ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
27 October 2022 05:25 by เบน ฟรีคิก
วันก่อนแพ้บ๊วยผู้ดี วันนี้ชนะจ่าฝูงดัทช์





ลิเวอร์พูล ไม่ใช่แค่ทำให้แฟน อาแย็กซ์ อยู่ในอารมณ์ “อีหยังวะ” แต่เป็นทีมตัวเองจากที่อยากร้องขอชีวิตจู่ๆปิดเกม 3-0 ตั้งแต่นาที 52 เข้ารอบน็อกเอาท์ UCL ง่ายเหลือเชื่อ

จริงๆแล้วเกมนี้ “หงส์แดง” เล่นเหมือนทุกครั้งที่ออกมาเยือน 7 นัดในทุกรายการก่อนหน้านี้และได้ชัยชนะกลับไปแค่เกมเดียว (กับ เรนเจอร์ส)

เป็นเกมที่ควรเข้าสูตรโดนนำไวและต้องเร่งดันเอาคืนจนหลังบ้านรั่วอย่างที่เราเห็นกันมาตลอดในซีซั่นนี้หาก สตีเว่น เบิร์กเฮ้าส์ ไม่แม่นเสาตั้งแต่นาทีที่ 2 เศษๆ

ต่างกันแค่วันนี้เด็กๆของ เยอร์เก้น คล็อปป์ แอบเฮงที่โมเม้น “ป้อแป้” รอดตายหลายต่อหลายหนจนกระทั่งมาได้ประตูก่อนหมดครึ่งแรก 3 นาทีของ โม ซาลาห์

จะว่าไปแล้ว “หงส์แดง” ไม่มีวี่แววว่าจะหาโอกาสใดๆได้เลย ลำพังเอาบอลมาอยู่ตรงระยะหน้าเขตโทษก็ยากเต็มกลืน

กว่าจะมีโอกาสได้ส่องหนแรกก็ล่วงเลยไปถึงนาที 34 แถมเป็นการยิงส่งเดชของ แอนดี้ โรเบิร์ตสัน มุมแคบอีกต่างหาก

เกมครึ่งแรกที่ โยฮัน ครอยฟ์ อารีน่า ทำให้ผมนึกถึงบอลนักเรียนที่มาขอเล่นกับบอลมหาวิทยาลัย

ผมเข้าใจว่าเจ้าถิ่นไม่มีทางเลือกต้องชนะเพื่อต่ออายุเข้ารอบในเกมสุดท้ายดังนั้น ลิเวอร์พูล รู้ว่าการรักษาสกอร์สำคัญแค่ไหน

ปัญหามันอยู่ตอนที่ได้บอลกลับมาครองนี่แหละครับ ไม่ต้องพูดถึงเรื่องแก้เพรสเพราะกลางชุดนี้สภาพร่างกายและความมั่นใจมันเอาไม่อยู่

แต่ทุกคนในทีมลนลาน ไม่มีใครเลยซักคนที่จะแสดงอะไรซักอย่างให้ อาแย็กซ์ เห็นว่ามีหือมีอือ

เราดูบอลเชียร์ ลิเวอร์พูล ตอนนี้ต้องมาลุ้นให้นักเตะจับบอลให้เชื่องเท้าก่อนทำเรื่องอื่นมันก็แย่แล้วนะครับ

นี่คือจุดอ่อนที่ JK ยังแก้ไม่ได้ยามออกมาเยือน คู่ต่อสู้ตอนนี้ไม่กลัว “หงส์” และรู้ว่าการวิ่งเข้าหาเดี๋ยวคุณจะได้บอลกลับมาไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง

คล้ายๆเราเตะบอลกับเพื่อน เห็นใครซักคนดูล่กๆขี้ตกใจ (อย่างเช่นผม) คุณยอมเปลืองแรงวิ่งเข้าไปหาเพราะรู้ว่าคุ้มค่าแน่ๆ เผลอๆแค่ได้ยินเสียงฝีเท้า บอลพร้อมหลุดออกจากเท้าด้วยซ้ำ

ที่ทีมเยือนเสียเปรียบเอามากๆคือจังหวะเบสิกๆอย่างเช่นวางบอลขนานเส้นของ อาแย็กซ์ (ทั้งเลียดและโด่ง) เราจะเห็น TAA และ โกเมซ​ 2 พี่น้องยืนอยู่หลังคู่แข่งทุกครั้ง

ผู้เล่นเจ้าถิ่นไม่ได้ใหญ่หรือหนากว่าแต่เหลี่ยมบอลแพ้ทุกครั้งจนการขึ้นเกมของ อาแย็กซ์ มาจากฝั่งแบ็คขวาซะเป็นส่วนใหญ่

ความคะนองที่ว่านี้ทำให้แม้กระทั่ง สตีเว่น เบิร์กไวจน์ ไม่กลัวเลยที่จะกระโดดโหม่งแย่งบอลกับ เวอร์กิล ฟาน ไดคจ์ ทั้งๆที่รูปร่างคนละไซส์

จังหวะอะไรพวกนี้เป็นการเล่นบอลกินแดนที่ทำให้กลาง ลิเวอร์พูล ต้องก้มหน้าก้มตาวิ่งกลับมาช่วยและแน่นอนครับช้ากว่าพวกสายซัพของ อาแย็กซ์

ทั้งหมดทั้งมวลเรียกได้ว่าพลพรรค “หงส์แดง” เข็นร่างตัวเองให้สกอร์หยุดอยู่ที่ 0-0 ในช่วงที่ อาแย็กซ์ ฮอร์โมนพีคสุดจนเราเองก็ไม่อยากเชื่อสายตา

การพลาดครั้งเดียวของเกมทำให้เจ้าถิ่นถูกลงโทษอย่างเจ็บแสบสุดๆหลัง ฮอร์เก้ ซานเชซ แบ็คขวาจอยค้างกระโดดผิดจังหวะทำให้ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน มีเวลาเหลือบมองก่อนปั่นไซด์ก้อยให้ ซาลาห์ จบสกอร์เป็นความเฉียบคมเพียงแค่โอกาสหนแรกของ “ิอิยิปต์คิง”

จากนั้นประตูมันไหลมาเทมาจน เดอะ ค็อป ไม่ค่อยชินกับอะไรที่ได้มาง่ายๆหลัง ดาร์วิน นูนเญซ กับ ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ ช่วยกันคนละลูกภายใน 3 นาที (49 และ 52) ของครึ่งหลัง

“หนูน” ค่อยๆมาทีละนิดตอนนี้ยิงไปแล้ว 5 ประตูในทุกรายการแม้แกยังสร้าง content กับลูกหมูหกชนเสา 6 หลาที่ควรเป็น 2-0 ตั้งแต่ครึ่งแรก

จากความพ่ายแพ้ครั้งนี้ทำให้เด็กๆของ อัลเฟร็ด ชรอยเดอร์ ชนะเปิดหัว UCL กับ เรนเจอร์ส แค่หนเดียวจากนั้นแพ้รวด 4 นัดไป-กลับกับ 2 ทีมหัวตารางโดย 2 นัดหลังโดนไป 9 ลูกตกรอบแบบจุกอกสุดๆ

เมื่อชำเลืองเห็นดราม่า สเปอร์ส ถูกริบประตูในช่วงทดเจ็บนาทีสุดท้ายและ อันโตนิโอ คอนเต้ ถูกใบแดงทำให้ต้องไปลุ้นนัดสุดท้าย

กับคู่ แอต.มาดริด ยิงจุดโทษไม่เข้าทั้งๆที่ผู้ตัดสินเป่าจบเกมไปแล้วแถมซ้ำชนคานร่วงไปเล่น ยูโรป้า รุงรังวุ่นาย

ต้องบอกว่า ลิเวอร์พูล โชคดีเหลือหลายที่นอกจากไม่แพ้แต่ตีตั๋วเข้ารอบและสามารถพักตัวผู้เล่นนัดสุดท้ายก่อนเจอศึกใหญ่กับ “ไก่เดือยทอง” ได้อีกต่างหาก

ครับ เราเองก็ตอบไม่ได้ว่าสุดท้ายแล้ว ลิเวอร์พูล จะมีเกมเพี้ยนๆแบบวันที่แพ้ “บ๊วย” น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ และอีก 3-4 วันต่อมาบุกชนะ “จ่าฝูงลีกดัทช์” อย่าง อาแย็กซ์ อีกมากน้อยแค่ไหน

แต่เชื่อว่าถึง จุดนี้ของซีซั่น เดอะ ค็อป พร้อมอ้าแขนรับความพิสดารทุกรูปแบบแล้วครับ...

สถิติ สถิติ สถิติ

ลิเวอร์พูล ตบเท้าเข้ารอบน็อกเอาท์ UCL ทั้ง 6 ครั้งภายใต้การทำทีมของ เยอร์เก้น คล็อปป์ นับเป็นสถิติเข้ารอบต่อเนื่องที่ยาวนานที่สุดของสโมสรอีกด้วย

1 ประตูและ 1 แอสซิสต์ทำให้​ โม ซาลาห์ (51 - ยิง 39 จ่าย 12) กลายเป็นนักเตะคนที่ 3 ของสโมสรจาก อังกฤษ ที่มีส่วนร่วมกับ 50+ ประตูในเวที แชมเปี้ยนส์ลีก ต่อจาก ไรอัน กิกส์ (69) และ เธียร์รี่ อองรี (52)

ฮาร์วีย์ เอลเลีตต์ (19 ปี 205 วัน) กลายเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดที่ยิงประตูติดต่อกันให้ ลิเวอร์พูล ใน UCL

ยูเลี่ยน นาเกิลส์มันน์ เป็นโค้ชคนแรกในประวัติศาสตร์ UCL ที่ชนะ 4 เกมในการเจอกับ บาร์เซโลน่า (โจเซ่ มูรินโญ่ ทำได้ 3)

อันโตนิโอ คอนเต้ มีสถิติไม่สู้ดีใน แชมเปี้ยนส์ลีก ซักเท่าไหร่หลังเพิ่งชนะแค่ 3 จาก 12 เกในบ้าน (เสมอ 7 แพ้ 2) โดยเป็นตัวเลขที่รวมถึงช่วงเวลาคุม เชลซี และ อินเตอร์ มิลาน ด้วย
แก้ไขล่าสุดโดย เบน ฟรีคิก เมื่อ Thu Oct 27, 2022 14:00, ทั้งหมด 3 ครั้ง
7
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ
ออฟไลน์
ดาวซัลโวยุโรป
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 05 Oct 2007
ตอบ: 10341
ที่อยู่: YNWA / Boys Like Girls / All Time Low
โพสเมื่อ: Thu Oct 27, 2022 08:39
[RE]วันก่อนแพ้บ๊วยผู้ดี วันนี้ชนะจ่าฝูงดัทช์
เหมือนที่คล็อปป์ว่านั่นแหละ แกยังไม่ได้ทีมตัวจริงที่ได้ลงต่อเนื่อง ทุกวันนี้ต้องโรเตชั่นทีมตลอด
มันเลยขาดความสม่ำเสมอ ฟอร์มทีมก็จะแกว่ง ตามสภาพผู้เล่นไปแต่ละนัด
โพสต์บนแอป Soccersuck บน iOS
4
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะหมู่บ้าน
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 28 Sep 2008
ตอบ: 1397
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu Oct 27, 2022 18:18
วันก่อนแพ้บ๊วยผู้ดี วันนี้ชนะจ่าฝูงดัทช์
นัดเจอฟอเรสต์นี่คือขอทรยศทีมวันนึง
ผมทนดูไม่ไหวจริงๆ
เลิกดูตั้งแต่โดนนำ 1-0 เพราะคิดว่า ยังไงซะ
ถ้าเล่นได้แบบครึ่งแรก ก็ไม่มีทางตีเสมอได้
คอยเช็ค LiveScore เอา แล้วก็แพ้จริงๆ
คือมันแบบ เล่นได้ห่วยแตกเกินเบอร์ไปมาก
ส่วนนัดนี้ก็ตามที่พี่เบนว่าเลย
โพสต์บนแอป Soccersuck บน Android
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน


ออนไลน์
นักเตะกลางซอย
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 12 Aug 2017
ตอบ: 3524
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Nov 01, 2022 12:15
[RE: วันก่อนแพ้บ๊วยผู้ดี วันนี้ชนะจ่าฝูงดัทช์]
วันต่อมาแพ้รองบ้วยต่อ พ่ามๆ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ไปหน้าที่ 1
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel