ผมขับรถเก่าๆมา 15 ปี คิดว่าถึงเวลาต้องเปลี่ยนละ กำลังมองหารถใหม่ซักคัน แต่เห็นเดี๋ยวนี้บ้านเราทำไฮบริดออกมาเยอะมาก แต่คนรอบตัวผมมักจะชอบบอกว่า อย่าไปเล่นเลยรถไฮบริด พังมาทีแบตลูกเป็นแสน หรือระบบอะไรต่างๆมันจะรวนง่ายกว่ารถน้ำมันทั่วๆไป อันนี้จริงไหมครับ อยากจะสอบถามผู้ใช้งานจริง

อีกเรื่องคือบ้างก็บอกว่า ไฮบริดจะประหยัดกว่าแค่ในเมืองรถติดๆ หรือรอบเดินเบา พอเร่งเครื่องแรงหรือวิ่งนอกเมืองไกลๆ กลายเป็นไม่ได้ประหยัดไปกว่ารถน้ำมันเท่าไหร่

เลยจะมาขอคำแนะนำจากท่านที่เคยใช้หน่อยครับ ว่ามีข้อดีหรือข้อเสียอย่างไรบ้าง สำหรับรถไฮบริด

ปล.ส่วนตัวแอบเล็งๆ Accord 1.5 Turbo EL ไว้ครับ แต่ก็มีดูๆพวก cross GR sport กับ HRB e:HEV ไว้ เหมือนกัน

ขอบคุณล่วงหน้าครับ

ความเชื่อนั้นมันไฮบริดยุคพรีอุสนู่น ทุกวันนี้ใช้ๆ ไปเหอะ ไม่พังง่ายๆ หรอก

ถ้าจากตัวเลือก ผมเลือก Accord 1.5 turbo ครับ

เดี๋ยวนี้แบทไฮบริดมันรับประกัน 10 ปีแล้วอะครับ

รถขับในเมืองไฮบริดประหยัดกว่าจริงๆ เห็นชัดมาก

ลองคิดย้อนไปประหยัดค่าน้ำมัน 10 ปี คุ้มค่าแบตไฮบริดแล้วครับ

อยากได้รถใหม่เหมือนกันครับ มองพวก PPV ไว้ละ เบื่อรถเก๋ง เก็บของไม่จุใจ

ผมยังชอบเครื่องธรรมดามากกว่านะ ถ้าจะประหยัดคือข้ามไปรถไฟฟ้านู้นเลย

ถ้าถามผมนะ

1. แบตลูกเป็นแสนมั้ย ก็น่าจะใช่ครับ แต่แบตเดี๋ยวนี้รับประกัน 8-10 ปีกันเกือบหมดแล้ว ซึ่งบางคนขายคนไปก่อนที่แบตจะหมดสภาพเสียอีก หรือเผลอๆตอนเปลี่ยนก็ยังอยู่ในระยะรับประกันครับ เท่ากับค่าใช้จ่ายจริงๆตรงนี้อาจจะไม่เกิดขึ้นเลย

2. ซ่อมยากกว่ามั้ย ก็"น่าจะ"จุกจิกกว่า เพราะส่วนประกอบมันเยอะกว่า มัน complex กว่า ก็แน่นอนว่าจะซ่อมยากกว่าตามไปด้วย

3. ประหยัดกว่าแค่ในเมือง ? อันนี้ขึ้นอยู่กับยี่ห้อรถครับ ผมไม่แน่ใจว่า Accord วิ่งไฟฟ้าได้ความเร็วสูงสุดเท่าไหร่ แต่อย่าง 330e (G20) ลองวิ่ง 120 นี่ก็ยังใช้ไฟฟ้า 100% อยู่นะครับ นั่นแปลว่าอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเท่ากับ 0 ครับ...

เรื่องเล่าละกัน ว่าไอ้แค่ประหยัดในเมืองมันประหยัดได้ขนาดไหน เพื่อนผมคนนึงปีนี้เพิ่งเติมน้ำมันไป 5 ถัง เพราะวิ่งไฟฟ้าตลอดเวลา ไปกลับที่ทำงานเกือบๆ 40 โล ถึงบ้านชาร์จ เช้าออกใหม่ ไม่เคยได้วิ่งน้ำมันเลย แล้วมันเฉลี่ยดู อัตราสิ้นเปลืองของไฟฟ้าอยู่ที่ประมาณ 0.9 บาท/กม. (เทียบกับวิ่งน้ำมัน 2 บาทนิดๆ/กม.) แค่นี้ก็ประหยัดไปได้เยอะแล้วนะครับ

ถ้าจะซื้อ Hybrid แล้วคุ้ม คือต้องวิ่งให้เยอะๆเลยครับ เพราะราคารถบ้านเรา Hybrid หรือ ไฟฟ้า มันบวกราคาเพิ่มกลัวคนซื้อเยอะ ถ้าท่านวิ่งปีนึงมากกว่า 4หมื่นโล ค่าน้ำมันคุ้มกับค่าซ่อมแบตแล้วครับ

รถ Hybrid ประหยัดกว่ารถน้ำมันทั้งในเมือง และนอกเมืองเลยครับ (เฉพาะ โตโยต้า และ ฮอนด้านะครับ ฮาวาล มันซดผิดนิสัย Hybrid)

อย่าง Altis Hybrid ในเมืองย่องๆคลานๆ ต้องมี 18-20 โลลิตรครับ ส่วนนอกเมืองถ้าวิ่ง 100-110 ยาวๆ เห็นบางคนเลี้ยงจนได้ 24-25 โลลิตรเลยครับ Hybrid จะกินพอๆกับรถน้ำมันถ้าขับเร็วมากกว่า 140 ขึ้นไปครับ โอกาสกินมากกว่าไม่มีเลยครับ

อันนั้นมัน plugin hybrid นะครับ ส่วน Accord มันปั่นไฟจากเครื่องอีกทีหนิ ยังไงก็ต้องเติมน้ำมันแน่ๆ อยู่แล้ว

เรื่องขับยังไง Hybrid ก็ประหยัดกว่าแน่ๆในทุกระยะครับ

โดยเฉพาะกลุ่มที่สร้างสนามแม่เหล็กที่ล้อตอนเบรกด้วย

เป็นการนำพลังงานกลับมาใช้ใหม่แทนที่จะทิ้งเป็นความร้อนแบบไร้ค่า

สิ่งสำคัญที่ประหยัดกว่าคือจังหวะเร่งของเครื่องครับ

ด้วย Character ของเครื่องยนต์สันดาปคือจะมีความสัมพันธ์ระหว่างความเร็วรอบกับ Torque ที่ได้

หลายๆครั้งจึงต้องมีจังหวะเร่งฉีดน้ำมันเพื่อให้ถึง Torque ที่ต้องการ

ซึ่งจังหวะนี้แหละคือจังหวะที่กินน้ำมันครับ

มันมีจังหวะนี้ตลอดไม่ว่าจะในเมืองนอกเมือง เพียงแต่ในเมืองจะเห็นชัดมากกว่า

กลับกับ motor ไฟฟ้ากลับให้ torque ได้ 100% ตั้งแต่จังหวะเริ่มหมุนเลย

ดังนั้น motor ไฟฟ้าจะชดเชยจังหวะที่ปกติเครื่องยนต์สันดาปจะกินน้ำมันมาก

ส่งผลให้รถ hybrid ประหยัดกว่าครับ

ผมขับ Altis Hybrid นะ
ส่วนตัวชอบมากครับ ผมวิ่งอยู่ราวๆ 22 กิโล/ลิตร ขับในเมือง
เติมน้ำมันเดือนนึงครั้งนึง ก็คือค่าน้ำมันตกเดือนละ 1000-1300 ประมานนี้ ผมว่าประหยัดดี

แบตเตอรี่ เดี๋ยวนี้ไม่ใช่ลูกละแสนแล้วครับ ตอนผมซื้อเซลส์บอกประมาน 5-6 หมื่น
รับปประกัน 10 ปี ราคาก็คงลงมาไม่ถึง 5 หมื่น ถ้าจะเปลี่ยนนะครับ

ระบบจุกจิกกว่ามั้ย ผมว่าจุกจิกกว่านิดหน่อย แต่ถ้าซ่อมศูนย์ก็ไม่น่าเป็นปัญหานะครับ

รวมๆผมชอบมาก คงไม่กลับไปขับรถธรรมดาแล้ว หรือเปลี่ยนรอบหน้าอาจจะไฟฟ้าไปเลย

**เพิ่มเติม พี่ชายขับ Camry Hybrid บอกว่าวิ่งอยู่ประมาน 19-20 โล/ลิตร ก็น่าจะเป็นงั้นเพราะรถใหญ่กว่า

อยากได้ไฮบริดเหมือนกันแต่แพงกว่าเยอะ ไม่มีเทอร์โบด้วย เลยเลือกเทอร์โบไป

ผมขับ prius มกราคม 65 ก็จะครบ 8 ปี

ที่ตัดสินใจซื้อเพราะอยากได้รถประหยัดน้ำมันแต่ไม่ต้องติดแก๊ส เพราะที่บ้านมีรถเก๋งที่ติดแก๊สอยู่แล้วปัญหาเรื่อง

แบตไฮบริด (ความเชื่อส่วนตัวเมื่อ 8 ปีที่แล้วว่ารถไฮบริดคือรถประหยัดน้ำมัน)

ส่วนแบตไฮบริดนั้นก็รับประกัน 10 ปี ตอนนี้ขับ 140,xxx ยังไม่ได้เปลี่ยนสักครั้ง

แต่เพื่อนสมาชิกในคลับบางคันก็เปลี่ยนกันตั้งแต่ 1 แสนล่ะ (ขึ้นอยู่กับการใช้งาน)

และหลายๆคันก็เปลี่ยนไป 2 - 3 ลูกแล้วก็มี (ถ้าอยู่ใน 10 ปี จะเปลี่ยนกี่ลูกก็ได้ ถ้าแบตไฮบริตเสื่อม)

(เมื่อก่อนกลัวแบตไฮบริดเสื่อม แต่ปัจจุบันเมื่อไหร่จะเสื่อมสักทีวะ อยากเปลี่ยนมากเพราะอยู่ในประกัน 10 ปี)

แต่หากเลย 10 ปี ไปแล้วหากเปลี่ยนยกลูก จากเมื่อก่อนราคา 7 - 8 หมื่น ถ้าพูดราคานี้เมื่อ 10 ปีที่แล้วนะ

คือแพงมาก หลายๆคนเลยกลัว แต่ปัจจุบันราคาประมาณ 6 หมื่นกว่าแล้ว

แล้วตอนนี้ก็มีร้านที่รับปรับปรุงสภาพแบตไฮบริด หรือว่าจะเปลี่ยนเป็นเซลล์ก็ได้ ซึ่งค่าใช้จ่ายจะน้อยลง

ในเรื่องการใช้งาน ส่วนตัวผมไม่ค่อยได้คำนวณปริมาณน้ำมันกับระยะทางเท่าไหร่

แต่ถ้าจะให้ผมขับรถแบบน้ำมันทั่วไป ผมว่าค่าน้ำมันเปลืองกว่ามากเมื่อเทียบกับรถไฮบริด

และอีกอย่างตอนที่รถขับรถไฮบริด ผมว่าพฤติกรรมการขับขี่มันจะเปลี่ยนไปจากการขับรถน้ำมันทั่วไป

เหมือนว่าจิตใจเรามันบอกเราว่า ...เฮ้ย นี่เองขับรถไฮบริดอยู่นะ มันคือรถประหยัดน้ำมัน

เราก็จะพยายามขับให้ประหยัดน้ำมันที่สุด (ไม่ใช่ขับแบบคลานนะ)

แล้วในคลับก็จำเอาสถิติมาโชว์กัน ว่าขับกรุงเทพ - เชียงใหม่ 1 ถังขับได้กี่กิโล บางคน 1 ถังก็ถึงล่ะ

แต่ผมจะคำนวณว่าสิ้นเปลืองเท่าไหร่ ซึ่งก็คือ เฉลี่ย 20 - 22 กม./ลิตร

ทั้งนี้วิวัตนาการแบตไฮบริต ผมว่ามันพัฒนาไปไกลกว่าเมื่อก่อนแล้ว ความกังวลต่างๆ ก็มีกันอยู่แล้วล่ะ

จนตอนนี้มีรถไฟฟ้าล่ะ ผมว่าน่ากังวลกว่าอีก (ซึ่งตอนรอให้พัฒนาไปอีกแรื่องแบตไฟฟ้า)

ดูเรื่องขายต่อด้วยนะครับ รถไฮบริดจะขายยากและโดนกดราคากว่ามากเลย ยิ่งใช้นานยิ่งราคาตก ลองคำนวนดูละกันนะครับ

คิดว่าจะใช้กี่ปีขาย แล้วลองไปสำรวจดูราคาขายต่อรุ่นนั้นเทียบกับรุ่นใกล้เคียงที่น้ำมันล้วนว่าราคาต่างกันแค่ไหน บวกราคาที่ซื้อมาแพงกว่า หักลบส่วนต่างที่ประหยัดได้จากค่าน้ำมัน บางรุ่นตอนซื้อแพงกว่ารุ่นน้ำมันขายต่อราคาเท่ากันหรือตกกว่าด้วยครับ

ผมเคยคำนวนแล้วซื้อไฮบริดไม่ได้ประหยัดจริงครับ มันเหมือนกับว่าคุณจ่ายค่าน้ำมันไปล่วงหน้าแล้วนะครับ แต่ถ้าต้องการรุ่นท็อป ออพชั้นอื่นหรืออัตราเร่งที่ดีกว่า อันนั้นแล้วแต่เลยครับ

ที่ท่านได้ยินมาคือความกังวลใหม่ๆที่ประเทศเราเริ่มรู้จัก สิ่งที่เรียกเครื่อง Hybrid

ปัจจุบัน
รถพรีอุส หรือรถHybrid อายุ8-10ปี ตอนนี้ตลาดมือสองราคาคงที่มาก ไม่ลดลง ไม่เพิ่มขึ้น
เนื่องจากตอนนี้มีร้านที่รับ Rebuilt ตัวBattery Hybrid ราคา 2หมื่นกว่าๆ ใช้ได้ยาวๆอีก10ปี
ไม่ต้องซื้อลูกค้าใหม่จากศูนย์ 8-9หมื่น

รวมถึงเจ้าใหญ่อย่างเดนโซ ที่ทำ คอมเพรสเซอร์แอร์ รถHybrid ยังมาทำRebuilt ราคาหมื่นต้นๆ แทนที่จะซื้อใหม่3-4หมื่น

ประสบการณ์จากที่รู้จักคนใช้ไฮบริดมานะครับ เรื่องจุกจิกมันไม่ได้จุกจิกมากเท่าไร เจ้าตลาดจะรับประกันคุณภาพระบบไฟให้5ปี

แบตเตอรี่10ปี แบตเตอรี่ ณ ปัจจุบันถ้ามีปัญหาจะใช้วิธีการเปลี่ยนเฉพาะเซลล์ที่เก็บประจุเสื่อม ไม่ได้ยกลูกเหมือนในอดีต

เพราะงั้นค่าซ่อมของเครื่องไฮบริดก็ไม่ได้แรงมากเท่าไรแล้ว แต่สำหรับเคสที่เจอปัญหาหนักๆคือเรื่องระบบไฟครับ

ระบบไฟมันรวนแล้วทีนี้ปรากฎว่ามันซ่อมยังไงก็ไม่จบ สุดท้ายคือต้องเปลี่ยนอะไหล่แท้จากศูนย์เท่านั้น

ถ้าคุณซื้อมาแล้วหวังว่าจะใช้ต่อยาวๆโดยที่ไม่คิดขายก็ซื้อมาใช้เลยครับ ถ้าวิ่งเยอะก็คุ้มตรงประหยัดค่าน้ำมัน(แต่เฉพาะค่าน้ำมันเท่านั้นนะ)

ถ้าคุณกะว่าจะขายต่อต้องดูว่าสามารถรับได้ไหมถ้าจะโดนกดราคา เพราะจะวิ่งเยอะวิ่งน้อยราคาก็ตกอยู่ดี

ณ ปัจจุบันคนเข้าเต๊นท์ไปดูรถมือสองยากครับที่จะเลือกซื้อรถไฮบริด คนที่ซื้อคือคนที่เตรียมเงินไว้ซ่อมบำรุงชุดใหญ่ไว้แล้วเขารับความเสี่ยงได้