มันก็ใช้ชีวิตปกตินะ เห็นไอเมนดี้กับไม้เขียวยังออกมาข้างนอกอยู่เลย

ถ้าตกเป็นผู้ต้องหาคดีข่มขืนจริงๆ คงไม่ได้เตะบอลแล้วแหละมั้ง คือใจคอสโมสรยังจะให้ลงเล่นอีกจริงอะ เสียภาพลักษณ์ทีมได้เลยนะ มันจะมีผลต่อมูลค่า ต่อรายได้อะไรต่างๆอีก

ส่วนบิสซูม่ามันโดนคดีล่วงละเมิดทางเพศก็จริง แต่ไม่ใช่ฐานข่มขืน และที่สำคัญแค่ตกเป็นผู้ต้องสงสัยว่าได้ร่วมก่อเหตุเฉยๆ ไม่ใช่เป็นคนทำ คนที่ต้องสงสัยว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุคือคนอายุ40ที่ไปเที่ยวด้วยกันกับพี่แก และสุดท้ายบิสซูม่าก็พิสูจน์ได้แล้วว่าแกไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆด้วยเลย

มันต่างกับเคส บิซซูม่านะ คือ บิซ มันเป็นบุคคลต้องสงสัยที่ 2 ที่ถูกตั้งข้อสงสัย แต่ไม่ได้มีส่วนร่วมโดยตรง

เจ้าตัวก็มั่นใจ ทนายก็มั่นใจ ถึงใช้ชีวิตแบบปกติ ลงเล่นปกติได้

ฝ่ายตำรวจต้องไปหาหลักฐานมาว่า เกี่ยวข้องจริงๆ พอหาไม่ได้ว่า เกี่ยวข้อง ก็ปัดตกไป

ส่วน กรีนวู้ด นั่นคือ จำเลยที่ 1 ที่มีหลักฐานชัดเจน

ยังไงก็ต้องโดนสโมสรแบนไปก่อน จนกว่าจะตัดสินออกมา เพราะมันส่งผลต่อภาพลักษณ์สโมสรตรงๆ

อย่าง ซูม่า ที่เตะแมว อันนั้นหลักฐานชัดเจน แต่คดีมันไม่ร้ายแรง เพราะแมวก็ไม่ได้เจ็บ ไม่ได้ตาย

ก็ลงเล่นได้ตามปกติ

แต่มันเกิดภาพลักษณ์ไม่ดี ออกมาสู่สังคม ทั้งที่มันมองผิวเผินก็คือการแกล้งแมวเฉยๆ เอง

แต่โดนคดีจริง เพราะมีคนแจ้งความ สุดท้ายก็โดนบำเพ็ญประโยชน์ไปแทน

ถ้านึกออก ก็กองหลังชื่อแบงค์ปะ ที่ล้อกันทั้งบ้านทั้งเมืองดูบอลครึ่งนึง พักครึ่งไรซักอย่าง
กะจะล่อแหละ และน่าจะทำมาหลายเคสละ พอเรื่องเงียบก็กลับมาเตะต่อ

ควรพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเองให้ได้ก่อนแหละ

ถ้าบริสุทธิ์ก็เริ่มสู่กระบวนการฟ้องกลับทวงความยุติธรรมคืนมา

บุรีรัมย์ครึ่งนึงปะ ไอนั่นมันติดพนันยืมเงิน ไม่ใช่หรอ ไม่น่าใช่ข่มขืน

คดีละเมิดทางเพศครับ

พวกคดีทะเลาะวิวาท ขึ้นศาลกันเขาก็ยังเตะบอลได้อยู่

ฮันแหน่...ทำเป็นไม่รู้

ทั้ง2ครับ บุรีรัมย์ครึ่งนึงคือไลน์ชวนน้องม.ปลาย(พรากผูเยาว์) ให้ตามขึ้นมาดูบอล แต่ย้องไม่ขึ้นละหนีออกมาเลยเป็นข่าวครับ