ปิดจ๊อบเบาๆ.. "เรือ" เคาะบอลเจ๊าสปอร์ติ้ง 0-0 เข้ารอบ 8 ทีม
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่บุกไปเก็บสกอร์จาก สปอร์ติ้ง ลิสบอน ในนัดแรกมาแล้ว 5-0 วันนี้กลับมาเล่นในบ้านโรเตชั่นครึ่งทีมเล่นสบายๆ จบเกมเสมอกันไป 0-0 รองแชมป์เก่าผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายไปด้วยสกอร์รวม 5-0
แมนเชสเตอร์ ซิตี้
Starting Formation: 4-3-3
31.
เอแดร์ซอน
73'
7
14.
อายเมริก ลาปอร์ต
84'
7
11.
โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้
7
20.
แบร์นาร์โด้ ซิลวา
46'
6.5
47.
ฟิล โฟเด้น
46'
6.5
ตัวสำรอง
33.
สก็อตต์ คาร์สัน
73'
6.5
26.
ริยาด มาห์เรซ
46'
6.5
79.
ลุค เบเต้
84'
-
87.
เจมส์ แม็คอาตี้
46'
7
ฟุตบอลแชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดที่สอง
สนาม เอติฮัด สเตเดี้ยม
พุธ ที่ 9 มีนาคม 2565
กรรมการ ฮาลิล เมเลร์
แมนเชสเตอร์ ซิตี้
0
0
สปอร์ติ้ง ลิสบอน
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ผ่านเข้ารอบด้วยสกอร์รวมชนะ 5-0
เจ้าบ้าน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่โอกาสเข้ารอบแทบจะลอยลำหลังบุกไปชนะ สปอร์ติ้ง ลิสบอน มาก่อน 5-0 วันนี้จะเปลี่ยน 6 ตำแหน่งจากเกมลีกสุดสัปดาห์ที่เปิดบ้านชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 4-1
แบ็คสองข้างจะใช้เป็น โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ กับแข้งดาวรุ่งอย่าง ซี เจ อีแกน-ไรลีย์ ตรงกลางจะเลือกเป็น แฟร์นานดินโญ่ กับ อิลคาย กุนโดกาน ส่วนแนวรุกจะเป็นโอกาสของ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง และ กาเบรียล เชซุส
เรือ โหมบุกนวดไปเรื่อยแต่ยังไม่มีโอกาสลุ้น
เกมเริ่มมา 10 นาที เจ้าบ้านที่สกอร์รวมขาดไปแล้วยังคงเป็นฝ่ายครองเกมบุกฝั่งเดียว ทีมเยือนได้แค่ตั้งรับเหมือนเดิมแต่จังหวะสุดท้ายก็ยังไม่มีโอกาสได้จบทั้งคู่
เปาลินโญ่ ฟาดใส่หน้า ลาปอร์ต โดนเหลืองแรก
เกมยังไม่มีจังหวะอะไรมากแล้วเป็น เปาลินโญ่ ที่มาโดนใบเหลืองก่อนจากจังหวะที่เข้าบอลช้าแล้วมือไปฟาดใส่หน้า ลาปอร์ต เลยโดนใบเหลืองไปก่อน
สลิมานี่ กระชากหลุดไปกลางสนามแต่ยังทำอะไรไม่ได้
จังหวะนี้ทีมเยือนได้สวนกลับ สลิมานี่ ได้บอลกลางสนามแล้วได้กระชากหลุดไปถึงสุดเส้นขวาแต่จังหวะสุดท้ายทำอะไรไม่ได้เสียบอลอยู่ดี
โฟเด้น ซัดทักทายติดเซฟ อาดาน
โอกาสแรกในเกมเป็นของเจ้าบ้าน โฟเด้น ได้บอลจาก กุนโดกาน หน้ากรอบตรงหัวกระโหลกก่อนจะวางเท้าซัดด้วยซ้ายบอลแฉลบกองหลังทีมเยือนเข้ากรอบแต่ อาดาน ยังพุ่งปัดออกไปไม่มีปัญหา
ลาปอร์ต ได้โขกบ้างบอลไม่เข้าเป้า
จากจังหวะฟรีคิกนอกกรอบของเจ้าบ้าน โฟเด้น เปิดเข้ามาให้ ลาปอร์ต ได้ขึ้นโขกหน้าปากประตูแต่บอลยังหลุดเสาซ้ายออกไปไม่ได้
สเตอร์ลิ่ง หลุดมาชิปติดเซฟ อาดาน
จังหวะนี้ เชซุส หน้ากรอบแทงบอลให้ โฟเด้น หลุดเข้าไปในกรอบฝั่งซ้ายก่อนจะพยายามยกบอลข้ามตัว อาดาน แต่ยังไม่พ้นโดนปัดได้ปลายมือ
เชซุส สอดไปซัดหายแต่ VAR ยกเลิกประตู
เริ่มครึ่งหลังมา มาห์เรซ ตัวสำรองแทงบอลหน้ากรอบให้ เชซุส หลุดเข้าไปทางฝั่งขวาก่อนจะซัดมุมแคบผ่านตัว อาดาน เข้าไปไม่เหลือแต่ VAR เช็คแล้วล้ำหน้าไปก่อนนิดเดียว
เชซุส ได้ซัดอีกก็ยังไม่ผ่าน อาดาน
จังหวะนี้เป็น เชซุส คนเดิมได้บอลจาก แม็คอาตี้ เข้ามาในกรอบฝั่งซ้าสก่อนจะได้ซัดด้วยขวาแต่บอลสุดท้ายก็ยังไปติดเซฟ อาดาน ตามาคว้าเข้ามือไม่มีปัญหา
ทาบาต้า ซัดโอกาสแรกเข้าซอง เอแดร์ซอน
โอกาสแรกของทีมเยือนจากจังหวะสวนกลับ ทาบาต้า ได้บอลจาก ซาราเบีย ในกรอบฝั่งขวาก่อนจะซัดเองแต่โดนไม่ดีบอลไปเข้ามือ เอแดร์ซอน รับติดมือสบาย
เอ็ดเวิร์ดส ลงมาได้ยิงก็ยังเข้ามือ เอแดร์ซอน
เอ็ดเวิร์ดส ที่เพิ่งลงมาเป็นตัวสำรองได้บอลในกรอบฝั่งขวาม้วนตัวหลายจังหวะก่อนจะหาช่องยิงมุมแคบแต่บอลก็ยังเบาไปเข้ามือ เอแดร์ซอน
มัทเธอุส เติมมาได้ซัดบอลข้ามคาน
จังหวะสวนกลับของเจ้าบ้านบอลมาถึง มัทเธอุส ในกรอบฝั่งซ้ายได้ซัดด้วยซ้ายเต็มๆ บอลสุดท้ายยังแรงเหินข้ามคานออกไปไม่เยอะ
ปอร์โร่ ได้ปั่นบ้างก็ยังโค้งหลุดกรอบ
โอกาสต่อเนื่องของทีมเยือนจังหวะนี้ ปอร์โร่ ได้บอลทางฝั่งขวาก่อนจะแตะเข้ามาในกรอบแล้วปั่นเองด้วยซ้ายบอลสุดท้ายยังโค้งหลุดเสาซ้ายออกไปไม่ได้ลุ้น
เปาลินโญ่ หลุดมาซัดแต่ คาร์สัน ซูเปอร์เซฟ!
ทีมเยือนเกือบได้ประตูขึ้นนำจากจังหวะที่ เอ็ดเวิร์ดส ยกบอลหน้ากรอบให้ เปาลินโญ่ หลุดเดี่ยวเข้าไปดีดด้วยซ้ายกลางประตูแต่ คาร์สัน ผู้รักษาประตูตัวสำรองที่เพิ่งลงมายังล้มตัวเซฟจังหวะสุดท้ายได้ทัน
มาห์เรซ ได้ปั่นฟรีคิกเข้าซอง อาดาน
ท้ายเกมเจ้าบ้านมาได้ฟรีคิกข้างกรอบฝั่งขวาแล้วเป็น มาห์เรซ ลองปั่นเองด้วยซ้ายบอลโค้งเข้ากรอบแต่ยังไม่ผ่าน อาดาน รับติดมือ
สโตนส์ ขึ้นโขกเต็มๆ บอลข้ามคาน
ท้ายเกมเจ้าบ้านเกือบได้ประตูชัยจากจังหวะเตะมุมฝั่งซ้าย มาห์เรซ เปิดเข้ามาให้ สโตนส์ ได้ขึ้นโขกเต็มๆ กลางประตูแต่บอลแรงเหินข้ามคานออกไปนิดเดียว
จบเกม เรือใบ ปิดจ๊อบลิ่ว 8 ทีม
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่บุกไปเก็บสกอร์จาก สปอร์ติ้ง ลิสบอน ในนัดแรกมาแล้ว 5-0 วันนี้กลับมาเล่นในบ้านเสมอกันไป 0-0 รองแชมป์เก่าผ่านเข้ารอบไปด้วยสกอร์รวม 5-0 เกมต่อไปจะได้ไปเจอกับ คริสตัล พาเลซ ในลีก
สปอร์ติ้ง ลิสบอน
Starting Formation: 3-4-3
13.
หลุยส์ เนโต้
89'
7
24.
เปโดร ปอร์โร่
78'
7
17.
ปาโบล ซาราเบีย
58'
6.5
21.
เปาลินโญ่
78'
6
9.
อิสลาม สลิมานี่
89'
6
ตัวสำรอง
3.
ซูแอร์ เฟดดัล
89'
-
11.
นูโน่ ซานโตส
78'
6
23.
มาร์คัส เอ็ดเวิร์ดส
58'
6.5
47.
ริคาร์โด้ เอสไกเยา
78'
6
91.
โรดริโก รีเบโร
89'
-
แก้ไขล่าสุดโดย Salinger เมื่อ Thu Mar 10, 2022 05:45, ทั้งหมด 20 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ
: 0 ใบ
My Locker
