ขึ้นอยู่กับครอบครัวแต่ละบ้าน

ผมไปงานแต่งเจอทั้งไม่มีสินสอดและมีสินสอด หรือแม้กระทั้งสินสอดที่ไม่ใช่รูปแบบเงิน,ทอง ธนาบัตร (เป็นหมู,ข้าวสาร)

ควรเป็น Optional ตามแต่ที่ตกลงกัน มากกว่าที่จะเป็น Obligatory แต่ก็ความคิดใครความคิดมันนะ ต่างคนน่าจะมีมุมมองต่างกัน

อย่างส่วนตัว อยากให้พิสูจน์ พิสูจน์ให้ได้นะ เก็บเงินใส่บัญชีกลางให้ได้สัก 2-3 ล้าน แล้วเอาไปเป็นสินสอดแสดงความรับผิดชอบและความสามารถที่จะดูแลฝ่ายหญิงได้ แต่งเสร็จคืนหมด ผมไม่มีปัญหานะ เรียกมาเลย

แต่ถ้าจะให้เอาไปประเคนให้บ้านฝ่ายหญิงฟรีๆเลย ต่อให้ขอซัก 5 แสนก็ไม่ให้อ่ะ ซื้อกระเป๋าให้แฟนใบล่ะเป็นแสนๆซื้อได้นะ แต่ให้เอาเงินไปประเคนเป็นสินสอด รู้สึกว่าไม่ได้อ่ะ ต่อต้านแบบบอกไม่ถูก

ถ้ายังมีอยู่ ก็จะเจอเคสเจ้าบ่าวหนีงานอยู่เรื่อยๆ

อันนี้ก็แล้วแต่ฝั้งนั้นครับ ตอนผมแต่งผมก็จ่ายเองทั้งหมดไม่ได้ซีเรียสอะไร
ถ้าลูกชายผมจะต้องจ่าย ก็เอาที่สมเหตุสมผล ไม่ใช่ขอมาแบบว่าเยอะเกิน แบบนั้นผมบอกให้ลูกเอาเงินตรงนั้นแล้วไปลงทุนทำธุรกิจดีกว่า

เพื่อนผม ไม่มีใครไม่ได้เงินคืน พ่อแม่เจ้าสาวให้คืนหมด

ผมแค่สงสัยว่าเค้าจะเอาไปทำไมฟะ โชว์ 2 ชั่วโมง

มันเคยมีสาระและจำเป็นด้วยเหรอ
สำหรับผมแม่งมีไว้แค่โชว์เอาหน้าเท่านั้นแหละ

ไว้งานแต่งผมกับแฟนก่อน

ในนี้มีแต่ผู้ชาย

มันจะมีใครมองว่าจำเป็นได้ไง

สินสอดนี่ ไม่เหนจำเปนเลยจริงๆ แต่ส่วนมากคนจีนจะรู้สึกว่าเป็นธรรมเนียม สำหรับผมการแต่งงานไม่จำเป็นด้วยซ้ำ แค่ทำพิธีสวมแหวนอะไรให้เป็นทางการก้พอ จัดงานแต่ง เสียทั้งค่า โรงแรม ค่านู่นค่านี่
เวลา ปกติจะใช้จ่ายซื้ออะไรแต่ละทีคิดแล้วคิดอีก แต่พอเป็นงานแต่งกลับต้องจ่ายทีเป็นล้าน

บ้านแฟนไม่ได้ขอ แต่ผมก็ให้ ให้ไปก็ไปอยู่ที่แฟนนี่แหละ

ผมอยู่กันมา 6ปี ลูก 2 คน

ตอนนั้นไม่มีสมบัติอะไรมาก

ตอนนี้ มีบ้างจะมาเรียกร้องสินสอด 3 ล้าน

บังเอิญเมียผมไปฟังเค้าด้วย หัวจะปวด

ผมทะเลาะกับบ้านเขาแทบตายเรื่องนี้

เป็นวัยรุ่นเพิ่งทำงานธรรมดาๆ เรียกมา 4 แสนทอง 5 บาท

ด้วยเหตุผลเดียวที่จำมาถึงทุกวันนี้คือ จะเอาไปใช้หนี้ เพราะมีหนี้เยอะแยะ

ไม่ได้ดูความดีที่สร้างมาเลย แม้แต่นิดเดียว

ไม่มีก็ไปกู้มา แค่เริ่มก็ติดลบแล้ว เงินเดือนออกถ้าต้องกู้ทีนึงเหลือเงินพันกว่าบาท

เขาก็รู้ ณ จุดนี้ แต่ก็ไม่สนใจกุจะเอาตังไปใช้หนี้

สุดท้ายสินสอดฝากไว้ที่บัญชีเมีย เพราะกลัวและมโนจะโดนธนาคารยึดเพราะค้างจ่ายจนเรื่องไปศาล

เงินก้อนที่ฝากไว้ที่เมีย ผมเอาไปต่างประเทศกับใช้หนี้ที่กู้ส่วนใหญ่จนเงินหมด

ใจจริงไม่ได้อยากทำแบบนี้ ถ้าเขาไม่พูดมาแบบนั้นก่อน

ถ้าเรียกน้อยๆหรือไม่เรียกเลยป่านนี้ผมให้เขาเป็นรายเดือนและดูแลเป็นอย่างดีไปแล้ว

ตอนนี้บ้านนั้นเกลียดผมหมด ผมไม่สนใจไม่ได้ขอเงินเขากิน

คำพูดนั้นตราตึงในใจผมเสมอ ให้ลูกแต่งงานเพื่อเอาเงินไปใช้หนี้

เหมือนเลี้ยงตัวอะไรแล้วขาย เคยผ่านมาแล้ว ณ จุดนี้ เล่าให้ฟัง

มันคืธรรมเนียมที่สืบต่อครับ ถ้าวงสังคมผมก็ผู้ใหญ่สองฝ่ายตกลงกันฝ่ายหญิงเรียกเท่าไร ฝ่ายชายก็เติมมาตามเหมาะสม แต่งเสร็จก็เป็นขวันถุงให้บ่าวสาวไป

แต่ที่ amazing เลยคือเคยตามแม่ไปเป็นเฒาแก่ให้ลูกน้องในบ้าน(ผมอยู่ทางอิสาน)

ชาวบ้านนี่คือบ้านชายให้บ้านหญิงอย่างเดียว ความสุดอยู่ที่ ญ เรียก 200000 ฝ่าย ช ต่อลงเหลือ10000 เจรจากันเกือบ3 ชม. ไปจบที่45000

คือแบบ. . ต่อเป็นผักบุ้งในตลาดเลยครับ

ที่หงุดหงิดคือ ถ้าคุยไม่จบ ไม่มียกน้ำยกข้าวมาให้

. . .หิวน้ำอิ๋บอ๋าย -*-

มันอยู่ที่การคุยกันของทั้งสองครอบครัวครับ
แล้วตกลงกัน
ของผม ทางบ้านเมียผมคืนให้หมด
แต่ผมให้บ้านเค้า แสนนึง

ผมตั้งใจอยากจะเห็นในมุมมองสังคมผู้ชายนี่แหละครับ
พวกเราควรรณรงค์เพื่อยกเลิกประเพณีนี้ เพื่อสร้างmindsetใหม่ให้สังคมไหมครับ 55555

สำหรับผมไม่จำเป็นครับ ถ้ามีลูกสาวผมก็คงไม่เรียก แต่จะให้ทุกบ้านมาคิดเหมือนเราคงไม่ได้หรอกครับ ถ้าคิดอยากจะแต่งงาน บางทีเรื่องพวกนี้ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่เอาเท่าที่ไหวและเหมาะสมอ่ะครับ