ผมว่า แนวทำทีมของลิเวอร์พูลด้วยครับ เน้นครองบอล และเน้นบุก

Couter Pressing ผมก็ว่ามันก็โต้กลับอย่างนึงนะ

โต้กลับที่อัพเกรดแล้ว โต้กลับแดนบนไว้จัดการกับโต้กลับอีกทีนึง



ตอนบุก บุกขึ้นสูง เช็คไลน์สูง แทบจะ 10 คนอยู่ในฝั่งคู่แข่ง

...ทิ้งแดนหลังล่อไว้ ถ้าทีมรับรีบโต้กลับ ช่วงตั้งท่า จะโต้กลับ ถ้าโดนแย่งบอลไป นี่ก็เหวอ เหมือนกันนะ

ปีนี้มีจังหวะสวนกลับสวยๆหลายลูกนะ แต่ไปตายกองหน้าหมด เทรนเปิดสวยๆ ให้โมหลุดไปเยอะมาก แกก็ไปแตะยาว แตะลั่น คิดเยอะจังหวะสุดท้ายจนไม่ได้ยิงตลอด

ของแบบนี้มันไม่ใช่ว่าหายไปในทันทีสิครับ

ในเมื่อมันเคยทำได้แล้ว มันก็จะทำได้ต่อ แต่พอคนติวหายไป มันมีแต่จะดรอปลงเรื่อยๆ จนหลังๆ แทบไม่เฉียบเลย

ยิ่งปัจจุบัน 3 ตัวหลักจากเดิม คนนึงน้ำหนักเท้าไม่ดีเหมือนก่อน คนนึงฟอร์มตก อีกคนก็ฝืน ไปกันใหญ่เลยทีนี้

2 ปีที่ว่ามานั้น อาวุธหลักของทีม กลายมาเป็นลูกครอสจากแบ็คสองข้างแทนซะมากกว่า เพราะทีมอื่นไม่ปล่อยให้โต้ซักเท่าไหร่แล้ว

หน้าไม่คมเหมือนเดิมเท่านั้นแหละครับ จังหวะสวนก็มีอยู๋เรื่อยๆ อะ

เห็นข้างบนพูดถึงเวลาเราเจอ ซิตี้ ต้องบอกก่อนว่า ช่วงปีที่เราชนะซิตี้ ส่วนใหญ่คือ แย่งบอลได้แดนบน แล้วทำเร็ว



ผมเอาเฉพาะนัดที่ชนะละกัน

4-3 - ลูก 1 3 4 คือ เคาท์เตอร์เพลสทั้งสิ้น (แย่งบอลได้ในแดนซิตี้ แล้วทำเลย)
3-0 ลูก 2 คือ เคาท์เตอร์เพลส
1-2 ลูก 2 คือ เคาท์เตอร์เพลส

เอาแค่ปีที่ จขกท บอกนะครับ ส่วนใหญ่คือ หลังซิตี้พลาดจากการโดนเราบีบ

นอกจากหน้าเราไม่คมแล้ว ทีมอื่นๆอาจจะมีการเซ็ทบอล ถ่ายบอลไม่ให้ล่อเวลาโดนไล่ให้ดีขึ้นด้วยครับ

จังหวะสวนกลับ หรือเค้าเตอเพลสซิ่งแล้วได้ประตูน้อยลงมากจริงๆคับบ ผมว่ามาจาก
1. โม เน่ แก่ตัวลงเรื่อยๆ สปีดหายไปเยอะ
2. การหายไปของเฟอมิโน่ โน่ไม่ได้ยิงเยอะ แต่เป็นคนที่มีผลต่อเกมรุกและสนับสนุนการยิงประตูของซาล่ามาเน่มาตลอด 2-3ปีหลั
ในตำแหน่งfalse9 คอยพักบอล หรือใช้ลูกขยันตัดบอลได้ ถ้าเพื่อนตำแหน่งดีกว่าแกส่งตลอด จนบางครั้งยังอุทานว่าทำไมไม่ยิงเอง ต่างกับซาล่ามาเน่ หรือแม้แต่โจต้า มีแต่จังหวะฝืน ต้องได้บ่นทุกเกม ทำไมไม่ส่ง ทำไมฝืนเลี้ยงไปติด มันทำให้เกมไม่ลื่นไหล
จับหวะขาดๆเกินๆ พอจะได้ยิงก็ต้ดบ้าง โดนบล๊อคบ้าง ฝืนยิงบ้าง เป็นแบบนี้ประจำ
3. ตอนนี้ใครเจอหงส์ก็ลงไปตั้งรับลึกรอสวนกันหมด มันทำให้ทีมต้องเน้นแผนบุกแบบเจาะรถบัสมากขึ้น