ถ้าท่านๆว่างรบกวนถามเพื่อนท่านหน่อยนะครับว่ามาสายนี้ยังไง เพราะดูอายุแล้วขึ้นมาเป็นรองได้ยังไง ก่อนหน้านี้สอบบรรจุได้ตอนไหน เป็นครูมากี่ปีแล้วสอบรอง ผมข้องใจอยากรู้จริงๆ ขอบพระคุณเป็นอย่างสูงครับ  

ไปเช็คมาละครับ ตอนนี้เพิ่งอายุราชการครบ 7 ปี แต่สอบรองได้ตอนอายุราชการ 5 ปี + มี ป.โท บริหาร

ผมไม่รู้ว่าตอนนี้มันเปลี่ยนเกณฑ์อะไรมั้ย  

เคยไปอยู่เขตที่เขาทวีคูณหรือเปล่า ระบบ มันแยกทุกที่แล้วครับเขายกเลิกระบบ ซี  

ผมตอบในฐานะคนทำงานในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นละกันนะครับ
ถ้าในทางทฤษฎีหรือตามมาตรฐานตำแหน่ง สายงานผู้ปฏิบัติ (ประเภททั่วไป/ประเภทวิชาการ) จะแยกกับสายงานผู้บริหาร (ประเภทอำนวยการ/ประเภทบริหาร) อยู่แล้วนะครับ แต่ในทางปฏิบัติ สายงานผู้บริหารโดยเฉพาะหัวหน้าฝ่าย ผอ.กอง ของ อบต./เทศบาลขนาดเล็กหรืออยู่รอบนอก มักต้องได้ลงมาทำงานของสายผู้ปฏิบัติอยู่เลยครับ เพราะคนมีน้อย ต้องช่วยกันทำงาน

ส่วนเรื่องความก้าวหน้า ของท้องถิ่นค่อนข้างเสียเปรียบข้าราชการพลเรือนครับ โดยเฉพาะสายงานผู้ปฏิบัติ ประการแรกเลยถ้าเป็นระดับชำนาญการ ไม่มีเงินประจำตำแหน่งให้ ประการที่สอง เท่าที่ทราบตอนนี้ถ้าไม่ใช่วิศวกร หรือนิติกร ไม่มีข้าราชการของท้องถิ่นตำแหน่งไหนเลยที่สามารถขึ้นชำนาญการพิเศษได้ เพราะระเบียบมันบังคับให้ผู้ประเมินคือคณะกรรมการที่ได้รับการแต่งตั้งโดยจังหวัด ซึ่งข้าราชการจากจังหวัดเป็นข้าราชการพลเรือนครับ คนละประเภทกับข้าราชการส่วนท้องถิ่น ข้าราชการพลเรือนจะมองว่าท้องถิ่นก็ทำงานแค่ในตำบลของตัวเอง ไม่ได้ทำงานในภาพใหญ่เหมือนของพลเรือน แล้วพลเรือนกว่าจะขึ้นชำนาญการพิเศษได้นี่แทบรากเลือด แล้วท้องถิ่นมันเป็นใครถึงจะให้มันมาข้ามหน้าข้ามตาเรา ประมาณนี้ครับ ข้าราชการส่วนท้องถิ่นเลยเติบโตในสายงานผู้ปฏิบัติไม่ได้ เลยพยายามไปสอบสายงานผู้บริหารกัน

ผมเองอีกหน่อยก็ต้องตัดสินใจละครับว่าจะไปสายไหนดี  

ผมก็ทำ อปท. เหมือนกัน อีกหน่อยก็คงต้องเลือกเหมือนกัน แต่ถ้าเป็นไปได้ก็ไม่อยากขึ้นสายบริหาร ความรับผิดชอบมันเยอะ  

เดี๋ยวนะ เป็นรองก่อนอายุ30 เป็นไปได้หรอ ก่อนสอบรองมันต้องเป็นครูก่อน 7ปึมีวุฒิป.โท บริหรศึกษานิ ผมไม่เคยเจอเลยนะเป็นรองก่อน30  

สมควรแยก แต่ไม่ควรให้ค่าสายบริหารมากเกินไป

ทุกวันนี้พวกสายปฏิบัติการเก่งๆก็หาทางสอบเลื่อนขั้น/เปลี่ยนสายเป็นผู้บริหารทั้งนั้น สุดท้ายแล้วจะไม่มีบุคลากรมีฝีมือทำงานสายปฏิบัติการ