ ทำให้คนที่ไม่ทราบเรื่องเกี่ยวกับไวรัส ว่า "ไวรัสมันมีการกลายพันธุ์ ทำให้ประสิทธิภาพของวัคซีนลดลงเรื่อยๆ เมื่อเจอกับไวรัสสายพันธุ์ใหม่" จะเข้าใจผิดตามไปด้วยว่ามีการโกหกเกี่ยวกับประสิทธิภาพของวัคซีน ... ทางแก้ในปัญหาเรื่องนี้ จริงๆ ก็คือการพัฒนาวัคซีนตัวใหม่ ให้มีประสิทธิภาพดีต่อเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ๆ แต่มันก็ต้องใช้เวลาและความพยายามในการพัฒนาสูงเช่นกัน

สุดท้าย คือประโยคของผู้สัมภาษณ์ที่บอกว่า “it (the Pfizer vaccine) is an ineffective vaccine มันเป็นวัคซีนที่ไม่มีประสิทธิภาพ " ก็เป็นการบิดเบือนอย่างชัดเจน เพราะเป็นที่ยอมรับกันทางการแพทย์ ว่าประสิทธิผล (efficacy) ในการป้องกันการป่วยของวัคซีนไฟเซอร์ สูงถึง 95% ถ้าใช้กับเชื้อไวรัส COVID-19 สายพันธุ์ดั้งเดิมอู่ฮั่น (จาก https://fullfact.org/health/pfizer-vaccine-efficacy/...)
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
Tpk
ซุปตาร์โอลิมปิก
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 04 Sep 2013
ตอบ: 13207
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Jan 30, 2023 10:30
[RE: นักข่าวเดินถามceoไฟเซอร์]
[-_-]Twisted พิมพ์ว่า:
Tpk พิมพ์ว่า:
tobisuki พิมพ์ว่า:
เขาวิจัยกันมาแล้วนะท่าน มีเอกสารให้อ่านเยอะเลยนะ ยังงี้จะบอกว่าแพทย์ทุกคนกำลังโกหกเราหรอ
มันไม่ได้ 100% ไงท่าน แต่มันช่วยลดการแพร่กระจายเชื้อ ลดการติดแล้วเป็นหนักได้

ถ้าลองไม่มีใครฉีดสิ เละ ตอนนี้มันเริ่มซาๆแล้วก็พูดได้  



โกหกพอไมครับแบบนี้ ลองไปดูคนพูดด้วยว่าใครบ้างระดับโลกทั้งนั้น  


อ่านเอา https://www.facebook.com/OhISeebyAjarnJess/photos/a.220998438383217/1582266028923111/


คลิปซีอีโอไฟเซอร์ถูกสัมภาษณ์ เป็นปฏิบัติการที่เตรียมมา ของกลุ่มต่อต้านวัคซีนครับ"

จริงๆ ช่วงหลังๆ นี่จะค่อนข้างเบื่อหน่ายกับการมาคอยแก้ข่าวปลอมข่าวปั่น จากกลุ่มที่ต่อต้านวัคซีนโควิด -19 แล้วนะครับ ประมาณว่าถ้าไม่อยากฉีด ก็ไม่ต้องฉีด ไม่ได้บังคับให้ฉีดอะไร ... แต่ก็ยังมีคนส่งประเด็นใหม่ๆ มาถามอยู่เรื่อย

อย่างล่าสุด เมื่อไม่กี่วันนี้ เป็นคลิปวิดีโอยาว 3 นาที ทำนองว่านาย Albert Bourla ซึ่งเป็นซีอีโอ ของบริษัทไฟเซอร์ ได้ถูกคน 2 คนเดินเอาไมโครโฟน มาจี้ถามคำถามเกี่ยวกับวัคซีนโรคโควิด-19 ของบริษัท ขณะที่ซีอีโอไฟเซอร์ก็ตอบเพียงแค่ว่า "ขอบคุณมาก" และ "โชคดี" .. พร้อมกับข้อความประกอบทำนองว่า "เหลือเชื่อ นาย Albert Bourla ได้ถูกล่าโดยนักข่าวที่ทิ้งระเบิดใส่เขา ด้วยคำถามเกี่ยวกับการเสียชีวิตจากวัคซีน ที่เมืองดาวอส"

ซึ่งถ้าใครได้ดูคลิปนี้ โดยไม่รู้รายละเอียดอะไร ก็จะถูกทำให้เชื่อตามคนที่อ้างตัวว่าเป็น "นักข่าว" คนนี้ ที่พูดแต่เรื่องอันตรายจากการฉีดวัคซีน และไม่ได้มีการปฏิเสธจากซีอีโอของไฟเซอร์

แต่จริงๆ แล้ว มันเป็นการ "จัดฉาก" เพื่อให้เกิดความเข้าใจผิด หวาดกลัวในวัคซีน จากกลุ่มที่ต่อต้านวัคซีนต่างหากครับ

คลิปวิดีโอนี้ ถ่ายที่เมืองดาวอส ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ก็จริง แต่ไม่ใช่ที่งานประชุม World Economic Forum แต่เป็นช่วงที่นาย Albert Bourla ไปร่วมที่งาน "100 Days to Outrace the Next Pandemic" ซึ่งจัดเมื่อวันที่ 19 มกราคม ที่ผ่านมา

ส่วนคนที่ไล่สัมภาษณ์เขานั้น แม้ว่าในคลิปจะสื่อว่าเป็นนักข่าว แต่จริงๆ คือ Ezra Levant ซึ่งเป็นนักเคลื่อนไหวทางการเมืองหัวขวาจัด และ Avi Yemini ซึ่งเป็นยูทูเบอร์ ทั้งคู่ได้ร่วมกันทำเพจในประเทศแคนาดา ชื่อว่า Rebel News และอ้างตนเป็นสื่อ แต่จากการตรวจสอบของเว็บไซต์ Media Bias/Fact-Check ซึ่งคอยทำการตรวจสอบความน่าเชื่อถือของสื่อต่างๆ นั้น ระบุไว้ว่า เพจ Rebel News นี้เป็นแหล่งให้ข้อมูลโฆษณาชวนเชื่อและทฤษฎีสมคบคิด โดยเฉพาะกับเรื่องการให้ข้อมูลที่ผิดๆ เกี่ยวกับวัคซีนโควิด-19

ดังนั้น จริงๆ แล้ว คลิปดังกล่าว ไม่ใช้การสัมภาษณ์ตั้งคำถามโดยปรกติของนักข่าวที่มีต่อแหล่งข่าว แต่เป็น "ปฏิบัติการ" ที่จัดเตรียมมาเพื่อทำให้คนสนใจ และเชื่อตามให้คำถามที่ชี้นำให้หวาดกลัวและไม่เชื่อถือในประสิทธิภาพของวัคซีน ซึ่งเนื้อหาที่ถามส่วนใหญ่นั้น เป็นประเด็นที่เคยได้เผยแพร่และชี้แจงกันไปแล้ว ตั้งแต่ช่วงเดือนตุลาคม ปี 2022 (แต่ก็ยังถูกนำมาอ้างเรื่อยๆ)

ในคลิป จะเหมือนกับว่าซีอีโอของไฟเซอร์ต้องเผชิญหน้ากับ "คำถามจี้ใจดำ" เกี่ยวกับวัคซีนโควิดของบริษัท โดยยิงไปที่เรื่อง "การแพร่ระบาดของไวรัสที่ยังมีอยู่ หลังจากมีการฉีดวัคซีน" ซึ่งซีอีโอก็ไม่ตอบคำถาม และคล้ายจะเดินหนี ...
แต่ในความจริงแล้ว คำถามทำนองนี้ได้เคยถูกถามและตอบกันไปแล้ว ตั้งแต่ที่เขาได้ถูกสัมภาษณ์ และมีการตีพิมพ์ผลการวิจัยวัคซีน ในช่วงปลายปี 2020 แล้ว

เป็นที่ทราบกันดีว่า ในทางทฤษฎีนั้น วัคซีนทุกชนิดน่าจะกระตุ้นให้เกิดภูมิคุ้มกันต่อการเจ็บป่วยจากโรคได้ แต่ในชีวิตจริง มันเป็นเรื่องยากมากๆ ที่จะสร้างวัคซีนที่จะหยุด "การติดเชื้อโรค" ได้ด้วย ซึ่งทางไฟเซอร์เองก็ได้ระบุไว้เช่นนั้นตั้งแต่แรก ว่าวัคซีนไม่ใช่สูตรสำเร็จที่จะหยุดการแพร่เชื้อไวรัสโควิด-19 ได้ และถึงแม้ว่าจากผลการศึกษาติดตามการแพร่ระบาดของโควิดหลังจากรณรงค์ฉีดวัคซีน จะแสดงให้เห็นว่า วัคซีนช่วยลดความน่าจะเป็นในการแพร่ระบาดได้ ประเด็นปัญหาที่ตามมาคือ การเกิดเชื้อไวรัสโควิดสายพันธุ์ใหม่ๆ ที่กลายพันธุ์จากเดิมและแพร่ระบาดได้ดีขึ้น ซึ่งทำให้เปอร์เซนต์ความสามารถของวัคซีนลดลงโดยปริยาย

ตัวอย่างเช่น จากที่ผู้สัมภาษณ์นั้นพูดว่า “we now know that vaccines do not stop transmission เรารู้ว่าวัคซีนไม่ได้หยุดการแพร่ระบาด” .. อันนี้ไม่ใช่เรื่องจริง เพราะจากผลการศึกษาประสิทธิภาพของวัคซีนไฟเซอร์ต่อเชื้อไวรัสโควิด สายพันธุ์ดั้งเดิมอู่ฮั่น พบว่าถ้าฉีดวัคซีนไฟเซอร์ไป 2 เข็ม จะหยุดการแพร่ของเชื้อได้ 90% ขณะที่ถ้าฉีดไป 1 เข็มจะหยุดได้ 80% (จากงานวิจัย https://www.bmj.com/content/373/bmj.n888)

จากนั้นผู้สัมภาษณ์ก็พูดต่อว่า "You say it (Pfizer vaccine) is 100% effective, then 90%, then 80%, then 70% ท่านบอกว่ามันมีประสิทธิภาพเต็ม 100% แล้วก็เปลี่ยนเป็น 90% แล้วก็ 80% แล้วก็ 70% ” ... ซึ่งการพูดเช่นนี้ ทำให้คนที่ไม่ทราบเรื่องเกี่ยวกับไวรัส ว่า "ไวรัสมันมีการกลายพันธุ์ ทำให้ประสิทธิภาพของวัคซีนลดลงเรื่อยๆ เมื่อเจอกับไวรัสสายพันธุ์ใหม่" จะเข้าใจผิดตามไปด้วยว่ามีการโกหกเกี่ยวกับประสิทธิภาพของวัคซีน ... ทางแก้ในปัญหาเรื่องนี้ จริงๆ ก็คือการพัฒนาวัคซีนตัวใหม่ ให้มีประสิทธิภาพดีต่อเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ๆ แต่มันก็ต้องใช้เวลาและความพยายามในการพัฒนาสูงเช่นกัน

สุดท้าย คือประโยคของผู้สัมภาษณ์ที่บอกว่า “it (the Pfizer vaccine) is an ineffective vaccine มันเป็นวัคซีนที่ไม่มีประสิทธิภาพ " ก็เป็นการบิดเบือนอย่างชัดเจน เพราะเป็นที่ยอมรับกันทางการแพทย์ ว่าประสิทธิผล (efficacy) ในการป้องกันการป่วยของวัคซีนไฟเซอร์ สูงถึง 95% ถ้าใช้กับเชื้อไวรัส COVID-19 สายพันธุ์ดั้งเดิมอู่ฮั่น (จาก https://fullfact.org/health/pfizer-vaccine-efficacy/...)  
you are not getting covid if you have this vaccination . when people are vaccinated they can feel safe they arent going getting covid.
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ไปหน้าที่ 1, 2, 3
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel