ประวัติศาสตร์!!! 'เนซิรี่' โหม่งโทน 'โมร็อกโก' คว่ำฝอยทองทะลุตัดเชือก
ประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของฟุตบอลโลกเกิดขึ้นแล้วเมื่อ ยุสเซฟ เอน-เนซิรี่ เป็นคนโหม่งประตูส่ง โมร็อกโก ออกนำทำเอา โปรตุเกส ต้องเดินหน้าลุยหนักแต่พยายามเท่าไหร่ก็ไม่สำเร็จ โมร็อกโก ยันไว้ได้ในช่วงท้ายเฉือนชนะ ฝอยทอง 1-0 และกลายเป็นชาติจากแอฟริกาชาติแรกที่เข้าถึงรอบรองชนะเลิศ
โมร็อกโก
Starting Formation: 4-3-3
6.
โรแม็ง ซาอิส
57'
7.0
25.
ยาห์ยา อัตติยัท-อัลลาห์
7.0
15.
เซลิม อมัลลาห์
65'
7.0
17.
โซฟิยาน บูฟาล
82'
7.0
7.
ฮาคิม ซีเยค
82'
7.0
19.
ยุสเซฟ เอน-เนซิรี่
65'
7.0
ตัวสำรอง
21.
วาลิด เชดดิร่า
65'
4.0
26.
ยาห์ยา จาบราเน่
82'
-
14.
ซาคาเรีย อบูคฮลัล
82'
-
24.
บาเดอร์ เบนูน
65'
6.5
20.
อัคราฟ ดารี
57'
6.5
ฟุตบอลโลก 2022 รอบก่อนรองชนะเลิศ
สนาม อัล ธูมามา สเตเดี้ยม
วันที่ 10 ธันวาคม 2565
กรรมการ ฟาคุนโด้ เตลโล่
โมร็อกโก
1
0
โปรตุเกส
ข่าวร้ายของ โมร็อกโก คือการไม่มี มาซราอุย ลงสนามในตำแหน่งแบ็คซ้าย ทำให้ อัลลาห์ จะต้องมาทำหน้าที่แทนแต่นอกนั้นยังชุดเดิม
ส่วนทางด้าน โปรตุเกส ก็ให้ โรนัลโด้ นั่งสำรองไปอีกครั้งเท่ากับ รามอส ค้ำหน้าต่อและแดนกลางเลือกส่ง เนเวส ลงตัวจริงแทน คาร์วัลโญ่
ฝอยทองลุ้นก่อน เฟลิกซ์ โหม่งฟรีคิกโดนปัดทิ้ง
มาถึง โปรตุเกส ก็ลุ้นเลยจากฟรีคิกริมเส้นขวา บรูโน่ เปิดเข้ามาในเขตโทษแล้ว เฟลิกซ์ ทิ้งตัวโหม่งได้แต่ โบโน่ ยังปัดออกหลังไปก่อน
โมร็อกโกมาบ้าง เนซิรี่ โหม่งเตะมุมออกหลัง
โอกาสของ โมร็อกโก ก็มากันบ้างจากลูกเตะมุมทางซ้ายเลือกเปิดมาตรงกลาง เนซิรี่ ขึ้นโหม่งได้แต่ก็ส่งบอลลอยโด่งออกหลัง
เกร์เรโร่ ได้สับไกในเขตโทษโดนบล็อกไว้
โปรตุเกส ได้โอกาสกันใหม่จากบอลเปิดเข้าเขตโทษไปโดนโหม่งติดบล็อกลอยมาเข้าทาง เกร์เรโร่ สับไกในกรอบเขตโทษแบบเน้นๆแต่ก็ถูกบล็อกเอาไว้
ซีเยค โยกหักเข้าในก่อนยิงออกเสาแรก
กลับมาเป็น โมร็อกโก ลองลุ้นกันอีกครั้งเมื่อบอลมาอยู่กับ ซีเยค ริมเส้นขวาได้โอกาสโยกตัดเข้าในก่อนจบด้วยการซัดส่งบอลหลุดออกเสาแรก
ฟรีคิกโมร็อกโกได้ลุ้น เนซิรี่ โหม่งหลุดกรอบ
โมร็อกโก มีลุ้นเอาประตูอีกครั้งกับฟรีคิกระยะไกลที่ ซีเยค ตักเข้าไปในเขตโทษแล้ว เนซิรี่ โฉบมาโหม่งแต่บอลยังลอยหลุดกรอบไป
เกือบ! เฟลิกซ์ ยิงแฉลบหลุดกน่อยไปหน่อย
หวิดจะมีประตูให้ ฝอยนทอง เข้าในจังหวะที่เปิดยาวขึ้นหน้าแล้วโดนโหม่งดักเอาไว้บอลเข้าทาง เฟลิกซ์ ยิงสวนจากหน้าเขตโทษติดแฉลบหลุดกรอบไปหน่อย โบโน่ หลงไปแล้วด้วย
โมร็อกโกมาใหม่ อมัลลาห์ ซัดโด่งออกหลัง
จังหวะนี้ โมร็อกโก บุกมาดีเปลี่ยนแกข้ามมาซ้ายให้ บูฟาล หน้าเขตโทษไหลต่อ อัลลาห์ เติมขึ้นไปหักเข้ากลางจบด้วย อมัลลาห์ ซัดส่งบอลโด่งออกหลัง
บูฟาล ยิงหน้าเขตโทษแต่ตรงตัว
โอกาสของ โมร็อกโก มาต่อเนื่องจาก บูฟาล ทางซ้ายขอลุยเองล็อกไปล็อกมาก่อนหาช่องยิงด้วยขวาจากหน้าเขตโทษแต่บอลก็เข้าซอง คอสต้า ไป
เกร์เรโร่ เปิดให้ เฟลิกซ์ ยิงไม่จับข้ามคาน
ขยับเข้าท้ายครึ่งแรกแล้ว โปรตุเกส กลับมามีลุ้นอีกเมื่อ เกร์เรโร่ ได้จังหวะครอสจากทางซ้ายเข้าเขตโทษมา เฟลิกซ์ ว่างพอดีเลยยิงแบบไม่จับแต่ยังข้ามคาน
คอสต้าพลาด! เนซิรี่ โหม่งตัดหน้าส่งโมร็อกโกนำ
แล้วพอ โมร็อกโก บุกกลับมาก็เอาประตูออกนำสำเร็จหลังจากบอลออกมาทางซ้ายอยู่กับ อัลลาห์ มีโอกาสตั้งป้อมเปิดโด่งเข้าไป คอสต้า จะออกมาตัดบอลเจอ เนซิรี่ โดดสูงลิบโหม่งตัดหน้าเข้าประตู โมร็อกโก นำแล้ว 1-0
เกือบเสมอ! บรูโน่ หวดบอลชนคานเต็มๆ
โปรตุเกส ตอบโต้หวิดได้ประตูตีเสมอเข้าแล้วในจังหวะริมเส้นขวา ดาโลท์ กระดกมาให้ บรูโน่ ตรงกรอบเขตโทษแล้วเลือกหวดบอลเข้าในไม่รู้จะยิงจะเปิดแต่บอลชนตามอย่างจัง
ฝอยทองจะเอาจุดโทษแต่เปาไม่แจก
มีจังหวะที่ โปรตุเกส พยายามฟ้องเอาจุดโทษด้วยหลังจาก บรูโน่ เข้าเขตโทษมามี ฮาคิมี่ วิ่งตามมาจากด้านหลังก่อนที่ บรูโน่ จะล้มลงไปแต่กรรมการก็ไม่ได้ให้อะไรดูว่าทิ้งตัวง่าย
เกือบสอง! โมร็อกโกโต้กลับ อัลลาห์ ยิงออกหลัง
จังหวะโต้กลับของ โมร็อกโก เกือบจะมีประตูเพิ่มเข้าเหมือนกันหลังลุยกันมา 3 คน อูนาฮี เลือกจ่ายออกทางซ้ายให้ อัลลาห์ สอดมาสวยจบด้วยการยิงมุมแคบออกเสาแรก
ฟรีคิก ซีเยค เปิดมาโดนปัดทิ้งก่อนเด้งเปลี่ยนทิศออกหลัง
กลับมาครึ่งหลังเกือบมีประตูให้ โมร็อก เข้าอีกกับฟรีคิกทางขวา ซีเยค เปิดเข้าไปลุ้นในเขตโทษแล้วมันพุ่งผ่านตัวที่โฉบมาไปหมดแต่ตรงกรอบ คอสต้า ต้องปัดมาโดนตัว ยามิกเด้งออกหลัง
ฝอยทองขยับแล้วส่ง โด้,คันเซโล่ ลงเล่น
แล้วเริ่มครึ่งหลังไปได้ไม่ทันไร โปรตุเกส ขยับเปลี่ยนตัวแล้วเลือกที่จะถอด เนเวส กับ เกร์เรโร่ ออกแล้วให้ โรนัลโด้ กับ คันเซโล่ ลงมาแทน
ซาอิส เจ็บเสียแล้วต้องเปลี่ยนตัวออก
โมร็อกโก จำเป็นต้องเปลี่ยนตัวเลยเปลี่ยนเอา ซาอิส กองหลังสำคัญออกเพราะบาดเจ็บถูกหามลงเปลแล้วให้ ดารี ลงมาแทน
ยังเฉียด! โอตาวิโอ ตักให้ รามอส โหม่งหลุดเสา
หวิดมีประตูตีเสมอให้ โปรตุเกส เข้าอีกครั้งด้วยจังหวะที่ โอตาวิโอ ทางขวาหนีมาหน้าเขตโทษได้แล้วตักเข้าไปให้ รามอส โหม่งแต่หลุดเสาไปนิดเดียว
ยังไม่ได้! บรูโน่ ซัดหน้าเขตโทษข้ามคานนิดเดียว
โปรตุเกส มาน่ากลัวอีกแล้วดักบอลกลับมาได้ทางซ้าย แบร์นาร์โด้ พาบอลมาแล้วจ่ายมาหน้าเขตโทษให้ บรูโน่ ได้ซัดแบบเน้นๆแต่บอลพุ่งข้ามคานนิดเดียว
ฟรีคิกฝอยทองจ่ายเรียดมาแต่ แบร์นาร์โด้ สะกิดปลายขา
โปรตุเกส มาได้ฟรีคิกสุดเส้นหลังทางซ้ายแล้วเลือกเล่นลูสูตรให้ บรูโน่ จ่ายเรียดมาตรงกลางเขตโทษพื้นที่ว่างๆแต่ แบร์นาร์โด้ มาช้าไปเลยยืดขาสะกิดโดนบอลนิดเดียวไม่ตรงกรอบ
ท้ายเกมแล้วโมร็อกโกยังมีช่องสวนกลับน่ากลัว
เกมล่วงเลยมาจนถึงตอนท้ายแล้ว โปรตุเกส ยังกดดันแบบต่อเนื่องแต่จังหวะโต้กลับของ โมร็อกโก มาน่ากลัวหลายทีแล้วขาดการจ่ายบอลดีๆในพื้นที่สุดท้ายไม่งั้นมีลุ้นนำเพิ่มไปอีก
โบโน่ด่านสุดท้าย!! เฟลิกซ์ ยิงดีเจอปัดเอาไว้
โปรตุเกส ได้โอกาสดีที่จตีเสมอหลัง โมร็อกโก ไม่ยอมให้บอลออกหลังแต่กลายเป็นจ่ายบอลเข้าทาง เฟลิกซ์ ทางขวาฝากมา โรนัลโด้ ในเขตโทษเบิ้ลคืน เฟลิกซ์ จบด้วยการซัดหน้าเขตโทษเจอ โบโน่ บินปัดเอาไว้
ทด 8 นาทีฝอยทองลุยต่อ โด้ ยิงติดเซฟ
เข้าช่วงทดเจ็บนาน 8 นาที โปรตุเกส ยังพอมีเวลาและเกือบได้ประตูเข้าอีกครั้งด้วยบอลแทงขึ้นหน้าส่ง โรนัลโด้ วิ่งแข่งกับกองหลังโฉบมาถึงบอลแล้วยิงทันทีจากตรงกรอบเขตโทษแต่ โบโน่ เซฟไม่มีปัญหา
โมร็อกโกเหลือ 10 คน! เชดดิร่า โดนเหลืองสอง
ทดเจ็บ โมร็อกโก ยังต้องมาเหลือนักเตะเพียงแค่ 10 คนอีกเพราะ เชดดิร่า ที่มีใบเหลืองติดตัวอยู่แล้วมาทำฟาวล์ จังหวะสกัด เฟลิกซ์ ทำให้กรรมการควักเหลืองสองไล่ออก โมร็อกโก ต้องยันให้อยู่แล้วกับเวลาอีก 5 นาที
อดฝัง! อบูคฮลัล หลุดเดี่ยวมายิงไม่ดี
เกือบมีจังหวะให้ โมร็อกโก เอาประตูฝังเกมนี้อีกแล้วหลังจากบอลยาวถึง อบูคฮลัล มีโอกาสควบพาบอลหลุดเดี่ยวมาแต่ตัดสินใจยิงไม่ดีส่งบอลตรงตัว คอสต้า ซะงั้น
นิดเดียว!! เปเป้ สอดโหม่งเฉี่ยวเสา
โปรตุเกส ทำยังไงก็ไม่ได้ประตูจังหวะนี้ก็แค่เกือบอีกแล้วหลังบอลครอสจากทางซ้ายเข้ามาหน้าประตูแล้ว เปเป้ สอดมาโหม่งได้แต่หลุดเสาแค่นิดเดียวเท่านั้น
จบเกม โมร็อกโก ทำได้เฉือนเอาชนะ โปรตุเกส 1-0 สร้างประวัติศาสตร์กลายเป็นทีมจากแอฟริกาทีมแรกที่เข้าถึงรอบรองชนะเลิศฟุตบอลโลก
โปรตุเกส
Starting Formation: 4-3-3
5.
ราฟาเอล เกร์เรโร่
51'
5.5
2.
ดิโอโก้ ดาโลท์
79'
5.5
18.
รูเบน เนเวส
51'
5.0
25.
โอตาวิโอ
69'
5.5
26.
กอนซาโล่ รามอส
69'
5.0
ตัวสำรอง
21.
ริคาร์โด้ ฮอร์ต้า
79'
-
7.
คริสติอาโน่ โรนัลโด้
51'
5.5
15.
ราฟาเอล เลเอา
69'
5.5
16.
วิตินญ่า
69'
5.5
20.
เจา คันเซโล่
51'
5.5
แก้ไขล่าสุดโดย redenzo เมื่อ Sun Dec 11, 2022 00:55, ทั้งหมด 6 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ
: 0 ใบ
My Locker
