ห้อยพระวัดไหน!? โชต้าโผล่ยิง 'หงส์' แทบอ้วกเฉือนเจ้าป่า 1-0 ทะลุชนเรือ
BLOG TOPIC_A
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email:
sale@soccersuck.com
โปรโมชั่นลดจากเดิม 30% (ไม่รับโฆษณาผิดกฏหมายทุกประเภท)
ลิเวอร์พูล งานหยาบงานเหนื่อยไม่น้อยเมื่อพวกเขาบุกไปเฉือน น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ 1-0 ชนิดหวิดจะโดนก่อนแต่มาได้ทีเด็ดที่ คอสตาส ซิมิคาส ครอสให้ ดิโอโก้ โชต้า ซัดประตูชัยนาที 78 พร้อมกับกรุยทางเข้ารอบคัดเชือกเอฟเอคัพ 2021/22 ไปเจอกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในวันที่ 16 เมษายนนี้
น็อตติงแฮม ฟอเรสต์
Starting Formation: 4-2-3-1
8.
แจ็ค โคลแบ็ค
90+1'
6
11.
ฟิลิป ซิงเคอ์นาเกล
77'
6
23.
โจ โลลลีย์
65'
7
9.
เคนาน เดวิส
77'
6
ตัวสำรอง
16.
แซม เซอร์ริดจ์
77'
6
19.
ซานเด ซิลวา
90+1'
-
18.
คาฟู
65'
6
17.
อเล็กซ์ ไมจ์เทน
77'
6
เอฟเอคัพ รอบก่อนรองชนะเลิศ
สนาม เดอะ ซิคี้ กราวน์
อาทิตย์ที่ 21 มีนาคม 2565
กรรมการ เคร็ก พอว์สัน
น็อตติงแฮม ฟอเรสต์
0
1
ลิเวอร์พูล
หงส์โรเตชั่น 7 ตำแหน่ง
เกมคู่สุดท้ายของรอบก่อนรองชนะเลิศ ลิเวอร์พูลบุกไปเล่นในระบบ 4-3-3 มีการโรเตชั่นถึง 7 ตำแหน่งจากเกมบุกชนะอาร์เซนอลในลีกเมื่อกลางสัปดาห์ เกมนี้พวกเขาไม่มีตัวเเจ็บอย่าง ซาลาห์,เทรนท์ ขณะที่ มาติป,โรเบิร์ตสัน มีอาการป่วย ทำให้ JK ใช้ ซิมิคาส,โกเมซ ยืนคู่วิงแบ็คซ้ายขวา ขณะที่ โคนาเต้ ประจำการคู่หลังกับ ฟาน ไดจ์ค ตรงกลาง ฟาบินโญ่ ยืนคุมโดยมี เกอิต้า,OX หนุนเกมรุก แดนหน้าสามตัวเป็น โชต้า,ฟิร์มิโน๋,เอลเลียตต์
ฟอเรสต์เกมนี้จะไม่มีตัวเจ็บอย่าง โลว์,คุ๊ก รวมถึงดาวซัลโวประจำทีมอย่าง แกรบแบน
วันนี้ในระบบ 4-2-3-1 เดวิส ยืนค้ำหน้า ซิงเกอร์นาเกล ฟิตกลับมายืนหนุนเกมรุกร่วมกับ จอห์นสัน,โลลลีย์
• เจอกันครั้งสุดท้ายเมื่อปี 1999 ในศึกพรีเมียร์ลี ลิเวอร์พูล บุกเสมอ 2-2
• เจอกัน 9 นัดหลัง ลิเวอร์พูล ชนะ 4 เสมอ 4 แพ้ 1
• ฟอเรสต์ ไม่แพ้ 9 นัดติดทุกรายการ(ชนะ 6 เสมอ 3)
• ลิเวอร์พูลแพ้แค่ 1 จาก 18 นัดหลังทุกรายการ
ต้นเกมสู้กันสนุกเลย
ต้นเกมทั้งสองฝั่งสู้กันสนุกและมีจังหวะเอาบอลไปป้วนเปี้ยนหวาดเสียวในกรอบเขตโทษคู่แข่งได้ แต่ยังไม่มีจังหวะได้จบแบบจะแจ้งกันเลย
ซิมิคาสเติมวอลเลย์ข้ามคาน
หงส์แดงเริ่มครองเกมได้และจังหวะนี้มีลุ้นเมื่อฟิร์มิโน่ดีดบอลให้ซิมิคาสเติมขึ้นมารับหน้ากรอบเขตโทษฝั่งซ้าย เขาพื้นที่ลองวอลเลย์ด้วยซ้ายพุ่งแรงผ่านมือฮอร์วาธแต่ข้ามคานไป
เจ้าป่าได้ลุ้นคืนบ้าง
เจ้าป่าสวนขึ้นมาแล้วได้จบเหมือนกัน จังหสะที่ต่อบอลกันมาแล้วถึงเยตส์ได้เหลี่ยมวางเท้าซัดด้วยขวาหน้ากรอบแฉลบออกหลังเป็นเตะมุม แล้วจากจังหวะเตะมุมฝั่งหงส์แดงเคลียร์ไม่ขาดเข้าทางการ์เนอร์ที่ได้วอลเลย์จากแถวสองแต่ก็ข้ามคานไปอีก
โชต้าสับอีกซ้ายยังไม่ผ่านฮอร์วาธ
จังหวะได้ลุ้นจบอีกครั้งของลิเวอร์พูล เป็นบอลที่โชต้าลงซัดเร็วด้วยซ้ายจากหน้ากรอบเขตโทษ บอลพุ่งตรงกรอบแต่ก็ไปตรงตัวติดเซฟฮอร์วาธ
ฟาบินโญ่ตวัดยิงหลุดกรอบ
อีกครั้งของทีมเยือน คราวนี้เป็นจังหวะลูกเตะมุมทางฝั่งขวาที่อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลนเปิดพุ่งเรียดไปที่เสาแรกให้ฟาบินโญ่ตวัดยิง แต่บอลก็พุ่งเรียดหลุดเสาสองไป
เจ้าป่าสวนได้จบอีกแล้ว
ฟอเรสต์เล่นเกมสวนกลับแล้วได้จบอีกครั้ง จังหวะที่โลลลีย์ได้บอลกระชากมาทางหน้ากรอบฝั่งขวากแล้วล็อคตัดเข้าซ้ายก่อนซัดพุ่งเรียดหลุดเสาแรกไป
ฟีโน่หลุดเดี่ยวกะเอาเหนือ
โอกาสทองของหงส์แดงที่จะได้ประตูขึ้นนำ จังหวะที่เหมือนจะไม่มีอะไรฝั่งฟอเรสต์พลาดเสียบอลตรงกลางสนามแล้วอ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลนไหลให้ฟิร์มิโน่หลุดเดี่ยวไปในกรอบเขตโทษ เขายกบอลกะยิงเหนือแต่ไปติดเซฟฮอร์วาธ บอลลอยโด่งไม่ไปไหนแล้วฟิร์มิโน่พยายามโขกซ้ำแต่ก็เบาและโดนวอร์รอลล์เคลียร์ทิ้งจากหน้าประตู
โกเมซเติมหวดข้ามคาน
หงส์แดงครองเกมและได้ลุ้นอีกครั้งก่อนจบครึ่งแรก เป็นจังหวะที่ซิมิคาสเปิดบอลลึกเข้าไปในกรอบฝั่งขวาแล้วเอลเลียตต์พยายามเกี่ยวกลับมาได้และเป็นโกเมซวิ่งเติมมาวอลเลย์ด้วยขวาแบบไม่จับ แต่บอลปลิวข้ามคานไป
สุดท้ายจบครึ่งแรกยังไม่มีประตูเกิดขึ้น แต่ลิเวอร์พูลครองบอลและมีโอกาสทองจากจังหวะหลุดเดี่ยวของฟิร์มิโน่แต่ยิงไปติดเซฟฮอร์วาธ
โชต้าได้ซัดยังไม่คมพอ
เริ่มครึ่งหลังฟอเรสต์เล่นได้ดีขึ้นแต่โอกาสลุ้นครั้งแรกเป็นของฝั่งลิเวอร์พูล จากจังหวะที่โชต้าซัดด้วยขวาริมกรอบเขตโทษ แต่บอลก็ยังไปติดเซฟฮอร์วาธ
OX ลองบ้างยังแฉลบ
หงส์แดงตัดได้แล้วทำเร็วได้ลุ้นอีกครั้งจากจังหวะที่เกอิต้าไหลให้อ็อกเลด-แชมเบอร์เลยซัดด้วยขวาในกรอบเขตโทษแต่ยังแฉลบไปเข้ามือฮอร์วาธ
อยู่ไม่ไหว!หงส์เปลี่ยนทีเดียว 4 ตัว
ลิเวอร์พูลชิงแก้เกมก่อนเลยโดย JK เปลี่ยนตัวทีเดียว 4 คน โดยถอดแผงมิดฟิลด์ทั้ง ฟาบินโญ่,เกอิต้า,อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลย,เอลเลียตต์ ออกไปและส่ง ธิอาโก้,เฮนเดอร์สัน,มินามิโนะ,ดิอาซ ลงไปเล่น ฝั่งฟอเรสต์ก็เปลี่ยน 1 คนคือ คาฟู ลงไปเล่นแทน โลลลีย์ ในแผงเกมรุก
หงส์รอด!ซิงเกอร์นาเกลชาร์จจ่อหลุดกรอบ
แฟนหงส์ใจหายกันถ้วนหน้าเมื่อพวกเขาเกือบฟอเรสต์ยิงประตูได้ จังหวะที่จอห์นสันลากบอลขึ้นมาทางฝั่งขวาก่อนเปิดพุ่งเรียดไปหน้าประตูแล้วถึงซิงเกอร์นาเกลที่โฉบมาชาร์จย้อนศรผ่านมืออลิสซอนไปแล้วแต่หลุดกรอบออกหลังไปหวุดหวิด
จนได้!โชต้าชาร์จเสาสองไม่เหลือ 1-0 หงส์นำแล้ว
หลังจากเกือบโดน ลิเวอร์พูลพลิกสถานการณ์มาได้ประตูขึ้นนำเลยจากจังหวะที่ซิมิคาสกระชากบอลขึ้นมทางริมเส้นฝั่งซ้ายถึงมุมกรอบเขตโทษ ก่อนที่จะแต่งเข้าขวาแล้วเปิดพุ่งไปเสาสองให้โชต้าโฉบแหย่เท้าขวาจิ้มบอลสวนฮอร์วาธตุงตาข่าย 1-0 ไปเลย ตอนแรกดูเหมือนว่าเขาจะล้ำหน้าไปก่อนแต่ผู้ตัดสินเช็ค VAR แล้วไม่มีปัญหา
จารย์!เจ้าป่าฟ้องจะเอาจุดโทษ
เจ้าถิ่นพยายามฟ้องเอาจุดโทษในจังหวะที่เยตส์หลุดไปในกรอบเขตโทษแล้วแตะบอลหลบอลิสซอนแล้วเหมือนจะโดนกวาดไปที่เท้าทำให้เสียหลักพลาดโอกาสยิง แต่หลังจากเช็ค VAR ดูเหมือนว่าเขาจะพยายามกวาดขวาให้โดนอลิสซอนมากกว่า
เยตส์โขกเน้นๆตรงตัวอลิสซอน
โอกาสทองที่จะเป็นประตูตีเสมอของเจ้าถิ่น จังหวะที่จอห์นสันพลิ้วมาทางกรอบฝั่งขวาก่อนโยกเปิดไปทีหน้าประตูให้เยตส์เทคโหม่งเน้นๆ แต่บอลดันไปตรงตัวติดเซฟอลิสซอน
คาฟูกดข้ามคาน หงส์ยังรอด
อีกครั้งที่ลิเวอร์พูลยังรอดเสียประตู จังหวะที่คาฟูหลุดได้บอลทางกรอบฝั่งขวาก่อนซัดเน้นๆพุ่งแรงข้ามคานหวุดหวิด
โชต้าซัดส่งท้ายข้ามคาน
ช่วงทดเจ็บหงส์แดงหวุดหวิดจะโดนก่อนตั้งหลักได้ในช่วงก่อนจบเกม จังหวะนี้โชต้าได้ซัดด้วยขวานอกกรอบเขตโทษแต่บอลก็พุ่งแรงข้ามคานไป
หงส์ตามนัดชนแมน ซิตี้
สุดท้ายจบเกมเป็นลิเวอร์พูลบุกไปเอาชนะได้หวุดหวิด 1-0 จากประตูในนาที 78 ของโชต้า ทำให้ผ่านเข้ารอบตัดเชือกไปเจอกับของแข็งอย่างแมน ซิตี้
ลิเวอร์พูล
Starting Formation: 4-3-3
3.
ฟาบินโญ่
64'
7
15.
อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน
64'
6.5
8.
นาบี เกอิต้า
64'
6.5
67.
ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์
64'
6
ตัวสำรอง
23.
หลุยส์ ดิอาซ
64'
6
6.
ธิอาโก้ อัลคันทาร่า
64'
6
18.
ทาคุมิ มินามิโนะ
64'
6.5
14.
จอร์แดน เฮนเดอร์สัน
64'
6
404: Not Found
แก้ไขล่าสุดโดย MEGITSAMA เมื่อ Mon Mar 21, 2022 03:07, ทั้งหมด 8 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ