“เขาผิดหวังที่ไม่ถูกเลือกไปฟุตบอลโลก”
รอนนี่ เดล่า ผู้จัดการทีมชาวนอร์เวย์ ย้อนความทรงจำถึงอดีตลูกทีมคนหนึ่ง สมัยที่คุมทีมกลาสโกว์ เซลติก พร้อมกับบอกว่า กองหลังรายนี้ผิดหวังเป็นอย่างมาก ที่ไม่ถูกเรียกติดทีมชาติเนเธอร์แลนด์ ชุดลุยศึกฟุตบอลโลก 2014 รอบสุดท้าย
“ตอนแรก เราพูดถึงเรื่องนี้ เพราะเขาผิดหวังมาก ที่ไม่ถูกเรียกไปติดทีมชาติ” เดล่า กล่าวต่อ “เขาถามผมว่า เขาสามารถปรับปรุงตัวเองในแง่ไหนได้บ้าง ผมถามเขากลับว่า -นายคิดว่า เพราะอะไรถึงถูกเมินจากทีมชาติ ?- เขาตอบว่าไม่รู้เหมือนกัน และคิดว่าไม่ยุติธรรมสักเท่าไหร่”
“ผมบอกเขาไปตรงๆว่า เหตุผลที่เขาไม่ติดทีมชาติ นั่นคือเขายังดีไม่พอ ดังนั้น วิธีเดียวในการเป็นตัวเลือกหลักของทีมชาติ ก็คือการปรับปรุงตัวเอง และทำให้ดีขึ้นอย่างสุดความสามารถ นี่คือสิ่งที่คุณควบคุมได้ คุณต้องทำงานหนัก บางครั้ง เขาอาจคิดว่าลีกสกอตแลนด์ มันง่ายเกินไป แต่เขาต้องแสดงสิ่งที่ดีที่สุดออกมา คุณต้องงัดทัศนคติที่ยอดเยี่ยมออกมา และมีสมาธิตลอด 24 ชั่วโมง”
หลังจากนั้น นักเตะคนนี้เพิ่มเติมความกระตือรือร้น ทั้งในส่วนของผลงานในสนาม และการพัฒนาร่างกาย เจาะลึกไปที่การออกกำลังกาย และโภชนาการ เพื่อก้าวสู่การเป็นนักฟุตบอลชั้นยอด
เดล่า กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า “ตอนที่ผมเข้ารับงานคุมทีมกลาสโกว์ เซลติก ผมมองว่าเขามีน้ำหนักตัวที่มากเกินไป เขาเป็นนักเตะที่ยอดเยี่ยม และมีร่างกายที่แข็งแกร่ง อย่างไรก็ตาม เขาต้องฟิตมากกว่าเดิม เพื่อก้าวไปอีกระดับ”
“หากคุณมีน้ำหนักที่มากเกินไป มันจะส่งผลให้คุณเคลื่อนไหวช้าลง, คิดช้าลง และทำทุกอย่างช้าลง หลังจากนั้น เขาสามารถลดน้ำหนักไปถึง 9 กิโลกรัม !!! กระทั่งปีต่อมา เขาย้ายทีมไปเซาธ์แฮมป์ตัน เขามีน้ำหนักเหลือ 95 กิโลกรัม จำนวนน้ำหนักที่หายไป ส่งผลต่อระดับการเคลื่อนไหวในสนาม”
“เขาเริ่มมีการฝึกซ้อมที่แตกต่างออกไป มีแรงจูงใจเพิ่มมากขึ้น และจดจ่อกับทุกรายละเอียดในการฝึกซ้อม เขาตระหนักถึงแท็คติกของตัวเอง และรู้ว่าต้องทุ่มเทแบบ 100 เปอร์เซนต์ในทุกสิ่งที่ลงมือทำ เพื่อก้าวไปสู่ระดับต่อไป เขาต้องทำงานหนัก ควบคู่ไปกับพรสวรรค์ที่มี”
“เขาเริ่มดูแลตัวเองในชีวิตนอกสนาม เพื่อให้ร่างกายฟิตสมบูรณ์ ในขณะเดียวกัน เขาก็ให้ความสำคัญกับการฝึกซ้อมมากขึ้น พร้อมกับทำงานในเชิงแท็คติกเกมรับด้วย ผมคิดว่า เขามีการปรับปรุงอย่างมากในทุกด้าน”
เดล่า กล่าวทิ้งท้ายถึงอดีตลูกทีมของเขา ที่ต่อสู้ และพิสูจน์ตัวเอง จนเปลี่ยนจากนักเตะที่ทีมชาติเนเธอร์แลนด์ ไม่เรียกติดทัพ สู่การเป็นกัปตันทีม “อัศวินสีส้ม” คนปัจจุบัน
เฟอร์จิล ฟาน ไดจ์ค

ถ้าเทียบกับอายุ ผมว่าแกดังช้านะ ตอนบอลโลก 2014 ก็อายุ 23 แล้ว นักเตะรุ่นเดียวกันอย่างอาซาร์,เดอบรอยน์,กรีซมันนี่ทยอยติดทีมชาติหมดละ ย้ายออกจากเซลติกก็เกือบ 25 ย้ายมาลิเวอร์ก็ตอน 27-28 ละ ตอนนี้อายุ 31

มารู็จักตอนอยู่ลิเวอเหมือนกัน ตาแหลมมากคนที่ตัดสินใจ

พักบ้าง

เก่งช้าเลยดังช้า

แต่ยอมรับว่าก้าวกระโดดที่สุดละ

เมื่อก่อนคง นน 100 โล พัฒนามาได้สุดยอด

อารมเฮนโด้อะ อาจจะไม่มีพรสรรวค์เท่าตัวโหดคนอื่นๆที่ดัง เก่งมาแต่เด็ก

แต่อาศัยค่อยๆพัฒนาๆ เก็บประสบการณ์ มาเรื่อยๆ จนโหดสุดๆ ณ ปัจจุบัน

ตอนนั้นแกเริ่มดังช้าไปใช่มั้ยนะ เลยไม่ได้ไป

ย้ายมาหงส์อายุ 26 ครับ เล่นมา 5 ฤดูกาลแล้ว

ตอนดาวรุ่งแกไม่มีชื่อเสียงจริง แทบไม่มีใครรู้จักชื่อ

ตอนมาอยู่เซ้าธ์ก็อายุราว 24 ก็เริ่มมีทีมใหญ่สนใจแล้ว แต่แกไปเจ็บยาวช่วงนึง

พอย้ายมาหงส์ตอน 26 ก็กำลังพอดีนะครับ

จะมาเสียดายก็เจ็บยาวหายไปปีนึงล่ะ

ดังช้ายังพอว่า แต่ฮอลแลน ดันเข้าสู่ยุคมืดอีก

ผลิตนักเตะไม่ทัน บอลโลกก็ไม่ได้ไป ยูโรด้วยไหมจำไม่ได้

ความจำล่าสุดกับฮอลแลนคือ พงเพอซี่ลอยตัวโหม่งในบอลโลก

แล้วก็ lost ไปเลย

ผมอยากได้ตั้งแต่อยู่เซลติกแล้ว ผมว่าหมอนี่มันรูปร่างดี ลูกโหม่งดี สปีดดี ถ้าเจอโค้ชเก่งๆขัดเกลาเก่งแน่ๆ


สุดท้ายไม่มีใครกล้า จนเซาท์ไปเอามาคนถึงเริ่มเชื่อในฝีเท้า

จะบอกว่าเก่งช้าผมว่าไม่ใช่อ่ะ เคยเห็นคลิปตอนอยู่เชลติก มันก็ทรงนี้เลยนะทั้งความเร็วจังหวะการเข้าบอล ตอนอยู่เซาแธมตันเหมือนกันนัดที่เจอลิเวอพูลกองหน้าลิเวอพูลนี่คือใบ้แดกทั้งเกมคือเรียกว่าหมดพิษสงอย่างแท้จริงเลย

สิ่งที่แตกต่างคือทีมพวกนั้นเขาให้ฟานไดจ์เล่นเกมรับโบราณอ่ะ ประกบตัวๆไป คอยป้องกันโน่นนี่ เป็นตัวชน ตามสไตล์คนตัวใหญ่และมีความเร็ว

แต่ที่ลิเวอพูลเหมือนดูออกว่าจริงๆความสามารถที่โหดจริงๆของฟานไดจ์คือสมองไม่ใช่ร่างกาย มันเลยกลายเป็นคนตัวสูงใหญ่ที่วิ่งเร็วบวกกับทางบอลดีฉลาดอ่านเกมขาด

สิ่งนึงที่พิสูจน์ได้เลยคือหลังจากเจ็บกลับมา ฟานไดจ์ใช้ร่างกายน้อยลงมากแต่ประสิทธิภาพเกมรับลิเวอพูลก็โหดเหมือนเดิม ตราบใดที่ฟานไดจ์ลงสนามทุกสิ่งมันจะคอนโทรลได้ ไอ้ที่บอกบัฟเพื่อนร่วมทีมได้ก็เพราะฉลาดเนี่ยแหละรู้ว่าต้องทำอะไรเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ทีม

แกมาโหดตอน27-28แล้วอะ

เอาจริงอยู่ เซาฯ ที่จำได้เก่งนะ แต่ไม่ได้เก่งเวอร์วังขนาดอยู่กับหงส์ ซัวเรซ สเตอริด ก็เอาชนะ VVD ได้ตลอดนะ ตอนอยู่เซาฯ แข็งแกร่ง เร็ว แต่ไม่ใช่ระดับเทพเหมือนตอนนี้

ก็ต้องดูองค์ประกอบทีมด้วยอะครับ