ลูกน้องเก่าผม รายได้รวมๆ 20000 แต่อยู่หอพนักงาน กินข้าวพนักงาน ไม่ได้ออกไปกินเหล้ากินเบียร์ เงินเก็บมากกว่าผมที่เงินเดือน 3 หมื่นกว่าอีกครัช

เอาง่ายๆโพสต์นั้นจะสื่อว่าเงินเดือนกับภาพลักษณ์ของหมอมันไม่ไปด้วยกันแค่นั้นแหละ ภาพลักษณ์คนนอกมองจะแบบ โห เป็นหมอต้องรวยแน่เลย บ้านหลังใหญ่ ขับเบนซ์ เปิดคลินิค รับเอกชน แปปๆก็รวยแล้ว ความเป็นจริง เงินเดือนแสนเดียว (ส่วนใหญ่ไม่ถึงด้วยซ้ำ) แต่เครดิตดี กู้ได้เยอะ เลยผ่อนบ้านผ่อนรถแพงๆได้ สุดท้ายก็เดือนชนเดือนเหมือนกันนี่แหละ

บ้าน 5 ล้านเบนซ์ 1 คันยังบอกพออยู่ได้ พออยู่ได้ผมว่าต้องเทียบกับ average ของคนทั้งประเทศ ลองดูว่าบ้าน 5 ล้าน เบนซ์ 1 คันถือว่ามีเยอะกว่าคนทั่วไปไหม

แล้วมันวางแผนลดรายจ่ายได้อีกเยอะ เบนซ์ผ่อนกี่ปี ถ้า 5 ปีหลังจากนั้นก็มีเงินเก็บเพิ่มแล้วใช่ไหม บ้านนี่เก็บเงินดาวซักนิดเอาไอ้ที่จะไปผ่อนน่ะเก็บเป็นเงินก้อนซัก 1-2 ปีแล้วเอาไปดาวน์ ผ่อนน้อยลงไหม

เมืองไทยค่าครองชีพแพงนะเอาจริงๆแล้วเพราะฐานรายได้ต่ำกับภาษีรถยนต์แพงเกินเหตุ ถ้านับสังคมโลกที่เจริญแล้ว หมอเนื้องานมันควรจะได้รับผลตอบแทนที่สมน้ำสมเนื้อ เพราะเรียนไม่ง่ายและช่วยชีวิตคน เงินแสนนึงจะถอยเบ้น ก็ตลกแล้ว จะกดคันนึง กันต่ำๆเดือนนึงไว้ 40000 ไม่รวมบ้าน rule of thumb ที่ใช้กันในประเทศที่เจริญแล้ว ค่าพาหนะคือ 10 % เมืองนอกใช้กันได้ แต่เมืองไทย ถ้าเอามาใช้จริงๆ เงินเดือนขั้นต่ำ กดไป เกือบ 400000 ในสังคมคนมีเงินจริงๆตอนนี้ถ้าไม่ได้เก่งจริงๆ ส่วนใหญ่ Generation wealth ทั้งนั้น

ลองมารับเงินเดือนหมื่นกว่าไม่เกิน 2หมื่นแบบผมดูมั้ย

ในบทความมันไม่มีอะไรเลยนะ เอาเงินเดือนแสนนึงมาตั้งเป็นโจทย์แล้วเอามาลบด้วยค่าใช้จ่ายที่มันเกิน1แสนไปแล้ว ผลลัพท์ันก็ตามนั้นอ่ะ งงในเนื้อความที่เขียนเขาพยายามจะสื่ออะไร???

ผมขอตอบในมุมรายได้ของอาชีพแพทย์นะ ทำไม 1 แสนถึงแค่พออยู่ได้

1.ภาษีเงินได้ เอาคร่าวๆที่ต้องจ่ายประมาณปีละแสน ถ้าอยากลดหย่อนภาษี ก็ต้องวางแผนซื้อประกัน
ลงทุนในกองทุนต่างๆ ซึ่งก็เป็นค่าใช้จ่าย และกลายเป็นเงินสะสมที่กองไว้ แต่เอามาหมุนใช้ไม่ได้

2.ภาษีสังคม เวลามีงานบุญ งานบวช งานแต่ง งานศพ หมอส่วนใหญ่จะได้รับเชิญไปอยู่แล้ว
ซึ่งเจ้าภาพหรือชาวบ้าน ก็คาดหวังเงินสนับสนุนจากหมอพอสมควร อย่างน้อยๆก็ต้องให้มากกว่าคนส่วนใหญ่
รวมไปถึงการช่วยเหลือผู้คนในรูปแบบต่างๆ ลองถามพนง.ขายบริษัทต่างๆดู ว่าถ้าต้องทำยอด คุณจะโทรหาอาชีพไหนก่อน

3.มายาคติ พวกบ้านหลังใหญ่ รถmb bm ของแบรนด์เนม คนส่วนใหญ่ต้องคิดว่าหมอสามารถซื้อได้แน่ๆ
บางทีก็ไม่ใช่ใคร คนใกล้ตัวนี่แหละ พ่อแม่ พี่น้อง แฟน ก็คาดหวังว่าหมอต้องสามารถซื้อของเหล่านี้ให้เขาได้
หรือหมอบางคน เห็นเพื่อนๆมีกัน ก็อยากมีบ้าง ไม่ให้น้อยหน้าเขา อันนี้ก็ลำบากตัวเองไป

4.หมอที่ยังไม่ได้เรียนต่อ ต้องวางแผนเก็บเงินไว้ใช้ตอนตัวเองไปเรียนต่อด้วย 3-5 ปีก็ว่าไป
เพราะช่วงที่เรียนต่อ รายได้จะเหลือแค่หมื่นต้นๆ ในขณะที่ภาระทางการเงินยังคงดำเนินอยู่ ไม่ได้หยุดไว้ให้ช่วงหมอไปเรียน

5.สวัสดิการบางส่วนของหมอถูกตัด รายได้จำนวนหนึ่งตกเบิก คือรวบยอดจ่ายทีเดียว(แต่ไม่ได้ดอกเบี้ยนะ)
หรือเงินบางอย่างก็ขอไม่จ่ายไปเลย ทำให้รายได้เฉลี่ยของแพทย์ยุคนี้ ลดลงอย่างเห็นได้ชัด
ครั้นจะหนีกันออกไปทำเอกชน ก็เจอปัญหาคนไหลเข้าระบบเอกชนกันมากขึ้น ค่าแรงหมอภาคเอกชนก็เลยลดลงอีก

ทั้งหมดนี้เป็นปัญหาคร่าวๆที่ผมมองเห็น ยังไม่นับรวมหนี้สินต่างๆนานา ที่แต่ละครอบครัวมีมากน้อยต่างกันไป
และแน่นอนว่าหมอถูกคาดหวังว่า น่าจะมีความสามารถในการชดใช้หนี้ให้คนในครอบครัวได้
จนในที่สุด ต่อให้หมอมีรายได้หลักแสน ก็อาจจะแค่พอกินพอใช้ เท่านั้นเอง

สิ่งที่ผมคิดว่าต้นเรื่องเขาจะสื่อคือ ขนาดอาชีพหมอที่คนส่วนใหญ่เห็นว่า มีกินมีใช้ มีงานทำแน่ๆ
ยังมีโอกาสที่จะใช้ชีวิตได้แค่พอกินพอใช้เท่านั้นเอง แล้วคนอาชีพอื่น จะขนาดไหน?
แปลว่าปัญหาเรื่องรายได้ต่ำ ค่าครองชีพสูง มันก็หนักหนาเอาการสำหรับคนไทย จนสุดท้ายอาจจะล้มกันเป็นโดมิโน่ได้

ถ้าคนโพสเป็นแพทย์ ผมว่านั้นมันแค่หมอ GP ทั่วๆไป ที่รับเวรน้อยมากนะ ซึ่งถ้าเจ้าตัวอยากจะได้บ้าน รถ ที่ผ่อนหมดไวขึ้น คุณก็รับเวรนอกมากขึ้น

ซึ่งแน่นอนมันตามมาด้วยการผ่อนหมอไวขึ้น

ส่วนเงินแสนอยู่สบายไหม อยู่ที่ปัจจัยเลยว่าแต่ละคนใช้มากน้อยแค่ไหน คนใช้ 20k ก็บอกสบายเลย คนใช้ 100k ก็บอกเดือนชนเดือน

แนวทางของผมเองคือ ใช้เงินเหมือนคนที่เงินเดือน 3-4 หมื่น มันจะทำให้คุณมีเงินเก็บสักเดือนละ 6-7 หมื่น แล้วเอาไปซื้อลดหย่อนไปลงทุน
ถ้าเทียบกับตัวผมและเพื่อนซึ่งพอเดาได้ เพราะเพิ่งจบกันมา 2-4 ปี ผมเงินเดือน 11x,xxx แล้ว 'คาดว่า' เพื่อนที่ได้เงินราว 3 หมื่น ก้ไม่ได้มีคุณภาพชีวิตที่แตกต่างกันครับ
ผมขับ city turbo รุ่นย่อยล่างสุดเลย 5แสนกว่าบาท

อยู่บ้านหลังละ 5 ล้านผมว่าก็สบายแล้วนะ ทุกวันนี้ผมยังอยู่บ้านเช่าอยู่เลย

ลองไปอยู่ในสังคมที่คนเงินเดือนเกินแสนกันหมด แล้วจะรู้ว่าแต่ละคนที่ได้เงินเดือนประมาณนี้ โตมาในสังคมแบบไหน

แล้วก็จะเข้าใจเองว่า การที่ได้เงินเดือนแสนนึงโดยเริ่มจากศูนย์เนี่ย มันไม่ง่ายเลยนะที่จะสร้างครอบครัวตัวเอง
โดยให้ลูกโตมาในสังคมที่เอื้อที่จะให้เขาโตมาได้เงินเดือนแสนนึงอะ

โอเคละ จากตัวอย่างรถเบนซ์อาจจะเกินตัวไป แต่บ้านอะ ราคาแพงกับถูกสังคมมันต่างกันเลย
การบอกให้ประหยัดโดยไปซื้อทาวเฮ้าหรือบ้านเดี่ยวถูกๆนี่สำหรับผมไม่ได้การตัดสินใจที่ถูกเลย

จะพูดยังไงไม่ให้เหมือนดูุถูกดี เอาง่ายๆ การที่คนๆนึงโตมาจนทำงานแล้วทำงานได้เงินเดือนไม่กี่หมื่น มันไม่ได่ขึ้นอยู่กับคุณอย่างเดียวหรอก สังคมที่คุณโตมา สภาพแวดล้อมต่างๆก็มีผล ซึ่งของพวกนี้มันใช้เงินเยอะเลยละ

จริงๆมันอยู่ที่คนก็จริงนะ แต่คุณอย่างให้ลูกโตมาในสังคมที่ค่าเฉลี่ยเงินเดือนของเพื่อนมัธยมคือแสนนึงหรือหมื่นห้าอะ ไม่ได้บอกให้ดูที่เงินนะ คนทั้งสองกลุ่มมีทั้งคนดีคนเลวแหละ แล้วตรรกะวิธีคิดของคนสองกลุ่มนี้มันต่างกันเยอะ แล้วมันเปลี่ยนตอนโตยากมากๆด้วย

ไม่รู้ดิ ผมไม่อยากประหยัดค่าพวกนี้ แล้วให้ลูกตัวเองมาวนลูป"ความลำบาก"จริงๆอะ

ยกตัวอย่างหน่อยนะครับ เหมือนคนรับจ้างรายวัน วันละ300
เห็นคุณได้เงินเดือนละ20,000 แล้วเขาบอกว่าถ้าเขาเงินเดือนเท่าคุณเขาสบายแล้ว
เขาประหยัด ไม่ให้ลูกเรียนโรงเรียนเอกชนหรอก ให้ลูกเรียนโรงเรียนวัดไป ไม่ให้เรียนพิเศษ เปลือง สอนเองได้
คุณคิดยังไงอะ เห็นด้วยกับเขาไหม????

คนที่เงินเดือนแสนและโตมาในสังคมอีกแบบ เขาก็คิดแบบนั้นแหละ

ผมไม่ชอบอาชีพนี้เลยจริงๆ มองแต่เรื่องเงิน เข้ามาทำอาชีพนี้ไม่ได้สนใจรักษามนุษย์เป็นอันดับแรกแต่มองเรื่องเงินก่อน ค่ารักษาทุกวันนี้ คือ แพงแบบโคตรๆแพง ถ้าไม่มีประกันสังคม หรือทำประกันไว้ ซวยแน่นอน

แต่จะให้โทษแค่หมอก็ไม่ใช่ในเมื่อระบบ และสังคม เซ็ตไว้ให้เป็น เช่นนี้

มันก็แปลว่าเงินเดือนแสน ก็ไม่สามารถใช้ชีวิตแบบ Thailand Dream ได้อะครับ

เล่นจบใหม่เงินเดือนแสนนึงจะมีบ้าน5ล้าน มีรถเบ๊นซ์ ไม่นับรวมไลฟ์สไตล์ส่วนตัวต่างๆอีก จะไปรอดได้ไงอ่ะ
ตอนผมจบทำงานใหม่ๆยังไม่กล้าฝันขนาดนี้เลย
เงินเดือน70K -->ผ่อนรถญี่ปุ่น20K+ค่าเช่าหอ5K
.
ผ่านไป5ปี
เงินเดือน100K+คลินิก50K-->ผ่อนบ้าน28K+รถคันเก่า
.
ผ่านไปอีก5ปี
เงินเดือน101K+คลินิก100K-->ผ่อนบ้าน28K+รถยุโรป50K
.
.ทุกอย่างมันต้องวางแผนและเติบโตตามเวลา อยากได้อะไรก็ตั้งเป้าหมายและหาช่องทางเพิ่มรายได้ อย่าหยุดกับที่ นี่ผมยังไม่นับพวกหมอเก่งๆที่รู้จักวิธีลงทุนในอสังหาหลากหลายรูปแบบอีก เอาลำดับการเติบโตแบบพื้นๆเลย

หมอสมเจตน์แกสายคุยไปเรื่อย (โม้ม้าเ-็ด) ไลฟ์สไตล์แกเอาเรื่อยอยู่นะแต่ละอย่าง แต่ผมชอบแกนะ ดูใช้ชีวิตคุ้มดี