ทวงคืนฝูง!! 'เรือ' กดครึ่งหลังไม่ซ้ำหน้าอัดไบรจ์ตัน 3-0
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไม่มีพลาดแต่กว่าจะได้ประตูก็ต้องรอถึงครึ่งหลังจากการแบ่งกันยิงของ ริยาด มาห์เรซ, ฟิล โฟเดน และปิดท้ายที่ แบร์นาร์โด้ ซิลวา ส่ง เรือใบสีฟ้า คว้าชัยเหนือ ไบรจ์ตัน 3-0 แซง ลิเวอร์พูล กลับไปครองจ่าฝูงอีกครั้งนำหน้า 1 แต้มตามเดิม
แมนเชสเตอร์ ซิตี้
Starting Formation: 4-2-3-1
5.
จอห์น สโตนส์
77'
6.0
6.
นาธาน อาเก้
45'
5.5
17.
เควิน เดอ บรอยน์
83'
8.5
ตัวสำรอง
3.
รูเบน ดิอาส
45'
6.0
11.
โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้
77'
-
9.
กาเบรียล เชซุส
83'
-
ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก
สนาม เอติฮัด สเตเดี้ยม
วันที่ 20 เมษายน 2565
กรรมการ ไมค์ ดีน
แมนเชสเตอร์ ซิตี้
3
0
ไบรจ์ตัน
1-0 มาห์เรซ 53'
2-0 โฟเดน 65'
3-0 ซิลวา 82'
แมนฯ ซิตี้ โรเตชั่นเอาตัวหลักๆกลับมารวมถึง เดอ บรอยน์ ฟื้นกลับมาลงสนามได้อีกครั้ง ส่วนแดนหน้าเลือกใช้ โฟเดน ขยับไปยืนแต่แนวรับ ดิอาส ยังไม่พร้อมสำหรับการคัมแบ็คตัวจริง
ทางด้าน ไบรจ์ตัน ไม่มี บิสซูม่า ในแดนกลางและ ทรอสซาร์ด ก็ไร้ชื่อเลยส่ง มาร์ช กับ เวลเบ็ค ลงสนามแทนที่
ช่วงแรกเรือบุกเข้าใส่ยังไม่ได้โอกาสดีๆเท่าไหร่
ตั้งแต่เริ่มเกมมาก็เป็น แมนฯ ซิตี้ บุกเยอะกว่าตามเนื้อผ้าแต่จังหวะจบแบบให้ลุ้นตัวเกร็งยังไม่มา มีให้หวือหวาหน่อยก็จาก โฟเดน ทางซ้ายครอสมาในเขตโทษสูงไปนิด มาห์เรซ โหม่งโดนบางเฉียบไม่ได้พุ่งหาประตู
เกือบแจกโชค! ซานเชซ เตะเข้าทาง มาห์เรซ แต่โดนสกัดทัน
เล่นไปเล่นมา ไบรจ์ตัน เกือบแจกโชคให้ ซิตี้ เสียแล้วหลังไล่กดดันถึงเขตโทษแล้ว ซานเชซ รีบเตะเปิดเกมพลาดไปเข้าทาง มาห์เรซ หน้าเขตโทษต้องแต่งบอลก่อนเลยช้าไปถูกสไลด์สกัดทันไม่งั้นใส่สกอร์ไปแล้ว
คันเซโล่ ลองยิงไกลโด่งออกหลัง
แมนฯ ซิตี้ พยายามหาทางเจาะไปลุ้นประตูแต่เกมรับของ ไบรจ์ตัน ยังดีอยู่ทำให้ คันเซโล่ ตัดสินใจลองยิงไกล 30 หลาดูแต่ก็โด่งออกหลังไม่ได้ลุ้น
เรือลุยมาใหม่! KDB ยิงหน้าเขตโทษหลุดเสา
เรือใบ ได้ทีบุกกลับมาลุ้นกันอีกครั้งหลังจาก เดอ บรอยน์ รับบอลกลางสนามแล้วพาขึ้นมาก่อนทำชิ่งมาหน้าเขตโทษแล้วตัดสินใจซัดเองเลยออกเสาแรกไปหน่อย
เรือบุกกลับอีกรอบ แบร์นาร์โด้ ยิงสามเหลี่ยมยังถูกปัด
ยังคงมาอย่างต่อเนื่องสำหรับ แมนฯ ซิตี้ หลังรีบทำเกมสวนกลับไว เอแดร์ซอน ขว้างให้ โฟเดน ก่อนจ่ายต่อ เดอ บรอยน์ พาบอลถึงเขตโทษแล้วส่งให้ แบร์นาร์โด้ หาช่องเข้าซ้ายยิงโค้งๆไปสามเหลี่ยมแต่ ซานเชซ เอื้อมปัดไว้
เรือเพรสซิ่งแย่งบอลได้แต่ กุนโดกาน ซัดติดบล็อก
ขยับเข้าสู่ท้ายครึ่งแรก ซิตี้ กดดันต่อเนื่องใช้เกมเพรสซิ่งแย่งบอลกลับมาได้หน้าเขตโทษส่งต่อ กุนโดกาน ในกรอบตัดสินใจยิงเองแต่ก็ถูกบล็อก
หลังจากนั้นแม้ ซิตี้ จะมาขึงถึงเขตโทษพักนึงแต่ก็ยังทำอะไรมากไม่ได้ก็เลยเสมอไปแบบยังไม่มีสกอร์ลุ้นต่อครึ่งหลัง
ได้เสียว! เตะมุมเรือถึง โรดรี้ ยิงแฉลบออก
ต่อครึ่งหลัง แมนฯ ซิตี้ มาได้ช่วงกดดันจากลูกเตะมุมเป็นการเปิดจากซ้ายเข้าไปกลางเขตโทษถึง โรดรี้ โล่งๆได้ยิงแล้วบอลไปแฉลบนิดเลยออกเสาสองไป
มาจนได้!! เรือสวนกลับบอลถึง มาห์เรซ ยิงแฉลบออกนำ
แล้วให้หลังจากนั้นแค่อึดใจ แมนฯ ซิตี้ ก็เอาประตูนำสำเร็จด้วยเกมโต้กลับ กุนโดกาน จ่ายให้ เดอ บรอยน์ ลุยพาบอลขึ้นมาโดนดึงโดนเสียบบอลเด้งไปมาสุดท้ายเข้าทาง มาห์เรซ เข้าเขตโทษไปยิงแฉลบเข้าประตู แมนฯ ซิตี้ ออกนำ 1-0
เตะมุมไบรจ์ตันพอได้ลุ้น เวลเบ็ค โหม่งเข้าซอง
เตะมุมทางซ้ายของ ไบรจ์ตัน พอได้ลุ้นเปิดมาเสาแรกแล้วมี เวลเบ็ค วิ่งถอยมาโหม่งเสยแต่ก็ส่งบอลเข้าซอง เอแดร์ซอน
KDB ลองยิงไกลก็โดนเซฟเอาไว้ได้
กลับมาเป็นโอกาสของ เรือใบ อีกครั้งหลังรับบอลจาก มาห์เรซ ทางขวาด้วยการเลี้ยงเข้าซ้ายแล้วขอยิงไกล 25 หลาแต่ยังไม่ยากเกินมือ ซานเชซ เซฟไม่มีปัญหา
โชคช่วยอีก! โฟเดน ยิงไกลแฉลบเข้าเรือทิ้งห่าง
แมนฯ ซิตี้ โล่งขึ้นแล้วมาเอาประตูทิ้งห่างสำเร็จด้วยเตะมุมทางขวา มาห์เรซ จ่ายมาให้ โฟเดน หน้าเขตโทษตัดสินใจยิงไกลแล้วบอลไปแฉลบอีกทำเอา ซานเชซ ขาตายได้แต่มองดูบอลเข้าประตู แมนฯ ซิตี้ นำเพิ่ม 2-0
เรือมาใหม่ โฟเดน วอลเล่ย์โดนบล็อก
เจ้าบ้านทำเกมมาน่ากลัวอีกแล้วหลังจาก มาห์เรซ สอดไปเปิดจากสุดเส้นหลังข้ามมาเสาไกลมี โฟเดน ว่างๆรออยู่ตั้งเท้ารอก่อนวอลเล่ย์ไปโดนบล็อกทัน
เรือมาอีก โฟเดน ยิงติดเซฟแต่ก็ล้ำหน้า
มีโอกาสให้ แมนฯ ซิตี้ บวกประตูเพิ่มอีกแล้วหลัง เอแดร์ซอน เปิดยาวให้ เดอ บรอยน์ ก่อนแทงต่อส่ง โฟเดน หลุดเข้าเขตโทษทางซ้ายไปซัดติดเซฟ แบร์นาร์โด้ วิ่งมาเก็บบอลได้ยองีกทีก็เจอบล็อกก่อนจะมีธงล้ำหน้าตามมา
ปิดกล่อง! KDB ดีดให้ แบร์นาร์โด้ ยิงไม่ต้องจับฝังลูกสาม
แล้วท้ายเกมก็มามีประตูปิดท้ายให้กับ แมนฯ ซิตี้ เริ่มจากที่บอลถูกสาดยาวออกมา ซินเชนโก้ ออกมาสกัดบอลไปเข้าทาง เดอ บรอยน์ หน้าเขตโทษดีดต่อให้กับ แบร์นาร์โด้ วิ่งมายิงไม่เหลือกลายเป็น 3-0
จบเกม แมนฯ ซิตี้ ไม่พลาดเอาชนะ ไบรจ์ตัน 3-0 ยืดผลงานเป็นไร้พ่าย 6 นัดหลังสุดในลีกและทำให้พวกเขาได้กลับไปนำจ่าฝูงพรีเมียร์ลีกอีกครั้งนำหน้า ลิเวอร์พูล แต้มเดียวตามเดิม
ไบรจ์ตัน
Starting Formation: 3-4-3
2.
ทาริก แลมป์ตีย์
61'
6.0
25.
มอยเซส ไซเซโด้
73'
5.5
10.
อเล็กซิส มัก อัลลิสเตร์
5.0
18.
แดนนี่ เวลเบ็ค
77'
5.0
ตัวสำรอง
4.
อดัม เว็บสเตอร์
61'
5.5
60.
เจเรมี่ ซาร์เมียนโต้
73'
5.5
9.
นีล โมเปย์
77'
-
แก้ไขล่าสุดโดย redenzo เมื่อ Thu Apr 21, 2022 04:24, ทั้งหมด 6 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ
: 0 ใบ
My Locker