ลืมพกดวง! "หมี" แม่นเสา,คาน โดน OG,จุดโทษ พ่ายบิลเบา 2-0
BLOG TOPIC_A
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email:
sale@soccersuck.com
โปรโมชั่นลดจากเดิม 30% (ไม่รับโฆษณาผิดกฏหมายทุกประเภท)
สงสัยไม่ได้พกดวงมาด้วยในเกมนี้สำหรับ แอตเลติโก้ มาดริด เมื่อพวกเขายิงชนทั้งเสาทั้งคานก่อนบุกไปแพ้ แอธเลติก บิลเบา 2-0 โดยประตูแรกเป็นการทำเข้าประตูตัวเองของ มาริโอ เอร์โมโซ๋ ก่อนที่ อินญากี้ วิลเลียมส์ จะซัดจุดโทษบวกเพิ่ม ทำให้ทีมตราหมียังรั้งที่ 4 ของตารางลาลีก้าแบบเสียวสันหลัง เพราะห่างทีมที่ตามมาอย่างเรอัล เบติส 4 แต้มและแข่งมากกว่า 1 นัด
แอธเลติก บิลเบา
Starting Formation: 4-4-2
17.
ยูริ เบร์ชิเช่

88'
14.
ดานี่ การ์เซีย

75'
30.
นิโก้ วิลเลี่ยมส์

74'
22.
ราอูล การ์เซีย

88'
9.
อินญากี้ วิลเลียมส์

77'
ตัวสำรอง
16.
อูไน เบนเซดอร์

75'
24.
มิเกล บาเลนเซียก้า

88'
19.
โอยเอร์ ซาร์รากา

74'
7.
อเล็กซ์ เบเรนเกร์

77'
12.
ดานี่ วิเวียน

88'
ลาลีก้า
สนาม ซาน มาเมส
เสาร์ที่ 30 เมษายน 2565
กรรมการ อันโตนิโอ มาเตว
แอธเลติก บิลเบา
2
0
แอตเลติโก้ มาดริด
1-0 เอร์โมโซ่ 8' (Og.)
2-0 อินญากี้ วิลเลียมส์ 56' (Pen.)
ตราหมีบุกไปเล่น 4-4-2 ซัวเรซ,กรีซมันน์ เป็นคู่หน้าโดยมีตัวหนุนอย่าง การ์ราสโก้,ญอเรนเต้,ก็องด็อกเบีย,เอร์เรร่า
บิลเบามาในระบบ 4-4-2 เหมือนกัน คู่หน้ายังใช้ อินญากี้,การ์เซีย ตามเดิม โดยมี มูเนียอิน,นิโก้,ดานี่ การ์เซีย,เบสก้า คอยหนุน
• เจอกัน 7 นัดหลังทุกรายการ ผลัดกันชนะ 3 เสมอ 1
เจ้าถิ่นได้ลุ้นทักทายก่อน
โอกาสลุ้นครั้งแรกในเกมเป็นของเจ้าถิ่น จังหวะที่อินญากี้ไหลบอลให้ราอูล การ์เซียวางเท้าซัดด้วยซ้ายหน้ากรอบเขตโทษ แต่บอลก็พุ่งแรงหลุดข้ามคานไป
หมีเซ็ง!เอร์โมโซ่ OG ส่งบิลเบาขึ้นนำเร็ว
แล้วทำไปทำมาบิลเบามาได้่ประตูขึ้นนำไปอย่างรวดเร็ว จากจังหวะบอลยาวไปทางกรอบฝั่งซ้ายแล้วอินญากี้เบียดไปชิงเหลี่ยมเอาชนะกิเมเนซก่อนที่จะเลี้ยงจี้เข้ากรอบ เขาพยายามเปิดไปหน้าประตูแต่บอลไปแฉลบเอร์โมโซ่เปลี่ยนทางเข้าประตูไปเลย 1-0 บิลเบานำเร็ว
อินญากี้เปิดบอลชนเสาเกือบเฮงอีก
บิลเบาเกือบได้ประตูที่สอง จากจังหวะที่อินญากี้ได้บอลหน้ากรอบเขตโทษฝั่งซ้ายก่อนที่จะพยายามเปิดพุ่งเข้าไปในกรอบเขตโทษ แต่บอลไม่โดนใครแล้วตกพื้นเด้งชนเสาปลิ้นออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย
ซัวเรซฉวยโอกาสซัดไกลเบาหวิว
โอกาสลุ้นครั้งแรกของตราหมีในเกมนี้ ก็ไม่ใช่จังหวะจะแจ้งอะไรเมื่อซัวเรซฉวยโอกาสยิงไกลด้วยขวาหน้ากรอบเขตโทษ บอลพุ่งเรียดเบาตรงกรอบไปเข้ามือซิมอนสบาย
ก็องด็อกเบียแปเน้นๆหลุดหวาดเสียว
แอตเลติโก้เกือบได้ประตูตีเสมอ จังหวะที่ญอเรนเต้ได้บอลทางกรอบฝั่งขวาก่อนไหลขวางมาบริเวณหัวกะโหลกให้ก็องด็อกเบียวิ่งมาแปด้วยซ้ายเน้นๆ บอลพุ่งแรงหลุดเสาซ้ายมือไปนิดเดียว
อ๋องได้โขกแต่ยังเบาไป
ท้ายเกมตราหมีพยายามบุกเอาประตู จังหวะนี้ญอเรนเต้เปิดบอลจากทางฝั่งขวาลึกไปเสาสองให้กรีซมันน์เทคโหม่งบอลตกพื้นแต่ก็เด้งเบาไปเข้ามือซิมอน
การ์ราสโก้ซัดแฉลบหลุดกรอบหวุดหวิด
แอตเลติโก้น่าได้ประตูตีเสมอสุดๆ จังหวะที่การ์ราสโก้ได้บอลทางริมกรอบฝั่งขวาก่อนที่จะลากตัดเข้าไปในกรอบเขตโทษแล้วได้เหลี่ยมซัดด้วยซ้าย บอลไปแฉลบบล้อคก่อนปลิ้นหลุดกรอบไปนิดเดียว
สุดท้ายจบครึ่งแรกเป็นบิลเบาที่ขึ้นนำไปก่อน 1-0 จากจังหวะมีดวงในช่วงต้นเกม แต่ฝั่งมาดริดก็พยายามทวงคืนและมีโอกาสหลายครั้งในช่วงทายเพียงแต่ไม่คมพอ
อ๋องปั่นฟรีคิกชนคานสนั่น
เปิดหัวมาครึ่งหลัง ตราหมีเกือบได้ประตูตีเสมอจากจังหวะที่ได้ฟรีคิหหน้ากรอบเขตโทษ เป็นกรีซมันน์ที่รับหน้าที่ปั่นด้วยซ้ายข้ามกำแพงไปแล้วแต่บอลพุ่งชนคานอย่างน่าเสียดาย
อินญากี้สังหารโทษนิ่มๆ 2-0 บิลเบาหนี
แล้วทำไปทำมาบิลเบามาได้จุดโทษจากจังหวะที่เอร์เรร่าไปเตะตัดขามูเนียอินในกรอบเขตโทษ อินญากี้รับหน้าที่สังหาร เขาจัดการชิพนิ่มๆเข้าไปตรงกลางประตู หมดสิทธิ์สำหรับโอบลัคที่ทิ้งตัวผิดทางไปแล้ว 2-0 ทันที
โอบลัคดับเบิ้ลเซฟช่วยหมี
บิลเบาน่าได้ประตูที่สามด้วยซ้ำ จากจังหวะที่มูเนียอินได้บอลหน้ากรอบเขตโทษแล้วมีเวลาวางเท้าปั่นด้วยขวาไปติดเซฟโอบลัคที่ปัดเอาไว้ได้ บอลไม่พ้นอันตรายมาเข้าทางอินญากี่ที่ตามมาตวัดยิงซ้ำแต่ก็ยังไปติดเซฟโอบลัคอีกอยู่ดี
คอร์เรอาพลิกยิงข้ามคาน
ท้ายเกมตราหมียังพยายามจะเอาประตูตีไข่แตก จังหวะนี้เกือบได้เลยเมื่อคอร์เรอาจับบอลได้ในกรอบเขตโทษแล้วรีบกลับตัวซัดเร็วด้วยซ้าย บอลพุ่งแรงแต่ข้ามคานไปอย่างน่าเสียดาย
ไม่มีดวง!คอร์เรอาซัดแฉลบแม่นเสาไปอีก
แอตเลติโก้วันนี้่ดูเหมือนจะไม่มีดวงเลย จังหวะนี้คอร์เรอาพลิกบอลมาที่หน้ากรอบเขตโทษแล้วได้ช่องซัดด้วยซ้ายบอลแฉลบบล็อคเปลี่ยนทางแล้วแต่ดีนไปชนเสาเสียอีก
หมีพ่าย 2-0 รั้งที่ 4 เสียวหลัง
สุดท้ายจบเกมแอตเลติโก้บุกแพ้ไป 2-0 แม้พวกเขาจะยังรั้งที่ 4 ของตาราง แต่เริ่มเสียวหลังแล้วเพราะห่างทีมที่ตามมาอย่างเรอัล เบติส 4 แต้มและแข่งมากกว่า 1 นัด
แอตเลติโก้ มาดริด
Starting Formation: 4-4-2
23.
เรนิลโด้ มานดาว่า

65'
9.
หลุยส์ ซัวเรซ

70'
ตัวสำรอง
24.
ซิเม เวอร์ซัลจ์โก้

70'
10.
อังเคล คอร์เรอา

65'
404: Not Found
แก้ไขล่าสุดโดย MEGITSAMA เมื่อ Sun May 01, 2022 04:04, ทั้งหมด 6 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ