ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ออฟไลน์
ดาวเตะพรีเมียร์ลีก
Status: พุงพลุ้ยคุยบอล กลับมาแล้ว
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 06 Oct 2010
ตอบ: 4357
ที่อยู่: บนโลกนี้แหละ...
โพสเมื่อ: Thu Sep 01, 2022 01:43
Everton กับการถ่ายเลือดครั้งใหญ่หลังจากตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ
สถานะทางการเงิน




อย่างที่ทราบกันดีว่าสถานะของเอฟเวอร์ตันตอนนี้ ได้เปลี่ยนจากทีมกลางตารางเป็นทีมหนีตกชั้นเต็มตัวก็ว่าได้ ซึ่งฤดูกาลคือสัญญาณที่บอกชัดว่านโยบายการทำงานของสโมสรนั้นผิดพลาดมาตลอด 1 ทศวรรษหลังจากที่เดวิด มอยส์ออกไป เรื่องแรกคือเอฟคือ 1 ใน 10 ทีมที่ลงเงินไปในตลาดนักเตะมากที่สุด


ซึ่งฤดูกาลที่แล้วจากการที่เจอวิกฤติทั้งใน และนอกสนาม เงินที่ลงไปมันมากเกินจนอาจจะผิดกฎทางการเงิน + สโมสรกำลังก่อสร้างสนามแห่งใหม่ ยิ่งทำให้เกิดอาการ "บ่จี๊" ดูได้จากการเสริมทัพเมื่อซัมเมอร์ปีก่อนที่ใช้เงินเพียง 1.5 ล้านปอนด์กับการซื้อเกรย์มาร่วมทีม

นอกจากการตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ ซื้อแล้วเจ๊งมากกว่าปัง ยิ่งส่งผลต่อสถานะการเงินของทีม เพราะในทุก ๆ การทุ่มซื้อของสโมสรจะประเคนค่าเหนื่อยให้นักเตะชนิดว่ามหาศาล ของยกตัวอย่าง "ซานโดร" กองหน้าจากมาลาก้าที่เข้าาเป็นตัวแทนลูกากู ที่สโมสรเจียดเงินให้มาลาก้าเพียง 5 ล้าน แต่กลับยอมทุ่มเงินค่าเหนื่อยราว 120K ให้นักเตะที่พึ่งเก่งได้กับทีมแค่ปีเดียว

และแน่นอนครับ อย่างที่เรารู้กันว่าซานโดรถือเป็น 1 ในดีลที่โครตล้มเหลวของทีม นี่ยังไม่รวมกรณีของโบลาซี่, โทชุน, ชไนเดอร์ลิน, คลาสเซ่น ที่ทีมใช้เงินหลายสิบล้านปอนด์ทุ่มมาแล้วเจ๊ง ซ้ำจะขายก็ไม่มีคนเอา เลยต้องรอปล่อยฟรี จนเพดานค่าเหนื่อยแน่นมากทำให้เสริมใครแทบไม่ได้ จนสุดท้ายก็ต้องยอมขายฮาเมสปีก่อน เพื่อให้ทีมสามารถหายใจหายคอได้บ้าง นี่ยังไม่รวมนักเตะที่ค่าเหนื่อยสูงแต่ขายไม่ออกอย่างอัลลัน โกเมส และมิน่า

สัญญาณนี้เริ่มชัดว่ามันแย่มาตั้งแต่สองปีก่อน ค่าเหนื่อยของทีมสะสมรวมแล้วแตะ 182 ลป./ปี ซึ่งถือว่าสูงมากสำหรับทีมกลางตาราง แต่ด้วยความที่โค้ชคืออันเช่ ทีมเลยยอมทำลายเพดานเซ็นฮาเมส อัลลัน และก็อดฟรีย์ เพื่อหวังให้ทีมได้ไปบอลยุโรป เพื่อจะช่วยสถานะทางการเงินได้บ้าง

แต่ก็รู้กันครับว่า แม้แต่อันเช่ก็พาเอฟจบได้แค่อันดับ 11 และยุคราฟา/แลมพาร์ดจบอันดับ 16

นั่นเลยเป็นที่มาว่าทีมไม่สามารถเพิ่มศักยภาพได้ ในขณะที่ทีมอื่นเก่งขึ้นเรื่อยๆ


การถ่ายเลือดครั้งใหญ่ และแนวทางการซื้อขายของทีม



หลังจากทีมพึ่งตื่นรู้ในตอนวิกฤติว่า การซื้อนักเตะแพงๆ อายุใช้งานไม่เยอะพร้อมค่าเหนื่อยมหาศาลไม่ใช่คำตอบที่จะพาให้ทีมไปข้างหน้าได้ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา สโมสรเลยพยายามที่จะกลับไปใช้แนวทางเดิมเหมือนที่เป็น DNA ของสโมสรคือ เน้นสร้างมากกว่าซื้อ และหากซื้อจะซื้อนักเตะอายุน้อยๆที่ใช้ได้นานๆหรือมีโอกาสที่จะสามารถทำกำไรได้ รวมถึงหากนักเตะอายุเยอะ จะต้องไม่ได้ให้ค่าเหนื่อยที่เวอร์ไปนั่นจึงเป็นที่มาของการเสริมทัพในปีนี้ ซึ่งถือเป็นตลาดนักเตะที่สโมสรทำได้ดีที่สุดรอบนึง คือใช้สมองคิดมากกว่าแค่จ่ายเงินแก้ปัญหา เราจึงได้เห็นนักเตะที่เซ็นมาด้วยค่าตัวไม่มาก หรือายุน้อยๆ ในตลาดรอบนี้ อย่างอมาดู โอนาน่า โมเปย์ และแม็คนีลล์
รวมถึงการเซ็นฟรีทาร์คอฟกี้ ยืมโคดี้ และวินาเกร้ นี่ยังไม่รวมดีลที่อาจจะเกิดขึ้นในวันนี้คือ บาร์คลี, การ์เนอร์, เกย์ และคูดูส ที่อาจจะเกิดขึ้น

โดยหากสังเกตุให้ดีจะพบว่านักเตะที่จะเซ็นเข้ามามีแต่ตัวรับ และกองหลังเท่านั้น สาเหตุเพราะในปีที่ผ่านมา เอฟมีสถาติในแดนกลางค่อนข้างแย่ และเป็นทีมที่เสียประตูง่ายมาก ดังนั้น จึงจำเป็นต้องขันแนวรับให้แน่นขึ้น และจำเป็นต้องมีการบูรณาการขนานใหญ่ในกองกลาง

สาเหตุแรกคือปัญหาอาการบาดเจ็บ นี่พึ่งเริ่มไป 5 เกมส์เอฟเสียตัวหลักให้อาการบาดเจ็บไปแล้วหลายคน ไล่ตั้งแต่ก็อดฟรีย์ มีน่า ดูคูเร่ และ DCL ที่เป็นส่วนสำคัญช่วยให้ทีมรอดตกชั้นเมื่อฤดูกาลก่อน ประกอบกับแลมพาร์ดมาพร้อมกับแผนที่แฟนเอฟได้แต่ร้องขอชีวิตว่า "พอเถอะ" เลิกแผนนี้ซะ ไอแผน 3 - 4 -3 จะมีคู่กลางในทีมแค่ 2 เวลาเจอทีมที่แพ็คกลางมาดีๆ อย่าง นัดเจอวิลล่าที่อัดกลางมา 4 คน คือตายอะ อย่างกะเล่นลิงชิงบอล ซึ่งมันเหมาะกับทีมที่มีคู่กลางดีๆ เกมส์รุกสะแด่ว ซึ่งเอฟไม่มีทั้งคู่ นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมทีมจึงเสริมกองกลางเข้ามาเยอะ

อีกปัจจัยนึงคือ ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาทีมปล่อยนักเตะออกไปมาก Squad dept คือแย่มาก ตัวสำรองไม่สามารถแทนตัวจริงได้ ซึ่งเหตุผลก็อย่างที่บอกทีมต้องลดค่าเหนื่อยออกไป เราจึงได้เห็นการที่ทีมกล้าปล่อยเดลฟ์ อัลลี่ และกบาแม็งออกไป เพราะนักเตะเหล่านี้คือนักเตะที่รับค่าเหนื่อยแพง แต่เล่นห่วยแตก

การเซ็นกลางเข้ามาเยอะขนาดนี้ ก็หวังว่าแลมพ์จะสามารถจัดทัพที่ดีได้บ้าง ไม่ยึดติดกับ 3 - 4 - 3 เหมือนเดิม

ประการสุดท้ายในหัวข้อนี้ คือการถ่ายเลือดที่แท้จริงคือการที่ทีมสามารถลดเพดานค่าเหนื่อยสะสมลงได้มหาศาล จาก 187 ลป. เหลือ 62.24 ล้านปอนด์ในปีนี้ ค่าเหนื่อยรวมของทีมลดฮวบและถ้ารักษาระดับไม่ให้เกิน 80 ล้านปอนด์ได้สโมสรจะรันธุรกิจให้มีเงินเสริมทีมราว 70-80 ล้านปอนด์โดยไม่ต้องขายใคร






สถานการณ์ปัจจุบันของทีม





ปัจจุบันเอฟเล่นไปแล้ว 5 เกมส์ ยังควานหาชัยไม่ได้เลยแม้แต่นัดเดียว (เสมอ 3 แพ้ 2) ทุกนัดมักจะเริ่มต้นได้ดีก่อนจะแผ่วจนโดนตีเสมอ ส่วนนึงต้องยอมรับว่านักเตะเจ็บก็ส่วนนึง แต่คุณภาพนักเตะที่มีอยู่ก็เป็นส่วนสำคัญว่าไม่เหมาะสมกับแผนแนวทางการเล่นของแลมพ์ โดยเฉพาะการขาดตัวจบสกอร์ ซึ่งเราเห็นได้ชัดจาก 5 นัดที่ผ่านมา ทีมพยายามดันกอร์ดอน ที่ตัวเท่าลูกหมามาเป็นกองหน้า โดยต้องไปปะทะกับตัวรับซึ่งแข็งมากๆอย่างมากมิ้งค์ คาร์ลอส หรือคูลิบาลี่ โดนสะกิดทีก็ปลิว เหตุเพราะความฝืดของพี่ยิ้ม รอนดอน ก็ส่วนนึง แต่เพราะความดื้อที่อยากจะเล่นบอลจากเท้าสู่เท้าแทนการโยนยาว มันเลยจำเป็นต้องเอาตัวที่ไปกะบอลได้ดีลงก็พอเข้าใจได้ แต่พอเกมส์ตื๊อๆ พี่ก็กลับมาเล่นโยนยาวอีก ทีนี้ก็จบเลย ยิ่งเจอบอลฉายเดี่ยวของเกรย์อีก บอกเลยครับไม่แปลกที่ทีมจะหาชัยชนะไมไ่ด้

ซึ่งทีมกำลังแก้จุดอ่อนในเรื่องแดนกลาง กับกองหลังแล้ว เพราะสถิติเกมส์รับดีขึ้น ในขณะเดียวกันช่องว่างการขาดริชาร์ริสันกลับยังไม่ได้ถูกอุด แม้จะได้แม็คนีลล์ กับ โมเปย์มา แต่คิดว่ายังไม่พอ นี่ยังไม่รวมว่าพี่ยิ้ม รอนดอนกำลังจะถูกขายอีก ก็ต้องมาลุ้นกันว่าคืนนี้จะได้ตัวรุกมาเพิ่มไหม

โดยแลมพาร์ดเองก็ยอมรับแล้วว่าการไม่มีศูนย์หน้าอาชีพทำให้มิติในแทคติคของเขาแตกต่างออกไป
การที่เพิ่งได้นีล โมเปย์เข้าจะช่วยให้มันดีขึ้น ไม่มากก็น้อย แต่กลับกันหากเริ่มต้นเดือนหน้าไปแล้วยังไม่สามารถทำทีมควานหาชัยชนะนัดแรกได้ จะกลับกลายเป็นว่าเวลาของเขาดูท่าจะเหลือน้อยแล้ว


ก็ต้องมาดูกันละครับว่า ปีนี้ทีมจะไปจบตรงไหน แต่ถือเป็นสัญญาณที่ดีที่ทีมเริ่มรู้ตัว ผู้บริหารสโมสรค้นพบแนวทางที่ดีที่จะทำให้ทีมกลับไปสู่จุดที่ควรจะเป็น ที่สำคัญที่สุดผมหวังว่าโมริชี่คงได้บทเรียนบ้างว่าการเข้ามาจุ้นจ้านกับทีมมากเกินไปมันส่งผลเสียต่อทีม สุดท้ายนี้ผมยังหวังลึกๆว่าแลมพ์จะคือคนที่ใช่สำหรับทีม อย่างน้อยเขาก็คือตำนานนักเตะในสีเสื้อทีมน้ำเงินบนหัวตาราง ในขณะเดียวกันก็หวังว่าเขาจะกลายเป็นตำนานโค้ชของท็อฟฟี่สีน้ำเงินได้เช่นกัน ขอบคุณครับ









แก้ไขล่าสุดโดย kneskung เมื่อ Thu Sep 01, 2022 01:47, ทั้งหมด 1 ครั้ง
7
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ


ออฟไลน์
แขวนสตั๊ด
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 13 Sep 2009
ตอบ: 20523
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu Sep 01, 2022 02:30
[RE: Everton กับการถ่ายเลือดครั้งใหญ่หลังจากตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ]
จริงๆผมชอบนักเตะยุคทีมรวยของเอฟนะ

ฮาเมส ดูกูเร่ อัลลัน โกเมซ โบลาซี่

ทำไมไม่รู้มาดันไม่ค่อยปังขนาดนั้น
2
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ดาวซัลโวฟุตบอลโลก
Status: จับเธอมาปิ้ง พลิกไปพลิกมา...มาเคี้ยวพี่ที>
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 05 Sep 2013
ตอบ: 36750
ที่อยู่: สมุทรปราการ,ไทย &London, England
โพสเมื่อ: Thu Sep 01, 2022 04:06
[RE]Everton กับการถ่ายเลือดครั้งใหญ่หลังจากตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ
เขียนดี อ่านเพลินเลย แม้ตี4แล้ว
พอโตขึ้น แฟนบอลบางคนน่าจะเริ่มเชียร์ทีมรักด้วยความเข้าใจ และเอาภาพรวมของทีม-นักเตะ-สถานะการเงิน มาวิเคราะห์ถึง แนวคิดของทีม และการเลือกแผนของโค้ชได้มากขึ้น
โพสต์บนแอป Soccersuck บน iOS
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ซุปตาร์ยูโร
Status: คปิ๊ง
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 04 May 2021
ตอบ: 15396
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu Sep 01, 2022 06:04
[RE: Everton กับการถ่ายเลือดครั้งใหญ่หลังจากตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ]
เขียนดีมาก
แต่ตื่นมาเห็นช้าไปหน่อย ตกไปหน้า2ละ
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ไปหน้าที่ 1
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel