โดนก่อนช่างมัน! โมดริช ยิง+จ่าย 'ราชัน' รัวโซเซียดาด 4-1 ทิ้ง 8 แต้ม
เรอัล มาดริด มีเสียวเล็กน้อยหลังจากโดน เรอัล โซเซียดาด บุกไปนำก่อนจากจุดโทษต้นเกม แต่หลังจากนั้นพวกเขาครองบุกเป็นชุดๆ ก่อนจะรัวแซงชนะ 4-1 โดยได้จาก เอดัวร์โด้ คามาวินก้า, ลูก้า โมดริช, คาริม เบนเซม่า(จุดโทษ) และ มาร์โก อเซนซิโอ้ ทำให้ทีมราชันชุดขาวมีเพิ่มเป็น 63 คะแนนจาก 27 นัด นำจ่าฝูงลาลีก้าทิ้งห่างเซบีญ่าเพิ่มเป็น 8 แต้ม
เรอัล มาดริด
Starting Formation: 4-3-3
2.
ดานี่ การ์บาฆาล
84'
7
25.
เอดัวร์โด้ คามาวินก้า
7.5
10.
ลูก้า โมดริช
82'
8
9.
คาริม เบนเซม่า
84'
8
20.
วินิซิอุส จูเนียร์
82'
7.5
21.
โรดรีโก้
77'
7
ตัวสำรอง
24.
มาเรียโน่
84'
6
12.
มาร์เซโล่
82'
6
19.
ดานี่ เซบาญอส
82'
6
11.
มาร์โก อเซนซิโอ้
77'
6.5
17.
ลูคัส บาซเกซ
84'
6
ลาลีก้า
สนาม ซานติอาโก้ เบร์นาเบว
เสาร์ที่ 5 มีนาคม 2565
กรรมการ เฆซุส กิล
เรอัล มาดริด
4
1
เรอัล โซเซียดาด
1-1 คามาวินก้า 40'
2-1 โมดริช 43'
3-1 เบนเซม่า 76' (Pen.)
4-1 อเซนซิโอ้ 79'
0-1 โอยาร์ซาบัล 10' (Pen.)
ราชันชุดขาวมาใน 4-3-3 ตามถนัด แนวรุกสามคนวันนี้เป็นเบนเซม่า,วินิซอุส,โรดรีโก้ มิดฟิลด์วันนี้ไม่มีโครสที่เจ็บ ทำให้คามาวินก้าได้ลงไปเล่นร่วมกับโมดริช,คาเซมิโร่ แนวรับได้อลาบ้ากลัยมายืนคู่เซนเตอร์กับมิลิเตา โดยมีเมนดี้,การ์บาฆาลยืนเป็นวิงแบ็คเซ้ายขวาและคูร์กตัวส์เฝ้าเสา
โซเซียดาดบุกไปเล่น 4-4-2 โดยแนวรุกเป็นอิซาคที่ยืนค้ำและมีซิลบาคอยหนุน แผงมิดฟิลด์เป็นโอยาร์ซาบัล,เมริโน่,อิญาร์ราเมนดี้,ซัลดูอา แนวรับซ้ายไปขวามีโกโรซาเบล,ปาเชโก้,เลอ นอร์มองด์,ซูเบลเดีย และเรมิโร่เฝ้าเสา
• เจอกันในลีก 5 นัดหลังสุด เรอัล มาดริด ชนะ 3 เสมอ 2
• เรอัล มาดริด ไม่แพ้เกมเหย้าในลีก 23 นัดติด
• เรอัล มาดริด เก็บคลีนชีตในลีก 4 นัดติด
• โซเซียดาด เก็บคลีนชีตในลีก 6 จาก 7 นัดหลัง
การ์บาฆาลแจกโทษ!โอยาร์ซาบัลสังหารไม่เหลือ 1-0 โซเซียดาดนำเร็ว
เริ่มเกมมาไม่ถึง 10 นาที โซเซียดาดมาได้จุโทษจากจังหวะที่ซิลบาโดนการ์บาฆาลแซะล้มในกรอบเขตโทษ ผู้ตัดสินเป่านกหวีดทันที
เป็นโอยาร์ซาบัลที่รับหน้าที่ซัดด้วยซ้ายเรียดทางขวามือ บอลพุ่งผ่านมือคูร์กตัวส์เบียดเสาเข้าไปเลย 1-0 ทีมเยือนบุกนำเร็ว
ราชันครองเยอะแต่ยังเจาะไม่เข้า
ราชันชุดขาวครองบอลเยอะกว่าก็จริงแต่พวกเขายังหาช่องเจาะไม่เจอ จังหวะคาเซมิโร่ลองซัดไกลหน้ากรอบเขตโทษ บอลพุ่งไปแฉลบบล็อคหลุดออกหลังเป็นเตะมุม
ราชันบุกเยอะจริงแต่ยังไม่มีโอกาสลุ้นจะแจ้ง
ราชันชุดขาวยังโหมบุกต่อเนื่องแต่พวกเขายังหาโอกาสจบแบบจังๆไม่เจอ คราวนี้เป็นอีกครั้งที่คาเซมิโร่ได้ซัดไกลด้วยขวาแต่บอลก็ยังไม่ตรงกรอบ
อย่างเด็ด!คามาวินก้ากดอีซ้ายตาข่ายสั่น 1-1 ราชันเจ๊า
แล้วความพยายามของมาดริดก็มาเป็นผล จากจังหวะที่คามาวินก้ารับบอลจากโมดริชหน้ากรอบเขตโทษ ก่อนแต่งเข้าซ้ายแล้วกดเน้นๆ บอลไปแฉลบอิญาร์ราเมนดี้เล็กน้อยก่อนพุ่งผ่านมือเรมิโร่เข้าไปอย่างสวยงาม 1-1 ทันที
เบนซ์หลุดซัดหายก่อนเฮเก้อ
นาทีถัดมาหลังจากตีเสมอได้ ราชันส่งบอลเข้าประตูได้อีกลูกจากจังหวะที่ฉกได้แล้วทำเร็วให้เบนเซม่าหลุดไปซัดสวนตัวเรมิโร่ตุงตาข่าย แต่ผู้ตัดสินเช็ค VAR ยืนยันเป็นการล้ำหน้าขอบเขาไปเสียก่อน
ราชันอย่างคึกเกือบแซงนำ
ท้ายเกมมาดริดมาเป็นชุดๆเลย จังหวะนี้เบนเซม่าได้บอลถึงเส้นหลังฝั่งขวาก่อนปาดไปเสาแรกแล้วเป็นวินิซิอุสโฉบสะกิดเปลี่ยนทางแต่ไปติดเซฟเรมิโร่ที่ยังยืนตำแหน่งดี
แซงเลย!โมดริชตะบันด้วยซ้ายหายสิครับ 2-1 ราชันเฮลั่น
แล้วมาดริดมาได้ประตูแซงนำจริงๆ จากจังหวะเล่นเตะมุมสั้นมาแล้วเบนเซม่าได้บอลทางริมกรอบฝั่งขวาก่อนที่เขาจะไหลให้โมดริชจับแล้วโยกเข้าซ้ายแล้วซัดเน้นๆ บอลพุ่งแรงหรีมือเรมิโร่เสียบเสาสองแบบหมดจรด
มาดริดคึกจัดเกือบมีประตูที่สาม
มาดริดยังเรื่อยๆ คราวนี้เป็นจังหวะที่เมนดี้หลุดไปเปิดจากทางริมกรอบฝั่งซ้าย บอลพุ่งแฉลบเลยไปเสาสองถึงการ์บาฆาลที่วางเท้าวอลเลย์ด้วยขวาแบบไม่จับ บอลพุ่งหลุดเสาแรกไป
สุดท้ายจบครึ่งแรกเป็นมาดริดที่แซงขึ้นนำ 2-1 โดยพวกเขาโดนก่อนจากจุดโทษต้นเกม แต่ช่วงท้ายโหมหนักมาก่อนเอาคืนและขึ้นนำได้สำเร็จ
โรดรีโก้ซัดมุมแคบเข้าหน้าต่าง
โอกาสลุ้นครึ่งแรกในครึ่งหลังของมาดริด โรดรีโก้ได้บอลทางกรอบฝั่งขวาก่อนโยกหาเหลี่ยมซัดด้วยขวา มุมมันแคบเกินไปทำให้พุ่งเข้าหน้าต่างไป
เบนซ์ซัดเรียดโดนปัดทิ้ง
ราชันยังมาเรื่อยๆ คราวนี้เป็นจังหวะที่เบนเซม่าได้บอลหน้ากรอบเขตโทษฝั่งขวา เขาวางเท้าซัดบอลพุ่งเรียดไปเสาสองก่อนที่จะโดนเรมิโร่พุ่งปัดปลายมืออกหลังไป
คาเซมิโร่ตะบันฟรีคิกมีเสียว
อีกครั้งของมาดริด คราวนี้พวกเขาได้ฟรีคิกหน้ากรอบเขตโทษแล้วเป็นคาเซมิโร่ที่รับหน้าที่ซัดด้วยขวาเต็มข้อ บอลพุ่งผ่านกำแพงตรงกรอบแต่ไปติดเรมิโร่ที่เกร็งมือทุบทิ้งไปได้
เบนซ์ตวัดติดเซฟเรมิโร่
เจ้าถิ่นได้ลุ้นอีกครั้งจากจังหวะที่การ์บาฆาลเปิดบอลจากริมเส้นฝั่งขวาเข้าไปในกรอบเขตโทษให้เบนเซม่าพักบอลแล้วแตะหนีตัวประกบก่อนตวัดยิงด้วยขวาเน้นๆ บอลพุ่งตรงกรอบแต่ไปติดเซฟเรมิโร่
เบนซ์เฮเก้ออีกแล้ว
มาดริดส่งบอลเขจ้าไปตุงตาข่ายอีกครั้งจากจังหวะบอลขลุกขลิกในกรอบเขตโทษแล้วเข้าทางเบนเซม่าที่ซัดเน้นๆตุงตาข่าย แต่กลายเป็นเฮเก้อเพราะ VAR ย้อนตัดสินว่าเป็นล้ำหน้าของโรดริโก้ไปเสียก่อน
คลายกดดัน!วินิซิอุสเรียกโทษ เบนซสังหารนิ่ม 3-1
มาดริดมาได้จุดโทษจากจังหวะที่วินิซิอุสกระชากบอลไปทางริมกรอบฝั่งซ้ายก่อนโดนเอลุสตอนโด้สอยล้ม ตอนแรกผู้ตัดสินชี้เป็นฟรีคิกแต่ VAR ให้สัญญาณเปลี่ยนเป็นจุดโทษ
เบนเซม่ารับหน้าสังหารนิ่มๆไม่พลาด 3-1 เจ้าถิ่นคลายความกดดัน
อเซนซิโอ้ขอบ้าง!สำรองยิง 4-1 ราชันสบายแล้ว
เรอัล มาดริดมาได้ประตูหนีห่างเป็น 4-1 จากจังหวะที่คาเซมิโร่วางบอลยาวจากแแดนตัวเองให้การ์บาฆาลสปีดหลุดไปทางฝั่งขวา เขากระชากถึงเส้นหลังก่อนตบเรียดมาตรงกลางให้อเซนซิโอ้วางเท้าแปด้วยซ้ายแฉลบลอดขาซูลเบลเดียตุงตาข่าย
ราชันโกยนำฝูงห่าง 8 แต้ม
สุดท้ายไม่มีอะไรเพิ่มทำให้มาดริดปิดเกมเอาชนะไป 4-1 พร้อมกับทำแต้มนำจ่าฝูงหนีห่างเซบีญ่าเป็น 8 คะแนน
เรอัล โซเซียดาด
Starting Formation: 4-4-2
26.
จอน ปาเชโก้
46'
6
4.
อาเซียร์ อิญาร์ราเมนดี้
64'
6.5
2.
โฆเซบา ซัลดูอา
64'
6
19.
อเล็กซานเดอร์ อิซาค
80'
6
21.
ดาบิด ซิลบา
46'
6.5
ตัวสำรอง
37.
นาอิส ฌูอาห์รา
46'
6
23.
อเล็กซานเดอร์ ซอร์ล็อธ
80'
6
17.
ราฟินญ่า
46'
6
6.
อาริตซ์ เอลุสตอนโด้
64'
5.5
3.
มาร์ติน ซูบิเมนดี้
64'
6
แก้ไขล่าสุดโดย MEGITSAMA เมื่อ Sun Mar 06, 2022 05:06, ทั้งหมด 6 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ