มาห์เรซวืดโทษอีก! เรือจับมือ 'เสือเหลือง' สกอร์มิตรภาพ 0-0
เรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ผ่านเข้ารอบไปแล้ว โรเตชั่นทีม 6 ตำแหน่ง บุกไปเสมอ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ สกอร์มิตรภาพ 0-0 โดยยอดทีมพรีเมียร์ลีกมีโอกาสทองได้ประตูชัยจากจุดโทษ แต่ ริยาด มาห์เรซ ดวลเป้าพลาดเป็นนัดที่ 2 ติดต่อกันในรายการนี้ อย่างไรก็ตาม 1 แต้มก็เพียงพอการันตีแชมป์กลุ่มจีให้ทีมเรือใบ และเสือเหลืองมีเพิ่มเป็น 8 คะแนน ยืนยันเข้ารอบแล้วเช่นกัน
โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์
Starting Formation: 3-4-3
7.
โจวานนี่ เรย์น่า
87'
6.5
27.
คาริม อเดเยมี่
73'
7
18.
ยุสซูฟา มูโกโก้
82'
6
10.
ธอร์กาน อาซาร์
82'
6.5
ตัวสำรอง
17.
มาริอุส โวล์ฟ
82'
6
47.
อันโตนิออส ปาปาโดปูลอส
87'
6
21.
ดอนเยลล์ มาเลน
73'
6
20.
แอนโธนี่ โมเดสต์
82'
6
ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มจี
สนาม ซิกนัล อิดูน่า ปาร์ค
วันอังคารที่ 25 ตุลาคม 2565
กรรมการ ดาวิเด้ มาสซ่า
โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์
0
0
แมนเชสเตอร์ ซิตี้
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายแน่นอนแล้ว นัดนี้ไปเยือนดอร์ทมุนด์ พวกเขาขอแค่ไม่แพ้ก็จะการันตีแชมป์กลุ่มจี ขณะที่ทีมเสือเหลืองมี 7 คะแนน ยังต้องสู้เพื่อโอกาสเข้ารอบ
เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เลยถือโอกาสโรเตชั่นทีม 6 ตำแหน่งจากนัดชนะไบรท์ตัน เอแดร์ซอน, มานูเอล อคานยี่, อายเมริค ลาปอร์ต, เควิน เดอ บรอยน์, แบร์นาร์โด้ ซิลวา และ แจ๊ค กรีลิช ได้พัก แต่ เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ ยังลงตัวจริงเจอทีมเก่าของตัวเอง
ฝั่งดอร์ทมุนด์ เปลี่ยน 2 ตำแหน่งจากนัดถล่มสตุ๊ตการ์ต 5-0 มัตส์ ฮุมเมลส์ กับ นิโก้ ชลอตเตอร์เบค ฟิตพอเป็นตัวจริง แต่ไม่มี ราฟาเอล เกร์เรโร่ และ ซาลิห์ ออซชาาน
กว่าจะได้ยิงหนแรกก็นาที 15
เกมช่วงแรกไม่มีอะไรหวือหวา กว่าจะได้ง้างไกยิงหนแรกก็จากลูกยิงไกลของโรดรี้ ที่หลุดกรอบไม่ได้ลุ้น
เรือครองบอลเยอะกว่านิดๆ
แมนฯซิตี้ เป็นฝ่ายครองบอลเยอะกว่าชัดเจน แต่จังหวะนี้ เรย์น่า ได้ซัดเรียดลูกไปเข้าซองออร์เตก้า
เกมดำเนินไปเรื่อยๆแทบไม่มีอะไรให้ลุ้น
เข้าช่วง 10 นาทีสุดท้ายครึ่งแรก เกมดำเนินไปเรื่อยๆ ยังไม่มีทีท่าที่จะทำประตูกันได้
มูโกโก้ยิงถากเสาออกหลัง
โอกาสทองของดอร์ทมุนด์มาจาก อเดเยมี่ วิ่งฉีกออกมาเส้นรับบอลริมเส้น ก่อนเปิดตัดเข้าไปหน้าประตูให้ มูโกโก้ จบสกอร์หลุดเสาไกลนิดเดียว
จบครึ่งแรกเสมอกันไปก่อน
ท้ายครึ่ง สถานการณ์ก็ยังเหมือนเดิม เกมดำเนินไปเรื่อยๆ โอกาสลุ้นทำประตูมีน้อยมาก เสมอกันไปก่อน 0-0
ครึ่งหลัง เรือเปลี่ยนฮาลันด์ออกไปพัก
ครึ่งแรก แมนฯซิตี้ ถอดฮาลันด์ กับ คันเซโล่ ออกไปพัก ส่ง อคานยี่ กับแบร์นาร์โด้ ลงเล่นแทน
ดอร์ทมุนด์ดูจะได้ลุ้นมากกว่า
เกมเร็วกว่าในครึ่งแรก ดอร์ทมุนด์ ดูจะสร้างโอกาสลุ้นได้มากกว่าแมนฯซิตี้
ชานทำฟาวล์มาห์เรซเสียจุดโทษ
โอกาสทองของแมนฯซิตี้ มาได้จุดโทษจังหวะ ชาน แหย่ขาสกัดมาห์เรซ ไม่โดนบอล
มาห์เรซยิงจุดโทษไม่เข้า
มาห์เรซ ลุกขึ้นมายิงเอง ยิงไปทางซ้าย แต่ถูกโคเบล ตามไปเซฟไว้ได้ทัน ยัง 0-0
มาห์เรซ พลาดจุดโทษในแชมเปี้ยนส์ลีก เป็นนัดที่ 2 ติดต่อกัน
เป็นเรือที่ได้บุกใส่ต่อเนื่อง
เกมของแมนฯซิตี้ ดูจะทำได้ดีกว่า เมื่อได้ครองบอลบุกใส่ทีมเยือนอย่างต่อเนื่อง
โคเบลช่วยเซฟลูกยิงอัลวาเรซอีกครั้ง
แมนฯซิตี้มีโอกาสอีกครั้งจากลูกวอลเล่ย์ในกรอบของอัลวาเรซ แต่โคเบล ยังยอดเยี่ยมตาสมไปปัดทิ้งไว้ได้อีก
บอลเคาะไปมา แทบไม่มีอะไรให้ลุ้น
เข้าช่วง 10 นาทีสุดท้าย แมนฯซิตี้ เคาะบอลหาช่องไปเรื่อยๆ ไม่เน้น ไม่เสี่ยง ขณะที่ดอร์ทมุนด์ ก็คุมสถานการณ์อย่าพลาดโดนยิงนำก็พอ
เวลาที่เหลือไม่มีใครทำอะไรกันได้ จบเกมเสมอกันไป 0-0 แมนฯซิตี้การันตีด้แชมป์กลุ่มแน่นอน ส่วนดอร์ทมุนด์มี 8 คะแนน เฮดทูเฮดดีกว่าเซบีญ่า เข้ารอบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
แมนเชสเตอร์ ซิตี้
Starting Formation: 4-4-2
7.
เจา คันเซโล่
46'
7
47.
ฟิล โฟเด้น
81'
6.5
26.
ริยาด มาห์เรซ
88'
6.5
9.
เออร์ลิ่ง ฮาลันด์
46'
6
ตัวสำรอง
80.
โคล พัลเมอร์
88'
6
10.
แจ๊ค กรีลิช
81'
6
25.
มานูเอล อคานยี่
46'
6
20.
แบร์นาร์โด้ ซิลวา
46'
6
แก้ไขล่าสุดโดย iPanic เมื่อ Wed Oct 26, 2022 04:09, ทั้งหมด 12 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ