บัลเบร์เด้ซัดชัย! "ชุดขาว" ต่อเวลาเฉือนต่างดาว 3-2 ลิ่วชิงซูเปอร์คัพ
ศึก เอล กาซิโก้ นอกลีกวันนี้สู้กันสนุกสมศักดิ์ศรีเสมอกันในเวลาปกติ 2-2 ก่อนฝั่ง เรอัล มาดริด จะมาได้ตัวสำรองอย่าง เฟเดริโก้ บัลเบร์เด้ ซัดประตูชัยช่วงทดเวลาพิเศษช่วยให้พวกเขาเฉือนชนะ บาร์เซโลน่า 3-2 ทะลุเข้าไปสู่รอบชิงชนะเลิศของศึก ซูแปร์โคปา เด เอสปันญ่า รอพบผู้ชนะระหว่าง แอธเลติก บิลเบา และ แอตเลติโก มาดริด
บาร์เซโลน่า
Starting Formation: 4-3-3
1.
มาร์ก-อันเดร เตอร์ สเตเก้น
8.
ดานี่ อัลเวส
78'
21.
เฟรนกี้ เดอ ยอง
46'
30.
กาบี้
78'
17.
ลุค เดอ ยอง
66'
19.
เฟร์ราน ตอร์เรส
46'
ตัวสำรอง
9.
เมมฟีส เดปาย
78'
10.
อันซู ฟาติ
66'
16.
เปดรี้
46'
28.
นิโก้ กอนซาเลซ
78'
29.
เฟร์ราน ฆุตกล้า
110'
33.
อับเด เอซซัลซูลี่
46'
110'
ซูแปร์โคปา เด เอสปันญ่า รอบรองชนะเลิศ
สนาม คิง ฟาฮัด อินเตอร์เนชั่นแนล สเตเดี้ยม
พุธ ที่ 23 มกราคม 2565
กรรมการ โฆเซ่ มูนูเอร่า
บาร์เซโลน่า
2
3
เรอัล มาดริด
1-1 ลุค เดอ ยอง 41'
2-2 อันซู ฟาติ 83'
0-1 วินิซิอุส จูเนียร์ 25'
1-2 คาริม เบนเซม่า 72'
2-3 เฟเดริโก้ บัลเบร์เด้ 98'
บาร์เซโลน่า วันนี้จะได้ โรนัลด์ อเราโฆ่ และ เฟรนกี้ เดอ ยอง กลับมาออกสตาร์ทเป็นตัวจริงรวมถึง อันซู ฟาติ ที่กลับมามีชื่อเป็นสำรอง นอกจากนั้นยังจะส่ง เฟร์ราน ตอร์เรส ลงประเดิมสนามนัดแรก
ส่วนฝั่ง เรอัล มาดริด จะได้ ดานี่ การ์บาฆาล หายกลับมาออกสตาร์ทเป็นตัวจริงรวมถึง ลูก้า โยวิช มีชื่อเป็นตัวสำรอง ส่วน แกเร็ธ เบล หายเจ็บแล้วแต่ยังไม่มีชื่อในทีม
เบนเซม่า ปั่นทักทายบอลข้ามคาน
เริ่มเกมมา มาดริด ได้ทักทายก่อนจากจังหวะสวนขึ้นมาทางซ้าย อเซนซิโอ แตะให้ เบนเซม่า หน้ากรอบได้วางเท้าปั่นด้วยขวาบอลเหินข้ามคานออกไป
อเซนซิโอ วางเท้าปั่นบ้างก็ยังข้ามคาน
มาดริด ได้ลุ้นอีกครั้งจากจังหวะบุกขึ้นมาเร็ว วินิซิอุส ทางซ้ายแตะให้ อเซนซิโอ ตรงหัวกระโหลกได้วางเท้าปั่นด้วยซ้ายคราวนี้ก็ยังข้ามคาน
ลุค ได้หวดเต็มๆบอลติดบล็อค
โอกาสแรกของฝั่ง บาร์ซ่า กาบี้ โขกตั้งให้ ลุค กลางประตูได้หวดด้วยซ้ายบอลพุ่งไปติดบล็อคเต็มๆแล้วเด้งออกมา
วินิซิอุส หลุดมาซัดติดเซฟ สเตเก้น
จังหวะโต้กลับได้ลุ้นอีกหนของ มาดริด โมดริช แทงบอลให้ วินิซิอุส ได้ใช้ความเร็วกระชากไปถึงในกรอบฝั่งขวาแต่จังหวะสุดท้ายยิงไปติดเซฟ สเตเก้น เต็มๆ
วินิซิอุส หลุดไปซัดอีกคราวนี้ไม่เหลือ! มาดริดนำแล้ว 1-0
จากจังหวะที่ มาดริด แย่งบอลได้กลางสนาม เบนเซม่า แทงให้ วินิซิอุส กระชากหลุดเข้าไปในกรอบฝั่งซ้ายก่อนจะซัดด้วยซ้ายผ่านตัว สเตเก้น เข้าไปตุงตาข่าย
ลุค ได้ขึ้นโขกเต็มๆ ยังไม่ผ่านมือ คูร์กตัวส์
จังหวะได้ลุ้นจะแจ้งของ บาร์ซ่า เด็มเบเล่ ได้บอลข้างกรอบฝั่งซ้ายก่อนจะวางเท้าครอสเข้ามาให้ ลุค ขึ้นโขกกลางประตูเต็มๆ แต่จังหวะสุดท้ายยังไม่ผ่านมือ คูร์กตัวส์ รับติดมือ
ลุด ได้โขกอีกก็ยังไม่ผ่าน คูร์กตัวส์!
บาร์ซ่า ได้ลุ้นจากลูกครอสอีกหนคราวนี้เป็น อัลบา ฝั่งซ้ายเปิดเข้ามาให้ ลุค ได้ขึ้นโขกหน้าเสาขวาแต่สุดท้ายก็ยังไม่ผ่าน คูร์กตัวส์ ล้มตัวรับได้อีก
เด็มเบเล่ ลากมาปั่นบอลข้ามคาน
กลายเป็นฝั่ง บาร์ซ่า เริ่มได้ครองบอลบุกต่อเนื่องคราวนี้ เด็มเบเล่ พาบอลมาทางซ้ายก่อนจะปั่นด้วยขวาหน้ากรอบบอลเหินข้ามคาน
อเซนซิโอ ลากมาซัดเองเข้าซอง สเตเก้น
จังหวะนี้เป็น อเซนซิโอ ลากบอลจากตรงกลางมาถือหน้ากรอบก่อนจะส่องเองด้วยซ้ายบอลพุ่งตรงกรอบแต่บอลยังเบาเข้ามือ สเตเก้น
มิลิเตา สกัดโดน ลุค เด้งเข้าประตู! ต่างดาวตีเสมอ 1-1
บาร์ซ่า มาได้ประตูตีเสมอจนได้จากจังหวะที่ เด็มเบเล่ ได้บอลมาถึงสุดเส้นซ้ายในกรอบก่อนจะเปิดเข้าตรงกลางแล้วเป็น มิลิเตา ที่พยายามสกัดแต่ไปโดนตัว ลุค เด้งเข้าประตูไปไม่เหลือ
บาร์ซ่า ขยับเปลี่ยน 2 คนรวดส่ง เปดรี้ กับ เอซซัลซูลี่ ลงสนาม
เริมครึ่งหลัง บาร์ซ่า ขยับเปลี่ยน 2 คนรวด ถอด เฟร์ราน กับ เฟรนกี้ ออกแล้วส่ง เปดรี้ กับ เอซซัลซูลี่ ลงสนามมาแทน
เด็มเบเล่ ได้จบในกรอบบอลข้ามคาน
เริ่มครึ่งหลังมา บาร์ซ่า ได้ครองบอลบุกจังหวะนี้ เปดรี้ ที่สุดเส้นซ้ายตบมาให้ เด็มเบเล่ กลางประตูได้หวดด้วยขวาแต่บอลสุดท้ายยังเหินข้ามคานออไป
เปดรี้ ส่องหน้ากรอบบอลเฉียดเสานิดเดียว!
จังหวะนี้ เด็มเบเล่ แตะบอลให้ เปดรี้ หน้ากรอบได้พลิกแล้วหวดด้วยขวาเต็มๆ บอลพุ่งเฉียดเสาขวาออกไปนิดเดียวถือว่าได้ลุ้น
ลุค โขกตามน้ำบอลไม่เข้ากรอบ
จากจังหวะที่ เด็มเบเล่ เลี้ยงบอลเข้ามาถึงในกรอบฝั่งซ้ายก่อนจะซัดเองบอลพุ่งมากลางประตูแล้วเป็น ลุค ที่สอดมาโขกตามน้ำบอลข้ามคานออกไป
เด็มเบเล่ ได้ซัดอีกบอลเฉียดเสานิดเดียว
ยังเป็น บาร์ซ่า โหมบุกต่อเนื่องจังหวะนี้กองหลัง มาดริด สกัดมาเข้าทาง เด็มเบเล่ ในกรอบฝั่งซ้ายได้วอลเลย์สวนเข้าไปบอลพุ่งผ่านเสาขวาออกไปนิดเดียว
เบนเซม่า ซัดชนเสาเต็มๆ! มาดริด พลาดขึ้นนำ
โอกาสที่น่าจะเป็นประตูขึ้นนำของ มาดริด โรดริโก้ ลากบอลมาทางซ้ายก่อนจะแทงให้ เบนเซม่า ในกรอบฝั่งขวาพลิกบอลหลายจังหวะก่อนจะแตะหาช่องซัดด้วยซ้ายบอลหนีมือ สเตเก้น พุ่งไปชนเสาซ้ายเต็มๆแล้วเด้งออกมา
เบนเซม่า กดหาย! มาดริดนำอีกหน 2-1
มาดริด มาได้ประตูนำอีกครั้งจากจังหวะที่ เมนดี้ พาบอลทะลุมาทางซ้ายก่อนจะเปิดมาให้ เบนเซม่า กดกลางประตูเน้นๆติดเซฟ สเตเก้น ไปเข้าทาง การ์บาฆาล ที่สุดเส้นขวาเปิดกลับเข้ามา สเตเก้น ใช้เท้าเซฟแล้วเด้งไปเข้าทาง เบนเซม่า กลางประตูจิ้มเข้าไปไม่เหลือ
คาเซมิโร่ สอดมาโขกเข้าซอง สเตเก้น
จากฟรีคิกนอกกรอบฝั่งขวาของ มาดริด โครสเปิดเข้ามาถึง คาเซมิโร่ หน้าเสาขวาได้ขึ้นโขกแต่ยังไปตรงตัว สเตเก้น รับติดมือ
ฟาติ โขกหาย! บาร์ซ่าไล่ตีเสมออีกหน 2-2
บาร์ซ่า ยังไม่ยอมแพ้มาได้ประตูตีเสมออีกจากเตะมุมฝั่งซ้ายเล่นสั้นมาให้ อัลบา เข้ากรอบได้วางเท้าเปิดเข้ามาตรงกลางให้ ฟาติ ได้ขึ้นโขกเปลี่ยนทางเข้าไปประตูไปไม่เหลือ
ครบ 90 นาที ทำอะไรกันไม่ได้ต้องทดเวลาเพิ่ม
จบเวลาปกติ 90 นาที บาร์ซ่า มาได้ประตูตีเสมอและทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ต้องไปแข่งอีก 30 นาที ในช่วงทดเวลาพิเศษ
อับเด ได้โขกหน้าปากประตูบอลหลุดเสา
จากจังหวะเตะมุมของ บาร์ซ่า บอลมาถึง เด็มเบเล่ ครอสเข้ามาให้ อับเด ได้โฉบไปโขกหน้าปากประตูแต่บอลสุดท้ายยังหลุดเสาซ้ายออกไป
บัลเบร์เด้ ซัดกลางประตูนิ่มๆ! มาดริดนำอีกจนได้ 3-2
มาดริด มาได้ประตูจากจังหวะสวนกลับมาตั้งแต่กลางสนาม โรดริโก้ ได้บอลมาถึงในกรอบฝั่งขวาก่อนจะตบเข้ากลางเลยมาถึง บัลเบร์เด้ จับหนึ่งจังหวะแล้วแปด้วยขวาเข้าไปนิ่มๆ
คูร์กตัวส์ เซฟสองจังหวะเน้นๆ! ต่างดาวเกือบตีเสมอ
จังหวะเกือบตีเสมอของ บาร์ซ่า บุสเกตส์ ลากบอลมาซัดหน้ากรอบติดเซฟ คูร์กตัวส์ แล้วเด้งมาถึง เด็มเบเล่ ทางขวาได้ซัดซ้ำเข้าไปอีกมุมแคบแต่ คูร์กตัวส์ ก็ยังพุ่งปัดออกมาได้อีก
อับเด ได้ซัดอีกบอลเฉียดเสานิดเดียว!
จังหวะนี้ อับเด เก็บบอลขลุกขลิกได้หน้ากรอบฝั่งขวาก่อนจะหาช่องกดด้วยขวาเต็มๆบอลพุ่งแรงเลียดเฉียดเสาซ้ายออกไปนิดเดียวเกือบได้ลุ้น
ฟาติ ตีลังกายิงกลางประตูบอลไม่เข้าเป้า
ท้ายเกม บาร์ซ่า เกือบตีเสมอจากจังหวะที่ ปิเก้ โขกตั้งให้ ฟาติ ได้ตีลังกายิงด้วยขวากลางประตูแต่บอลไม่เข้าเป้าเพื่อนจะมาซ้ำก็ไม่ได้อีก
โรดริโก้ แปโล่งๆบอลหลุดเสา!
มาดริด มีโอกาสเกือบปิดเกมส่งท้ายจากจังหวะสวนกลับมาโล่งๆ เบนเซม่า จ่ายให้ โรดิโก้ หลุดไปกลางประตูคนเดียวแต่แปออกไปน่าตาเฉย
เรอัล มาดริด
Starting Formation: 4-3-3
2.
ดานี่ การ์บาฆาล
90'
10.
ลูก้า โมดริช
82'
11.
มาร์โก้ อเซนซิโอ
68'
20.
วินิซิอุส จูเนียร์
110'
ตัวสำรอง
15.
เฟเดริโก้ บัลเบร์เด้
82'
17.
ลูคัส บาซเกซ
90'
21.
โรดริโก้
68'
25.
เอดูอาร์โด้ คามาวิงก้า
110'
แก้ไขล่าสุดโดย Salinger เมื่อ Thu Jan 13, 2022 04:41, ทั้งหมด 15 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ
: 0 ใบ
My Locker
