ตัวตึงบราซิล! ริชาร์ลิซอน ฟาดเบิ้ลพา' แซมบ้า' กดเซอร์เบีย 2-0
ริชาร์ลิซอน ศูนย์หน้าตัวตึงจากท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ โชว์ฟอร์มเหมายิงคนเดียวในช่วงครึ่งหลัง โดยเฉพาะประตูที่สองที่ฟาดเข้าไปอย่างสุดสวยช่วยให้ทีมเต็งอย่าง บราซิล ประเดิมศึกฟุตบอลโลก 2022 ด้วยการเชือดเอาชนะ เซอร์เบีย ไปแบบนิ่มๆ 2-0 เก็บสามแต้มขึ้นนำจ่าฝูงกลุ่มจีตามเป้า
บราซิล
Starting Formation: 4-2-3-1
7.
ลูคัส ปาเกต้า
75'
20.
วินิซิอุส จูเนียร์
75'
11.
ราฟินญ่า
85'
9.
ริชาร์ลิซอน
80'
10.
เนย์มาร์
80'
ตัวสำรอง
19.
แอนโทนี่
80'
18.
กาเบรียล เชซุส
80'
8.
เฟร็ด
75'
26.
กาเบรียล มาร์ติเนลลี่
85'
21.
โรดรีโก้
75'
ฟุตบอลโลก 2022 กลุ่มจี
สนาม ลูซาอิล ไอคอนิก สเตเดี้ยม
พฤหัสบดีที่ 24 พฤศจิกายน 2565
กรรมการ อลิเรซ่า ฟากานี่
บราซิล
2
0
เซอร์เบีย
ิ1-0 ริชาร์ลิซอน 62'
2-0 ริชาร์ลิซอน 73'
บราซิลในระบบ 4-2-3-1 ริชาร์ลิซอน ฟิตได้โอกาสลงเป็นหน้าเป้าตัวจริงโดยมี เนย์มาร์,วินิซิอุส,ราฟินญ่า คอยหนุน ส่วนตรงกลางเป็น ปาเกต้า ที่จับคู๋ยืนคุมร่วมกับ คาเซมิโร่ แผงหลังซ้ายไปขวา ซานโดร,ซิลวา,มาร์ควินญอส,ดานิโล่ โดยที่ อลิสซอน รับหน้าที่เฝ้าเสา
ฝั่งเซอร์เบียได้ข่าวดีที่ มิโตรวิช ฟิตและสามารถลงเป็นตัวจริงค้ำแดนหน้าในระบบ 3-4-2-1 ได้ โดยมี มิลินโควิช-ซาวิช,ทาดิช คอยสนับสนุน
- บราซิล ไม่แพ้ เซอร์เบีย (รวมยูโกสลาเวีย) ตลอด 17 นัดหลังสุด นับตั้งแต่แพ้ด้วยสกอร์ 8-4 เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 1934
- บราซิล ไม่แพ้ใครในฟุตบอลโลกเฉพาะรอบแบ่งกลุ่ม 15 นัดหลังสุด โดยชนะถึง 12 นัด ส่วนความพ่ายแพ้ครั้งล่าสุดในรอบแบ่งกลุ่มคือการแพ้ นอร์เวย์ ในปี 1998
- เนย์มาร์ มีส่วนร่วมโดยตรงกับ 42% ของ 19 ประตูหลังสุดของบราซิลในฟุตบอลโลก โดยทำได้ 6 ประตูและ 2 แอสซิสต์
- เซอร์เบีย (รวมเซอร์เบียและมอนเตเนโกร) ผ่านเข้ารอบฟุตบอลโลก 4 จาก 5 ครั้งหลังสุด แต่เป็นการแพ้ถึง 7 จาก 9 นัด
ช่วงต้นยังไม่หวือหวา
ต้นเกมผ่านมาพักใหญ่แล้วทั้งสองฝั่งยังไม่มีจังหวะลุ้นทำประตูแบบชัดเจนเลย โดยที่บีราซิลเปนฝ่ายครองบอลได้มากกว่าเพียงแต่ยังไม่มีทีเด็ด
คาเซมิโร่ลองส่องไกล
บราซิลครองบอลเยอะแต่ยังเจาะไม่เข้าทำให้จังหวะนี้คาเซมิโร่ลองวางเท้าซัดไกลด้วยขวา บอลพุ่งแรงไปติดเซฟ
ราฟินญ่าหลุดแปยังเบาไป
บราซิลเกือบได้ประตูขึ้นนำ จากจังหวะที่ราฟินญ่าทำชิ่งกับปาเกต้าหลุดไปแปด้วยซ้าย แต่บอลพุ่งเรียดเบาไปเข้ามือมิลินโควิช-ซาวิช
มลาเดโนวิชได้โขกหลุดกรอล
โอกาสลุ้นครั้งแรกของทางเซอร์เบีย จังหวะที่ซิฟโควิชเปิดบอลจากทางริมกรอบฝั่งขวาไปถึงเสาสองแล้วเป็นมลาเดโนวิชโถมมาโหม่งแต่บอลก็หลุดข้ามคานไป
วินิซิอุสได้ยังไม่ดี
โอกาสลุ้นก่อนจบครึ่งแรกของทางบราซิล จากจังหวะสวนกลับเร็วแล้วเป็นวินิซิอุสได้ซัดด้วยขวาจากทางกรอบฝั่งซ้าย แต่บอลก็หลุดกรอบไป
สุดท้ายจบครึ่งแรกไม่มีสกอร์เกิดขึ้นทำให้เสมอกันอยู่ 0-0 ต้องไปว่ากันใหม่ในครึ่งหลัง
ราฟินญ่าโอกาสทองซัดติด
เริ่มครึ่งหลังมาไม่ทันไรบราซิลเกือบได้ประตูขึ้นนำแบบสุดๆ จากจังหวะที่ราฟินญ่าไปฉกบอลได้จากความผิดพลาดของกูเดลจ์ เขาได้หลุดไปแปเน้นๆ แต่ไปติดเซฟมิลินโควิช-ซาวิชอย่างน่าเสียดาย
เนย์มาร์ปั่นฟรีคิกแฉลบกำแพง
บราซิลได้ฟรีคิกระยะอันตรายหน้ากรอบเขตโทษเยื้องมาทางซ้าย เนย์มาร์รับหน้าที่ยืนเล็งอยู่นานก่อนปั่นด้วยขวาไปแฉลบกำแพงปลิ้นข้ามคานไป
เนย์มาร์ตวัดด้วยซ้ายหลุดกรอบ
อีกครั้งของทีมแชมป์โลก 5 สมัย จังหวะที่วินิซิอุสได้บอลทางริมกรอบฝั่งซ้ายก่อนเปิดพุ่งเข้าไปในกรอบเขตโทษให้เนย์มาร์โฉบมาตวัดยิงด้วยซ้ายแต่ยังหลุดกรอบ
ซานโดรตะบันไกลแม่นเสา
จังหวะน่าได้อีกครั้งของบราซิล ซานโดรเติมขึ้นมาได้บอลหน้ากรอบเขตโทษก่อนมีเวลาวางเท้าซัดด้วยซ้ายเต็มข้อ บอลพุ่งต่ำหนีมือผู้รักษาประตูไปแล้วแต่ดันชนเสาอย่างจัง
เอาจนได้!ริชาร์ลิซอนซ้ำจ่อไม่เหลือ 1-0 แซมบ้าปลดล็อค
แล้วความพยายามของบราซิลก็มาเป็นผลจนได้ เมื่อพวกเขาออกนำไปก่อน 1-0 จากจังหวะที่เนย์มาร์โชว์พลิ้เลี้ยงแหวกแนวรับเซอร์เบียร์เข้าไปในกรอบฝั่งซ้ายแล้วบอลไปเข้าทางปืนวินิซิอุสที่ตวัดยิงด้วยขวาพุ่งไปติดเซฟ ก่อนที่บอลจะกระฉอกมาเข้าทางปืนริชาร์ลิซอนที่ตวัดด้วยขวาซ้ำจ่อๆไม่เหลือ
วินิซิอุสหลุดแล้วแต่ดันลื่น
แซมบ่าเกือบบวกประตูเพิ่มได้จากจังหวะนี้ที่วินิซิอุสได้บอลหลุดมาทางกรอบฝั่งซ้ายแต่สุดท้ายเขาดันไปลื่นเสียก่อนทำให้ยิงบอลปลิ้นหลุดกรอบไปไกล
พาฟโลวิชขึ้นโขกข้ามคาน
หลังจากเสียประตูเซอร์เบียพยายามเปิดเกมบุกมากขึ้น จังหวะนีพวกเขาได้ลุ้นจากลูกเตะมุมทางฝั่งซ้ายที่ทาดิชเปิดเข้าไปในกรอบแล้วเป็นพาฟโลวิชที่ขึ้นโหม่งแต่ก็โด่งข้ามคานไป
สุดจัด!ริชาร์ลิซอนฟาดอย่างงาม 2-0 แซมบ้าหนีห่าง
ทัพแซมบ้ามาได้ประตูหนีห่างเป็น 2-0 จากจังหวะที่วินิซิอุสกระชากบอลมาทางริมกรอบฝั่งซ้ายก่อนดีดเข้าไปตรงกลางให้ริชาร์ลิซอนจับบอลด้วยซ้ายหนึ่งทีก่อนกลับหลังฟาดด้วยขวาเน้นๆ บอลพุ่งตุงตาข่ายไปอย่างสวยงาม
คาเซมิโร่ปั่นโค้งๆชนคาน
แม้จะนำไปแล้วสองสกอร์แต่บราซิลยังเปิดเกมบุกเข้าใส่แถมจังหวะนี้เกือบได้เมื่อคาเซมิโร่ปั่นบอลจากหน้ากรอบเขตโทษโค้งผ่านมือผู้รักษาประตูไปแล้วแต่ดันไปชนคานเน้นๆ
โรดรีโก้ได้ซัดข้ามคาน
บราซิลยังมาเรื่อยๆคราวนี้เป็นจังหวะที่โรดรีโก้ได้ลองซัดด้วยขวาหน้ากรอบเขตโทษ แต่บอลก็พุ่งข้ามคานไป
แซมบ้าเชือด 2-0 สามแต้่มตามเป้า
สุดท้ายจบเกมบราซิลจัดการเอาชนะไปไม่ยากนัด 2-0 จากการเหมาเบิ้ลของริชาร์ลิซอน ทำให้พวกเขาประเดิมสามแต้มแรกขึ้นนำจ่าฝูงกลุ่มจีตามเป้า
เซอร์เบีย
Starting Formation: 3-4-2-1
20.
เซอร์เกย์ มิลินโควิช ซาวิช
16.
ซาซ่า ลูคิช
66'
8.
เนมันย่า กูเดลจ์
57'
25.
ฟิลิป มลาเดโนวิช
66'
14.
อันดริย่า ซิฟโควิช
57'
ตัวสำรอง
22.
ดาร์โก ลาโซวิช
66'
24.
อิวาน อิลิช
57'
7.
เนมันย่า ราดอนยิช
57'
18.
ดูซาน วลาโฮวิช
66'
แก้ไขล่าสุดโดย MEGITSAMA เมื่อ Fri Nov 25, 2022 06:13, ทั้งหมด 4 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ