ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
31 October 2021 03:39 by เบน ฟรีคิก
“ผี” ว่าแย่แล้วแต่ “ไก่” หนักกว่า // “หงส์” ไม่แพ้ก็บุญโข







สเปอร์ส 0-3 แมนฯยูฯ

ผมเคยเขียนถึง สเปอร์ส แบบเป็นพระเอกของงานไปรอบนึงในวันที่ชนะ แอสตัน วิลล่า 2-1 เมื่อต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา

ไม่มีเกมไหนเลยที่ “คลับไก่” จะชนะสบายๆด้วยรูปเกมเหนือๆ ขนาดเจอ นิวคาสเซิ่ล ยังอุตสาห์ทำให้สกอร์ออกมาสูสี 3-2 ได้คิดดู แถมแพ้ เวสต์แฮม โดยที่ครึ่งหลังยิงไม่เข้ากรอบเลย (รวมถึงเกมที่แพ้ ยูไนเต็ด)

และจากการแพ้ แมนฯยูฯ หมดสภาพ 3-0 คนที่จะไปก่อน โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ณ เวลานี้มีแค่อดีตบอส วูลฟ์แฮมป์ตัน คนเดียวแล้ว

ผมรู้สึกว่า นูโน่ ศึกษาเกมที่ “ปีศาจแดง” แพ้ ลิเวอร์พูล คาบ้านมา 5-0 และต้องการย้ำแผลนั้นด้วยการสั่งให้ลูกทีมเพรสหนักๆซึ่งไม่ใช่ธรรมชาติของ สเปอร์ส

แต่เข้าใจว่าตีเหล็กต้องตีตอนร้อนแต่ที่ นูโน่ คาดไม่ถึงคือบังเอิญเกมนี้ “เฮียยิ้ม” เปลี่ยนระบบการเล่นหันมาใช้หลัง 3 แล้วให้วิงแบ็คทำหน้าที่ริมเส้นเน้นๆ (จะได้ไม่ต้องมาวิ่งชนกันกับเซนเตอร์ ฮา)

พร้อมกลางรับอีก 2 ตัวรวมแล้วเมื่อต้องอยู่ในสถานะ “ป้องกัน” ก็จะมีตัวรับเน้นๆ 7 ตัว

การเปลี่ยน formation เป็นอะไรที่พอเข้าใจได้จากการที่ชั่วโมงนี้แนวรับยังเป็นต้นตอของความฉิบหายและเพิ่งถูกยิงไส้แตกมา 5 ลูก

ที่เห็นความแตกต่างได้ทันทีกับระบบนี้คือนักเตะหลายคน “รีแล็กซ์” มากขึ้นโดยเฉพาะ เฟร็ด และ วานบิสซาก้า ที่ผมมองว่าเล่นดีกว่าที่ผ่านมา

ด้วยความที่เกมรุกของ “คลับไก่” ไม่มีความน่ากลัวใดๆ กลายเป็นบอลระบบ “ซน” ที่ใครได้บอลต้องฝากไปที่แก นอกนั้นเกมไม่รู้จะไปขึ้นที่ใครแล้วนักเตะคนเดียวจะไปทำอะไรได้ล่ะครับ

การเข้าทำไม่มีแบบแผนใดๆ คิดอะไรไม่ออกก็ครอสเข้าเขตโทษ ทุกอย่างดูตันไปหมด

อย่างไรก็ตามตวามแตกต่างในวันนี้ คือ 2 ประตู World class ที่มาได้ถูกที่ถูกเวลา

โดยเฉพาะเม็ดแรกนอกจากจะหาดูไม่ได้ง่ายๆแล้วยังหาคนยิงไม่ได้ง่ายๆเช่นกัน

ต้องเป็นนักเตะระดับโลกเท่านั้นถึงจะจ่าย (แบบ บรูโน่) และยิงได้หมด ”เป๊ะ” (แบบ โรนัลโด้) ที่มีกองหลังขึ้นกระโดดโหม่งตัดหน้าทำลายจังหวะบอลอีกต่างหาก

ประตูนี้มาถูกเวลาเพราะอีก 6 นาทีกำลังจะจบครึ่งแรก ทำให้การลงสนามในครึ่งหลังทาง สเปอร์ส ต้องมาเปิดแลกมากขึ้น

อันเป็นที่มาของการดันไลน์สูง เมื่อคุณดันไลน์สูงแล้วมีนักเตะไม่นิ่งอย่าง โอลิเวอร์ สคิปป์ ที่จับบอลกระเด้งกระดอนจนถูกฉกจนเราได้เห็นประตู world class ลูกที่ 2 ของเกมนี้

3 นักเตะระดับทีมชาติที่เซนส์ทันกันทำให้เราได้เห็นประตู classic อีกลูกหนึ่งในซีซั่นนี้

เช่นเดียวกับลูกปิดกล่อง 3-0 ที่ตอกย้ำความ “ตลก” ในเกมรับของ สเปอร์ส คือไลน์แนวรับดันมาสูงแต่กลางดันไม่มีใครไล่บอล ผมเห็น ซน ไล่คนเดียวจนเป็นลิงชิงบอล (เจ้าตัวถึงกับมองขึ้นฟ้าหลังเห็นเพื่อนไม่ไล่) ในท้ายที่สุด มาติช แทงทะลุให้ แรชฟอร์ด หลุดไปยิงง่ายๆ

การเล่นโต้และสวนกลับ ณ เวลานี้จึงเป็นอะไรที่เหมาะกับ “ปีศาจแดง” มากที่สุดเพียงแต่ว่ามันอาจทำไม่ได้ทุกนัด อยู่ที่คู่ต่อสู้ด้วยว่าคือใครเพราะถ้าต้องเจอกับ เบิร์นลีย์ หรือ นอริช ทีมพวกนี้เขาก็ต้องชิงตั้งรับก่อน

สำหรับ นูโน่ เอสปิริโต้ ซานโต้ ผมเชื่อว่าลึกๆแกก็รู้ตัวนะว่าตอนนี้เหมือน dead man walking คือตายไปแล้วครึ่งตัว

ความเชื่อมั่นว่าแกคือคนที่ใช่ในสายตาแฟนบอลไม่เหลือแล้วครับ ไม่ต้องมองภาพใหญ่เอาแค่เปลี่ยนตัววันนี้เอา ลูคัส มูร่า ที่เล่นวูบวาบมีประโยชน์ในเกมรุกออกตั้งแต่นาที 54 จนถูกแฟนบอลโห่ทั้งสนาม

เป็นโค้ชที่เอาดีไม่ได้ซักทาง เกมรุกยิงไปแค่ 9 ลูก เกมรับโดนไป 16 ติดลบ 7 เรียกว่าจะยิงน้อยแต่เสียน้อยแบบ มูรินโญ่ ก็ไม่, ยิงเยอะเสียมากแบบ ปอเชตติโน่ ก็ไม่ใช่อีก

ทั้งนี้ทั้งนั้น ดาเนี่ยล เลวี่ ประธานสโมสรควรต้องพิถีพิถันเลือก “เคมี” โค้ชที่เข้ากับรากเหง้าการเล่นของทีมด้วยเพราะการเปลี่ยนโค้ชที่สไตล์ไปคนละทางมันก็เลี่ยงไม่ได้ที่ต้องเสริมทัพหนักกว่าปกติ ยิ่งเปลี่ยนถี่เท่าไหร่คุณล้าหลังทีมอื่นมากเท่านั้น

แต่สำหรับ “เฮียยิ้ม” เป็นจังหวะและโชคเหลือเกินที่ได้ นูโน่ มาต่ออายุขัยอย่างน้อยๆก็อีก 1 สัปดาห์และถือเป็นการซ้อมระบบหลัง 3 ที่ผมเชื่อว่าอาจะเป็นระบบหลักจนกว่าเก้าอี้จะขึ้นสถานะเป็น “เซฟโซน”


ลิเวอร์พูล 2-2 ไบรจ์ตัน

ผลเสมอที่ แอนฟิลด์ เป็นอะไรที่ผมชอบนะคืออารมณ์ไม่ “ใจสลาย” แต่เป็น “ยอมรับสภาพ” หากดูฟอร์มไบรจ์ตัน ในครึ่งหลังที่เหนือกว่าแบบถ้าเป็นมวยให้คะแนนแบบไม่ต้องคิดมาก 10-7

มันดีกว่าเยอะกับฟีล “นอนไม่หลับ” ประเภทรูปเกมเหนือกว่าแต่ยิงไม่ได้เอง แบบนี้ทรมานและกว่าจะ move on หลายวันนู่นเลย

ด้วยความสัตย์จริงผมไม่แปลกใจเลยกับคุณภาพของ ไบรจ์ตัน ตรงกันข้ามผม “เซอร์ไพรซ์” ้ด้วยซ้ำที่ลูกทีม แกรม พอตเตอร์ เล่นไม่เหมือนทีมที่ผมเคยชื่นชมและรู้จักหลังตามหลัง 2-0 ตั้งแต่ 24 นาทีแรก

ส่วนนึงอาจะเป็นเพราะ “นกนางนวล” เล่นแบบกลัว “หงส์แดง” เพรสหยองแหยงและเข้าบอลไม่ดุ ส่วนเกมรับดูจิตลอยๆไม่แน่นเหมือนเก่า

จุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้ พอตเตอร์ มองเห็นช่องโหว่ของเจ้าถิ่นคือ อ็อกซ์เลด เชมเบอร์เลน ลงมาแทน นาบิล เกอิต้า ตั้งแต่นาทีที่ 19

ครึ่งแรกเราอาจยังไม่เห็นปัญหาอะไรนักเพราะ ลิเวอร์พูล ทิ้งไป 2-0 แล้ว ก่อนโดนตีไข่แตกทดเจ็บซึ่งตรงนี้เองทำให้ พ็อตเตอร์ แก้เกมง่ายทันที

ระฆังหมดยกนี้เองที่ทำให้ พอตเตอร์ ลงครึ่งหลังมาพร้อมกับการเล่นที่เปลี่ยนไป คือแสดงตัวชัดเจนว่าสกอร์ตามลูกเดียวจะกลัวทำไม

จากที่คุมโซนในแดนตัวเองกลายเป็นเพรสใส่ซึ่งเราก็เห็นกันแล้วว่า OX กับ ค.โจนส์ ชั้นไม่ถึง ไม่ว่าจะรุกหรือรับส่งผลทำให้กลางเป็นรองตลอด 45 นาที

เป็นภาวะจำใจเพราะกลางตอนนี้ “หมดสต็อก” และเน่าแค่ไหนเราถึงเห็น JK ยอมเปลี่ยนเอา มินามิโนะ ที่แทบไม่เคยได้รับโอกาสในพรีเมียร์ลีกต้องลงมาช่วยก่อนหมดเวลา 3 นาที

ผมมองว่า คล็อปป์ แก้เกมช้าไม่สมฐานะเท่าไหร่เพราะทีมโดนขึงตลอดทั้งครึ่งหลังแต่ตัวแรกกว่าจะขยับก็ล่อไปนาที 79

บอลทะลุกลางถึงคู่เซนเตอร์แทบตลอดและอย่างที่ผมบอก 1 แต้มในวันนี้ถือว่าบุญโขแล้วเมื่อพิจารณาจากฟอร์มในครึ่งหลัง

จบเกมนี้สถิติใน แอนฟิลด์ ของ ลิเวอร์พูล ไม่ค่อยดีเท่าไหร่เพราะเพิ่งชนะแค่ 2 จาก 5 เท่านั้น (สวนทางกับนัดเยือนชนะ 4 เสมอ 1)

ปัญหาที่ตามมาหลังจากนี้ เราพอมองเห็นภาพลางๆแล้วว่าแดนกลางสำรองมาตรฐานคนละชั้นแถมเป็นตำแหน่งที่เป็นตัวกำหนด dynamic ที่เชื่อมรับและรุกเข้าด้วยกัน

แน่นอนครับพอกลางง่อยแบบนี้สังเกตได้เลยว่าแนวรุกตายเกลื่อนโดยเฉพาะ โม ซาลาห์ ครึ่งหลังหายเงียบ โผล่มาอีกทีคือยิงเข้าแต่ล้ำหน้า

การพลาดท่าทำหายไป 2 แต้มส่งผลทำให้ เชลซี ที่ยังรักษามาตรฐานไม่เสียแต้มในเกมที่ควรเสียหลังบุกไปถล่ม นิวคาสเซิ่ล 3-0 และ 2 ประตูมาจากการยิงเต็มข้อที่ไม่เหมือนกองหลังอย่าง รีซ​ เจมส์

จุดแข็งของ “สิงห์บลู” นอกจากเกมรับที่เสียน้อยที่สุดในลีก (3 จาก 10 นัด) แล้วคือหน้าที่การทำประตูกระจายไปทั่วทุกตำแหน่ง

ทีมที่สภาพไร้กองหน้ายังโกยชัยอย่างต่อเนื่องจนชนะนัดที่ 8 จาก 10 หนี “หงส์แดง” ไป 3 เป็นช่องว่างที่ทำให้ทีมของ โธมัส ทูเคิ่ล เหมือนมีหลักประกันให้พลาดได้ 1 หนแบบฟรีๆ

แถมไม่มีอะไรเป็นใจให้มากไปกว่านี้อีกแล้วเมื่อ แมนฯซิตี้ แพ้ล็อกถล่มผิดฟอร์มต่อ คริสตัล พาเลซ 2-0 จากความผิดพลาดคนเดียวเต็มๆทั้ง 2 จังหวะของ อายเมริค ลาปอร์ต ที่ท้ายที่สุดถูกไล่ออกอีกต่างหาก

แม้จบวีคนี้ แมนฯซิตี้ ถูก เชลซี ทิ้งไปแล้ว 5 แต้มแต่ที่น่าจับตามองคือ match day 11 ที่เป๊ป กวาดิโอล่า ต้องมาชดใช้กรรมจากการไม่ชนะ พาเลซ คือโปรแกรม a must win ในศึก แมนเชสเตอร์ ดาร์บี้ ที่ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา มีเดิมพันชีวิตตัวเองในทุกๆเกม

ถือว่ามาได้ถูกจังหวะเอามากๆเพราะไม่ว่าผลแพ้ชนะจะออกฝั่งไหนย่อมมีผู้เดือดร้อนแน่ๆครับ...


สถิติ สถิติ สถิติ

ในวัย 36 ปี 267 วัน, คริสติอาโน่ โรนัลโด้ เป็นนักเตะอายุมากที่สุดที่ยิงและจ่ายในเกมเดียวกัน (ในพรีเมียร์) นับตั้งแต่ ดิดิเยร์ ดร็อกบา เคยทำไว้เมื่อปี 2014 ที่ตอนนั้นอายุเท่ากันแถมบังเอิญว่าเป็นเกมพบ สเปอร์ส เหมือนกันอีกด้วย

ประตูที่ “โด้” แอสซิสต์ให้ เอดิสัน คาวานี่ เป็นครั้งแรกที่นักเตะอายุ 34 (หรือมากกว่านั้น) ประสานงานกันใน พรีเมียร์ลีก นับตั้งแต่ พอล สโคลส์ จ่ายให้ ไรอัน กิกซ์ ทำประตูในเกมพบ นิวคาสเซิ่ล เมื่อปี 2010

โรนัลโด้ ยิงประตูและแอสซิสต์พร้อมกันในพรีเมียร์ลีกเป็นครั้งที่ 12 โดย 3 จาก 12 ครั้งที่ว่ามี ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ รวมอยู่ด้วย

นอกจากนี้แข้งทีมชาติ โปรตุเกส ยิง 11 ประตูใส่ “ไก่เดือยทอง” ในทุกรายการและถือเป็นการยิงใส้มากกว่าทีมไหนๆอีกด้วย

สเปอร์ส ทำสถิติยิงน้อยที่สุดของสโมสรหลังผ่านไป 10 นัดนับตั้งแต่ฤดูกาล 2013-14 (ยิงได้ 9 เท่ากัน) และที่ตอกย้ำความห่วยของเกมรุกคือเกมที่เจอ เวสต์แฮม ในครึ่งหลังยิงไม่เข้ากรอบเลยและที่เจอ “ปีศาจแดง” ก็เช่นกัน

นี่เป็นครั้งที่ 250 ที่ ลิเวอร์พูล นำคู่ต่อสู้ใน พรีเมียร์ลีก ที่ แอนฟิลด์ อย่างน้อย 2 ประตูแต่ก็มีเพียง 6 ครั้งเท่านั้นที่พวกเขาไม่สามารถเก็บชัยได้และเป็นครั้งที่ 3 ภายใต้การทำทีมของ JK

เชลซี ชนะ 10 จาก 14 เกมนัดเยือนทุกรายการภายใต้ โธมัส ทูเคิ่ล (ที่เหลิอเสมอ 3 แพ้ 1) มีเพียง กุส ฮิดดิงค์ และ โจเซ่ มูรินโญ่ (13) ที่ชนะเกมเยือน 10 นัดไวกว่าเขา

จอร์จินโญ่ เป็นนักเตะในประวัติศาสตร์ พรีเมียร์ลีก ที่ยิงจุดโทษเข้า 10 ลูกติดต่อกัน

ไม่มีนักเตะคนไหนมีส่วนรวมกับประตูให้ เชลซี ในทุกรายการซีซั่นนี้มากไปกว่า รีซ เจมส์ อีกแล้ว (ยิง 4 จ่าย 3)

การไล่ อายเมริค ลาปอร์ต ในเกมพ่าย คริสตัลพาเลซ เป็นใบแดงใบแรกกในบ้านของ แมนฯซิตี้ (ในลีก) นับตั้งแต่ปี 2019 (แฟร์นานดินโญ่ vs แอสตัน วิลล่า) และเป็นหนแรกในครึ่งแรกนับตั้งแต่ปี 2017 (ไคล์ วอลเกอร์ vs เอฟเวอร์ตัน)

วิลเฟร็ด ซาฮา ยิงประตูในลีกลูกที่ 50 กลายเป็นนักเตะคนแรกที่ยิงได้มากขนาดนี้ในลีกสูงสุดให้ คริสตัล พาเลซ

เบิร์นลีย์ ยิง 3 ประตูในครึ่งแรกใน พรีเมียร์ลีก ที่ เทิร์ฟมัวร์ เป็นหนนแรกในประวัติศาสตร์ และเกมนี้ยังเป็นเกมลีกในบ้านนัดที่ 138 อีกด้วย
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ
ออนไลน์
นักบอลไทยพรีเมียร์ลีก
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 8159
ที่อยู่: ยุ่งน่ะ
โพสเมื่อ: Sun Oct 31, 2021 04:27
[RE: “ผี” ว่าแย่แล้วแต่ “ไก่” หนักกว่า // “หงส์” ไม่แพ้ก็บุญโข]
แค่ Liverpool ไม่ชนะผมก็นอนไม่หลับแล้วครับ
Feeling ต่างกับ week ที่แล้วอย่างสิ้นเชิง
กลางสัปดาห์เจองานยากอีก กับสภาพทีมแบบนี้มีสิทธิ์ไม่ชนะติดกันอีกนัด
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน


ออนไลน์
ดาวซัลโวโอลิมปิก
Status: Youth|Courage|Success
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 11 Jan 2011
ตอบ: 17433
ที่อยู่: Old Trafford, Sir Matt Busby Way, Stretford, Manchester M16 0RA, UK
โพสเมื่อ: Sun Oct 31, 2021 08:17
“ผี” ว่าแย่แล้วแต่ “ไก่” หนักกว่า // “หงส์” ไม่แพ้ก็บุญโข
ผจก.ไม่ยิ้ม vs ผจก.นักยิ้ม
โพสต์บนแอป Soccersuck บน Android
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
#REDMANCUNIAN #GGMU



ออฟไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 08 Sep 2013
ตอบ: 968
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun Oct 31, 2021 08:54
“ผี” ว่าแย่แล้วแต่ “ไก่” หนักกว่า // “หงส์” ไม่แพ้ก็บุญโข
สงสัยงานนี้มีกลับมาทบทวนและจริงจัง กับแผนหลัง 3 ตัวแน่นอน ทำประตูไม่ได้ก็อย่าเสียประตูก่อน
โพสต์บนแอป Soccersuck บน Android
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 12 May 2008
ตอบ: 295
ที่อยู่: 18/26 พระยาเมืองซอย 12 หมู่ 5 ต.รูสะมิแล อ.เมือง จ. ปัตตานี
โพสเมื่อ: Sun Oct 31, 2021 10:01
[RE: “ผี” ว่าแย่แล้วแต่ “ไก่” หนักกว่า // “หงส์” ไม่แพ้ก็บุญโข]
แมนยูเราอยู่ในช่วงขาลง แฟนๆทำใจนะครับ ขนาดเราชนะก็จะถูกมองว่ามาจากเล่นกับทีมที่เล่นไม่ได้ความ เฮียยิ้มของเราก็ยังถูกมองว่าไร้ฝีมือเหมือนเดิม ร่วมกันเชียร์ต่อไปนะครับ จาก..ผีแก่ปัตตานี
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
ซุปตาร์โอลิมปิก
Status: ลูกรัก FA
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 08 May 2021
ตอบ: 3449
ที่อยู่: The Football Association
โพสเมื่อ: Sun Oct 31, 2021 11:36
[RE: “ผี” ว่าแย่แล้วแต่ “ไก่” หนักกว่า // “หงส์” ไม่แพ้ก็บุญโข]
ขอเอาความสงสารคืนจากแฟนผีที่ต้องทนเฮียยิ้ม กลับมาให้แฟนไก่ที่ต้องทนนูโน่ด้วยครับ

ผมชอบคู่ลิเวอร์พูล-ไบร์ทตันมากๆ จังหวะเข้าทำยอดเยี่ยมมากทั้งสองทีม เกมส์คุณภาพทั้งโค้ชทั้งผู้เล่น
2
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
สาวกปีศาจแดงแฟน SS
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 10 Nov 2018
ตอบ: 4335
ที่อยู่: เหนือสุดในสยาม CRUTD
โพสเมื่อ: Sun Oct 31, 2021 23:08
[RE: “ผี” ว่าแย่แล้วแต่ “ไก่” หนักกว่า // “หงส์” ไม่แพ้ก็บุญโข]
กับผีนี่เก่งจริงๆ แต่ทำไมกับไบรท์ตันคลองบอลสู้ไม่ได้เฉย
หรือเอาโควต้าไปยิงผีหมดแล้ว ต่อจากนี้ไปก็มีแต่เสมอกับแพ้?
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
Manchester United & Chiangrai United
ออฟไลน์
นักเตะตำบล
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 18 Sep 2010
ตอบ: 1687
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Nov 02, 2021 12:04
“ผี” ว่าแย่แล้วแต่ “ไก่” หนักกว่า // “หงส์” ไม่แพ้ก็บุญโข
puaj_mutd พิมพ์ว่า:
กับผีนี่เก่งจริงๆ แต่ทำไมกับไบรท์ตันคลองบอลสู้ไม่ได้เฉย
หรือเอาโควต้าไปยิงผีหมดแล้ว ต่อจากนี้ไปก็มีแต่เสมอกับแพ้?  


เกมส์นี้​ คือ​ Ox กับโจนส์​ เสียบอลโคตรง่าย​ ซ้อนแบ็คก็ห่วย​ ต่างจาก​ เกต้า​ ที่ว่าแย่เกมส์รับแล้วแต่ถ้าเทียบ​ Ox ที่ยืนตำแหน่งดีกว่ามากเลย​ โจนส์นี่ตามสภาพเลยจริงๆเกมส์แมนยูก็แย่​ แต่มีโจต้าลงมาช่วยเกมส์รับฝั่ง​นั้น​ และ​ โจต้าก็เอาบอลขึ้นหน้สได้ดีด้วย​ ทำให้โจนส์แผลไม่เปิดมาก

OX กับ​ โจนส์​ ทำให้กลางเราเป็นรองชัดเจน​ ยงนอกจากเปืดบอลให้มาเน่เขกแล้วไม่มีจังหวะจ่ายสวยๆ​ หรือวิ่งทำทางสวยๆเลย​ หรือแสดงให้เห็นจินตนาการในการจ่ายแกะเพลสเลย​ น้ามิลอายุขนาดนี้ยังทำได้ดีกว่าหลายขุม​ ก็ดันเจ็บไปอีก

​แถมเกมส์รุกฝั่งซ้ายก็โคตรบอด​ นาทีนี้เอาโจต้าไปยืนซ้ายและคอยสลับตำแหน่งกะฟีโน่ตอนสอดมายิงยังดีกว่าเอามาเน่ไปยืน มาเน่นี่นอกจากลูกที่ยิงได้แล้ว​ กาวตลอดเกมส์

ต้องลุ้นให้​ ติอาโก้​ กับ​ ฟาบินโญ่ กลับมา​ ไวๆ​ และอย่าเจ็บอีก​ กลางเราน่าจะกลับมาสมดุลอีกครั้ง

ถ้ายังเป็น​ 2 คนนี้พร้อมแพ้ทุกทีม
โพสต์บนแอป Soccersuck บน Android
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ไปหน้าที่ 1
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel