ราฮีมยิง+จ่าย "สิงโต" ส่งท้ายพักเบรคสอยช้างดำ 3-0
ทีมชาติอังกฤษ ส่งท้ายช่วงพักเบรคด้วยการเปิดสนามเวมบลีย์ของพวกเขาเอาชนะ ไอวอรี่ โคสต์ ที่โดนใบแดงเหลือ 10 คนตั้งแต่ช่วงครึ่งแรก 3-0 โดยได้ทีเด็ดอย่าง ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ที่โชว์ฟอร์มโดดเด่นทั้งยิงและจ่าย
อังกฤษ
Starting Formation: 3-4-3
2.
เบน ไวท์
46'
8.
เจมส์ วอร์ด-เพราส์
80'
3.
ไทริก มิตเชลล์
62'
7.
ราฮีม สเตอร์ลิ่ง
62'
9.
โอลลี่ วัตกิ้นส์
62'
11.
แจ็ค กรีลิช
62'
ตัวสำรอง
12.
ลุค ชอว์
62'
17.
ไคล์ วอล์คเกอร์-ปีเตอร์ส
46'
18.
ฟิล โฟเด้น
62'
20.
แฮร์รี่ เคน
62'
21.
คอเนอร์ กัลลาเกอร์
80'
23.
เอมิล สมิธ โรว์
62'
ฟุตบอลกระชับมิตร
สนาม เวมบลีย์
อังคาร ที่ 29 มีนาคม 2565
กรรมการ เอริค ลัมเบร็คท์
อังกฤษ
3
0
ไอวอรี่ โคสต์
1-0 โอลลี่ วัตกิ้นส์ 30'
2-0 ราฮีม สเตอร์ลิ่ง 45'
3-0 ไทโรน มิงส์ 90+3'
อังกฤษ วันนี้เปลี่ยน 10 ตำแหน่งจากเกมอุ่นเครื่องที่ชนะ สวิตเซอร์แลนด์ 2-1 เมื่อวันเสาร์ มีเพียง เบน ไวท์ ที่จะได้ลงสนามต่อและจะได้ เอมิล สมิธ โรว์ หายเจ็บกลับมามีชื่อเป็นสำรอง
ส่วน ไอวอรี่ โคสต์ ที่เพิ่งอุ่นเครื่องแพ้ให้กับ ฝรั่งเศส เมื่อวันศุกร์ วันนี้จะไม่มีชื่อของแนวรุกตัวเก่งอย่าง วิลฟรีด ซาฮา
เริ่มเกมได้ 10 นาที ยังไม่มีจังหวะจะแจ้ง
เกมเริ่มมาได้ประมาณ 10 นาที เป็นฝั่งเจ้าบ้านครองบอลบุกต่อเนื่องพาบอลเข้าพื้นที่อันตรายได้หลายครั้งแต่จังหวะสุดท้ายส่วนใหญ่ยังยิงไปติดบล็อคไม่ได้ลุ้นอะไร
เบลลิงแฮม ชิ่งเข้าไปซัดอย่างสวยแต่ยังติดเซฟ!
จังหวะที่น่าได้ประตูขึ้นนำของเจ้าบ้าน กรีลิช พาบอลมาทางซ้ายแล้วแทงให้ เบลลิงแฮม หน้ากรอบฝากให้ สเตอร์ลิ่ง ก่อนจะได้บอลชิ่งหลุดกลับมาถึงหน้าเสาแรกแล้วได้ซัดติดเซฟ ซันกาเร่ ชนเสาแล้วเด้งออกมา
กรีลิช ล็อคเข้ามาซัดเองก็ยังไม่ผ่าน ซันกาเร่
จังหวะนี้ วอร์ด-เพราส์ หน้ากรอบฝั่งขวาโยนบอลมาให้ กรีลิช ข้างกรอบฝั่งซ้ายได้พาบอลโยกตัดเข้ามาในกรอบแล้วซัดเสาแรกแต่ก็ยังไม่ผ่าน ซันกาเร่ ล้มตัวรับได้ทัน
สเตอร์ลิ่ง กระดกซัดอย่างสวยบอลติดบล็อค
จากจังหวะที่ ไรซ์ ยกบอกมาให้ สเตอร์ลิ่ง ในกรอบฝั่งขวาได้กระดกบอลด้วยขวาหนึ่งจังหวะแล้วซัดด้วยซ้ายเต็มๆ บอลสุดท้ายยังไปติดบล็อคออกหลัง
วัตกิ้นส์ ชาร์จจ่อๆ! สิงโตนำแล้ว 1-0
เจ้าบ้านโหมบุกพักใหญ่แล้วมาได้ประตูขึ้นนำจนได้จากจังหวะที่ สเตอร์ลิ่ง เบียดบอลได้ในกรอบฝังซ้ายก่อนจะล็อคหาจังหวะเข้าสุดเส้นแล้วเปิดเข้ากลางผ่านมาถึง วัตกิ้นส์ วิ่งมาแปหน้าเส้นโล่งๆ ไม่เหลือ
ไรซ์ ได้ขึ้นโขกเต็มๆ เข้ามือ ซันกาเร่
จากฟรีคิกนอกกรอบฝั่งขวาของเจ้าบ้าน วอร์ด-เพราส์ เปิดเข้ามาตรงกลางให้ ไรซ์ ได้ขึ้นโขกเต็มๆ แต่บอลสุดท้ายยังไม่ผ่าน ซันกาเร่ รับติดมือ
อุ่นเครื่องยังแดง! โอริเยร์ โดนเหลืองสองไล่ออกไปเฉย
เกมอุ่นเครื่องเหมือนจะไม่มีอะไรแต่ โอริเยร์ ดันมาโดนใบเหลืองสองใบหลังทำฟาวล์แล้วไปโวยผู้ตัดสินจนกลายเป็นใบแดงไล่ออกจากสนามไปเลย
สเตอร์ลิ่ง จิ้มไม่เหลือ! เจ้าบ้านนำสบาย 2-0
อังกฤษ มาได้ประตูนำห่างจากจังหวะที่ สเตอร์ลิ่ง ได้บอลลากมาตรงกลางแล้วซัดไปติดเซฟ ซันกาเร่ เด้งออกมาเข้าทาง กรีลิช ในกรอบฝั่งซ้ายตบเข้ากลางให้เจ้าตัวซ้ำเข้าไปไม่เหลือ
เปาให้จุดโทษเจ้าบ้านก่อนเช็ค VAR แล้วเปลี่ยนใจ
เริ่มครึ่งหลังมามีจังหวะที่ คูลิบาลี ไปทำฟาวล์ กรีลิช ในกรอบเขตโทษผู้ตัดสินเป่าให้เป็นจุดโทษก่อนจะฟังสัญญาณ VAR แล้วยกเลิก
ครึ่งหลังเจ้าบ้านยังครองบอลบุกแต่ไม่มีอะไรมาก
ครึ่งหลังเจ้าบ้านที่ตัวผู้เล่นมากกว่าก็ยังพยายามบุกเหมือนเดิมแต่จังหวะสุดท้ายยังไม่มีอะไรให้ลุ้นเพิ่ม แถมเริ่มเปลี่ยนตัวออกไปพักทั้งสองฝั่ง
แม็คไกวร์ ลอยมาโขกบอลหลุดไปเอง
จากเตะมุมฝั่งซ้ายของเจ้าบ้าน วอร์ด-เพราส์ เปิดเข้ามาให้ แม็คไกวร์ สอดเข้ามาโขกกลางประตูบอลติดบล็อคมาโดนหัวตัวเองออกหลังไปไม่ได้ลุ้นอะไร
วอร์ด-เพราส์ ลองส่องเองบ้างบอลเฉียดคานนิดเดียว
คราวนี้ วอร์ด-เพราส์ มาจังหวะได้บอลหน้ากรอบตรงหัวกระโหลกแล้ววางเท้าขวาส่องเองบ้าง บอลสุดท้ายพุ่งเหินข้ามคานออกไปนิดเดียว
เดลี่ วิ่งมาซัดกลางประตูบอลข้ามคาน
โอกาสใกล้เคียงที่สุดในเกมของทีมเยือนจากฟรีคิกนอกกรอบฝั่งขวา เซรี เปิดเข้ามาให้ เดลี่ สอดมาซัดด้วยขวากลางประตูแต่บอลยังแรงเหินข้ามคาน
โฟเด้น ลากมาลองซัดเองบอลข้ามคาน
โฟเด้น ที่ลงมาเป็นตัวสำรองครึ่งหลังมาโอกาสลองลากบอลจากขวามาซัดด้วยซ้ายหน้ากรอบแต่บอลยังเหินข้ามคานออกไปไม่ได้ลุ้น
ยังมีอีก! มิงส์ โขกปิดท้าย สิงโตปิดเกม 3-0
เกมจะจบอยู่แล้วแต่เจ้าบ้านยังมาได้เตะมุมฝั่งซ้ายแล้วเป็น โฟเด้น เปิดเข้ามาให้ มิงส์ กลางประตูได้โขกกดลงพื้นเข้าไปไม่เหลือ
จบเกม สิงโต ส่งท้ายพักเบรคชนะ 3-0
ทีมชาติอังกฤษ ส่งท้ายช่วงพักเบรคด้วยการเปิดสนามเวมบลีย์ของพวกเขาเอาชนะ ไอวอรี่ โคสต์ ที่โดนใบแดงเหลือ 10 คนตั้งแต่ช่วงครึ่งแรก 3-0 ก่อนจะกลับมาเล่นทีมชาติอีกครั้งช่วงเดือนมิถุนายน
ไอวอรี่ โคสต์
Starting Formation: 4-3-3
21.
เอริค ไบญี่
46'
11.
มักซ์เวล คอร์เนต์
64'
4.
ฌ็อง มิเชล เซรี
90+3'
19.
นิโคลัส เปเป้
46'
22.
เซบาสเตียน อัลแลร์
86'
15.
มักซ์ กราเดล
46'
ตัวสำรอง
3.
กีสแล็ง โคนัน
64'
5.
เอ็มมานูเอล อักบาดู
46'
6.
วิลลี่ โบลี่
46'
12.
ฟุสเซนี่ คูลิบาลี่
46'
20.
พอล อคูโอคู
90+3'
28.
โยฮัน โบลี
86'
แก้ไขล่าสุดโดย Salinger เมื่อ Wed Mar 30, 2022 06:10, ทั้งหมด 11 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ