เยอร์เก้น คล็อปป์ นายใหญ่ ลิเวอร์พูล กล่าวชื่นชม เฟอร์กิล ฟาน ไดจ์ค ว่าคัมแบ็คจากอาการเจ็บได้อย่างยอดเยี่ยม หลังเตรียมเยือน กูดิสัน ปาร์ค หนแรกนับตั้งแต่ที่เจออาการเจ็บหนัก

ฟาน ไดจ์ค พบกับอาการเจ็บเอ็นไขว้หน้าข้อเข่าจากจังหวะถูก จอร์แดน พิคฟอร์ด ปะทะใส่ในเกมบุกไปเสมอ เอฟเวอร์ตัน ในเดือนตุลาคม 2020 จนทำให้เขาต้องพักยาวจนจบฤดูกาล

เขาต้องรอ 10 เดือนกว่าจะกลับมาลงสนามให้ "หงส์แดง" ในเกมนัดเปิดฤดูกาลที่ชนะ นอริช แต่ก็เล่นในพรีเมียร์ลีกมาทุกนาทีนับตั้งแต่นั้น

ฟาน ไดจ์ค เตรียมจะได้ออกสตาร์ทต่อในเกมพบกับ เอฟเวอร์ตัน และเมื่อถูกถามถึงเรื่องฟอร์มของเขา, คล็อปป์ ตอบว่า "เขากลับมาได้อย่างยอดเยี่ยม เขามีช่วงปรีซีซั่นที่ดี, ซึ่งช่วยได้เยอะมาก"

"นับจากนั้นมาเราต้องเรียนรู้เล็กน้อยเพื่อรับมือกับอาการเจ็บ เขาอาจจะต้องพักสักหน่อยกับเกมที่สามของสัปดาห์, ต่อให้เขาดูสบายดีก็เถอะ ผมไม่แน่ใจว่าเรายังต้องทำแบบนั้นรึเปล่านะ"

"แต่การคัมแบ็คของเขาเป็นไปอย่างยอดเยี่ยมเลย และถ้ามีบางสิ่งที่ไม่เป็นเหมือนอย่างที่เป็น, ก็ขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้นก่อนที่จะเป็นเหมือนอย่างเคย"

แม้เทรนเนอร์ชาวเยอรมันบอกว่าอาจไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับ ฟาน ไดจ์ค ในการกลับไปเยือน กูดิสัน ปาร์ค หนแรกนับตั้งแต่ที่พบอาการเจ็บ แต่เขาเชื่อว่านักเตะมีประสบการณ์พอที่จะรับมือกับความรู้สึกนั้น

"เราก็เป็นมนุษย์คนนึงและเป็นเรื่องยากที่จะลืมสิ่งแบบนั้นไป สถานการณ์แบบนั้นไม่ควรเกิดขึ้นในฟุตบอลและไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยนัก"

"เฟอร์กิล มีประสบการณ์สูงและเขากับสถานการณ์อย่างนี้มาแล้ว อาจจะเป็นเรื่องยากที่กว่าเดิมเพราะเหตุเกิดที่นี่ แต่นอกเหนือจากนั้นแล้วมันก็แค่ฟุตบอลนัดนึง"

สู้ๆเอาชนะให้ได้

-แก้แค้นไอเจ้าพิคฟอร์ด
-ส่งราฟาไปสบาย นอนนับเงิน

ตอนนี้ดีขึ้นตามลำดับเลย VVD เป็นปลื้ม

เพชรจะจมดินยังงัยก็ยังเป็นเพชร

ถล่มให้ยับ

ช่วงแรกโคตรกังวล ลูกโยนตัดหลังหลุดตลอด หลุดเดี่ยวควบไม่ทัน

มาช่วงนี้เก็บเรียบจ้า

อยากให้กลับมาเต็มร้อยจริงๆ

และก็อย่าเจ็บหนักอีกนะ

เทพแห่งกับดักล้ำหน้าของจริง

ขออย่าฉายหนังซ้ำเป็นพอ

ลุงราหาส่งไอ้หมูฝอดไปเตะu23ที ดรอปมันยาวๆเลย

นักเตะหลายคนต้องอนาคตดับวูบ จากอาการบาดเจ็บมาเยอะแค่ไหน... ไม่ใช่ว่าเล่นไม่ได้ แต่นักกีฬาทุกคนจะเข้าใจดีว่า "ฟอร์มการเล่น" บางทีมันเป็นจังหวะ ที่เราเล่นไปเหมือนตามความรู้สึก... แต่เมื่อบาดเจ็บยาว กลับมาอีกครั้ง "ความรู้สึก" หรือ "จังหวะ" นั้นมันก็หายไป.... หลายคนอาจจะทำได้... แต่หลายคนก็ไม่ได้ และสุดท้ายคือ "ดับ" อนาคตเปลี่ยน... สุดท้ายทั้งคนที่ทำให้เจ็บ และคนเจ็บ ก็ถูกลืมไป... ผมเข้าใจว่า อุบัติเหตุในการกีฬาคือเรื่องธรรมชาติ.. มันคือเหตุที่บางครั้งก็คุมไม่ได้.. แต่หลายครั้งก็เกิดจากความตั้งใจ... เกิดจากแท้คติคของบางทีม ที่รู้ว่าสู้ไม่ได้ ก็เน้นหนัก เพื่อขู่อีกทีม.. หรืออารมณ์ขึ้นแล้วนอกเกมส์... เรื่องพวกนี้ "กรรมการอังกฤษต้องเบรกและลงโทษมากกว่านี้" ไม่ใช่ถ้าไม่ดิ้น ก็ไม่ฟาล์ว.. สรุปคือ สุดท้ายแล้วความรู้สึกผม มันเหมือนเกิดจากความห่วยแตกของกรรมการ เนี่ยแหละ ที่คุมเกมส์ไม่ได้.. พูดถึงอาการเจ็บทีไร มักจะโมโหกรรมการทุกทีเลยผม...

เป็นกำลังใจให้ครับ พี่เบิ้ม
ขอให้อยู่เป็นตำนานกับทีมเราด้วยนะ

เจ็บหนัก 2 รอบ ใจสู้ๆจริง สุดจัด ฟอร์มถึงจะไม่พีคเท่าก่อนแต่ก็ยังโหดเหมือนเดิม

แต่ก็ต้องยอมรับว่า เล่นได้ไม่เหมือนเดิม ปะทะน้อยลง ใช้สมองและทางบอลเป็นหลัก

ซึ่งนั่นคือจุดเด่นของไดจ์เหมือนกัน เป็นนักบอลที่ฉลาดและมีสติตลอดเวลา