เก่งลืมอายุ! 'พี่โด้' น่าแฮตทริก ฝอยทองโหดจัดขยี้สวิสเละเทะ 4-0
คริสติอาโน่ โรนัลโด้ ยังคงเก่งไม่สนสังขาร เมื่อซัดคนเดียว 2 ประตู ในแบบมีโอกาสทองจะทำแฮตทริกนับครั้งไม่ถ้วน แมตช์ ฝอยทอง โปรตุเกส เปิดบ้านไล่ถล่มสวิตเซอร์แลนด์ เป็นบอลคนละชั้น 4-0 โดยอีก 2 ประตูได้มาจาก วิลเลี่ยม คาร์วัลโญ่ และ เจา คันเซโล่ ส่งให้ทีมเก็บได้ 4 คะแนน จาก 2 นัดในยูฟ่า เนชั่นส์ คัพ กลุ่ม A2
โปรตุเกส
Starting Formation: 4-3-3
11.
บรูโน่ แฟร์นานเดส
67'
18.
รูเบน เนเวส
77'
21.
ดิโอโก้ โชต้า
67'
16.
โอตาวิโอ
77'
ตัวสำรอง
6.
เจา ปาลินญ่า
77'
15.
ราฟาเอล เลเอา
77'
10.
แบร์นาร์โด้ ซิลวา
67'
17.
ริคาร์โด้ ฮอร์ต้า
67'
ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก กลุ่ม A2
สนาม เอสตาดิโอ โชเซ่ อัลวาลาเด้, สิสบอน
วันอาทิตย์ที่ 5 มิถุนายน 2565
กรรมการ โอเรล กรินฟีล์ด
โปรตุเกส
4
0
สวิตเซอร์แลนด์
1-0 วิลเลี่ยม คาร์วัลโญ่ 15'
2-0 คริสติอาโน่ โรนัลโด้ 35'
3-0 คริสติอาโน่ โรนัลโด้ 39'
4-0 เจา คันเซโล่ 68'
โปรตุเกส กลับมาเล่นแมตช์ที่ 2 ยูฟ่า เนชั่นส์ลีก ในบ้านตัวเอง หลังเกมที่แล้วรอดตายไล่ตามตีเสมอสเปนหวุดหวิด 1-0 ขณะที่สวิตเซอร์แลนด์ ออกนอกบ้านไปแพ้ต่อสาธารณรัฐเช็ก 2-1
คริสติอาโน่ โรนัลโด้ นัดนี้ได้ออกสตาร์ตเป็นตัวจริง หลังได้เล่นเป็นแค่ตัวสำรองนาทีที่ 62 จากนัดที่แล้ว
โปรตุเกสได้ VAR แฮนด์บอลรอดไม่เสียประตู
งานเกือบเข้าเจ้าถิ่น สกอร์ตกเป็นรองอย่างรวดเร็ว จากลูกเตะมุม เกมรับเคลียร์บอลทิ้งไม่ขาดมาเข้าทางปืนเซเฟโรวิช ซัดเข้าประตู
อย่างไรก็ตาม ผู้ตัดสินวิ่งออกไปเช็ค VAR ก่อนตัดสินให้เป็นาารทำแฮนด์บอลของผู้เล่นสวิสไปซะก่อน โปรตุเกสรอดหวุดหวิด
คาร์วัลโญ่ ตามซ้ำจ่อๆให้เจ้าถิ่นขึ้นนำ 1-0
หลังจากนั้น โปรตุเกส ก็เป็นฝ่ายครองบอลทำเกมรุกใส่ทีมเยือนตลอดและมาได้ประตูขึ้นนำจากฟรีคิกของโรนัลโด้ อัดไปตรงๆทะลุกำแพง โคเบล ทิ้งตัวปัดบอลกระฉอกเข้าทางปืน วิลเลี่ยม คาร์วัลโญ่ ตามซ้ำต่อๆไม่เหลือซาก 1-0
สวิสตอบโต้กดดันโปรตุเกสได้ดี
สวิส หลังสกอร์เป็นรองก็บุกใส่โปรตุเกสคืนอย่างหนัก พวกเขาใช้เกมเพรสซิ่งสูง และทำได้ดี สิ่งที่ยังขาดอยู่คือความเด็ดขาดในพื้นที่สุดท้ายเท่านั้น
โปรตุเกสบุกใส่หนักมาก
โปรตุเกสมาเป็นชุด จังหวะนี้ โอตาวิโอ้ ตั้งป้อมวอลเล่ย์นอกกรอบ ลุกพุ่งออกหลังไปซะก่อน
โปรตุเกสสวนกลับคมกริบ, โด้ตะบันเต็มข้อ 2-0
เกมรุกโปรตุเกสมาไม่ขาดสายเกินต้านทาน จังหวะนี้เป็นเกมโต้กลับที่เริ่มมาจาก บรูโน่ วิ่งฉีกรับบอลทางขวา ก่อนจ่ายให้ โชต้า เทิร์นบอลตั้งให้ โรนัลโด้ วิ่งตามเข้ามาหวดเต็มข้อเสียบตาข่ายสุดปัญญา โคเบล จะป้องกัน 2-0
โชต้าหลุดเดี่ยวยิงติดบล็อคนิดเดียว
โอกาสทองอีกครั้งของโปรตุเกส แนวรับสวิสเละเทะเปิดช่องเยอะมาก และเป็น โชต้า ที่หลุดเดี่ยว แต่จังหวะง้างไกโดนกองหลังตามมาบล็อคได้ทันซะก่อน
มาเป็นชุดคราวนี้เปเป้โหม่งชนเสา
จังหวะต่อเนื่องจากลูกเตะมุม เปเป้ เทคตัวโขกบอลชนเสา กระดอนออกมาให้เขาได้ซัดอีกรอบไปตรงตัวโคเบล
โด้ได้ซ้ำจ่อๆไม่พลาด 3-0 แล้ว
สวิสไม่รอดอยู่ดีโดนประตู 3-0 คราวนี้บอลหลุดทางซ้าย โชต้า รับบอลยิงที่เสาแรกติดบล็อค ลูกดันกระดอนเข้ามาทางปืน โรนัลโด้ เช็คบิลคนเดียวโล่งๆ เข้าประตูไปอีก
โด้พุ่งชาร์จลูกหลุดเสาไม่ได้ประตุเหลือเชื่อ
โรนัลโด้ พลาดโอกาสทำแฮตริก จากคันเซโล่ ไหลบอลจากขวาให้เขาชาร์จคนเดียวโล่งๆ แต่ลูกมันดันหลุดเสาออกหลังไปเหลือเชื่อ
แฮตทริกยังไม่มีมา โด้ซัดโล่งๆหลุดเสาไปอีก
โชต้า ปั้นพี่โด้สุดๆ เมื่อพาบอลลากจากซ้ายมาจ่ายให้ โรนัลโด้ ตั้งป้อมยิงคนเดียวโล่งๆ แต่บิดหัวเข่ามากไป ลูกพุ่งหลุดเสาออกหลัง พลาดโอกาสทำแฮตทริกไปอีกครั้ง
โด้ยิงเข้าแต่ล้ำหน้าไปซะก่อน
ครึ่งหลัง สวิสบุกอยู่ดีๆ โดนโต้กลับ บอลมาจบที่โรนัลโด้ ยิงจังหวะแรกติดเซฟ ก่อนตามซ้ำอีกรอบเข้าประตูไป
อย่างไรก็ตาม ผู้ตัดสินเป่าให้เป็นจังหวะล้ำหน้าของโชต้า ไปซะก่อน สกอร์ยัง 3-0
โปรตุเกสกลับมากดดันใส่สวิสได้อีกครั้ง
เกมผ่าน 1 ชั่วโมง สถานการณ์ของสวิสยังไม่ดีขึ้น พวกเขาทำได้ดีเป็นช่วงๆ ถึงตอนนี้กลับเป็นโปรตุเกสที่พาบอลกดดันลุ้นบวกสกอร์เพิ่มอีก
คันเซโล่ชนะโคเบลได้ซัดโล่งๆ 4-0
สกอร์ไหลเป็น 4-0 จากความยอดเยี่ยมของันเซโล่ ควบถึงบอลได้ก่อนโคเบล ก่อนยิงโล่งๆ เข้าประตูไป
โปรตุเกสยังเดินทางใส่สวิสไม่เลิก
ขุนพลโปรตุเกสฮึกเหิมมากยังเดินทางบุกใส่สวิสแบบไม่มีทีท่าจะผ่อนเกม
โด้อดยิงจุดโทษอีก VAR ให้แค่ฟรีคิก
เมนเดสสับขาหลอกก่อนถูกสกัดล้ม ผู้ตัดสินชี้ไปที่จุดโทษ แต่สุดท้ายเปลี่ยนใจให้เป็นแค่ฟรีคิก
โด้ฟรีคิกโดนเซฟอีก แฮตริกยังไม่มา
โรนัลโด้ รับหน้าที่ยิงฟรีคิกเอง บอลพุ่งกำลังจะเสียบสามเหลี่ยมอยุ่แล้ว แต่โคเบล ไม่พลาดพุ่งตามมาปัดทิ้งไปได้อีก
หมดเวลาการแข่งขัน โปรตุเกสเปิดบ้านไล่ถล่มสวิตเซอร์แลนด์กระเจิง 4-0 ชนิดโรนัลโด้ น่าจะทำแฮตทริกได้
สวิตเซอร์แลนด์
Starting Formation: 4-2-3-1
13.
ริคาร์โด้ โรดริเกซ
62'
23.
เซอร์ดาน ชาคิรี่
70'
9.
แฮริส เซเฟโรวิช
62'
11.
เรนาโต้ สเตฟเฟ่น
70'
15.
ฌิบริล ซอว์
81'
ตัวสำรอง
14.
มัตเทีย บอตตานี่
70'
5.
โนอาห์ โอกาฟอร์
62'
7.
บรีล เอ็มโบโล่
ุ62'
19.
มาริโอ กาฟราโนวิช
81'
8.
เรโม่ ฟรอยเลอร์
70'
แก้ไขล่าสุดโดย iPanic เมื่อ Fri Jun 10, 2022 02:46, ทั้งหมด 14 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ
: 0 ใบ
My Locker
