'วินิซิอุส' เบิ้ลโชว์! ราชันซิวเอลเช่ 10 คน 2-1 ขึ้นฝูง
วินิซิอุส จูเนียร์ โชว์ฟอร์มเยี่ยมอีกแล้วเมื่อเป็นคนยิงให้ เรอัล มาดริด ออกนำและหลัง เอลเช่ เหลือ 10 คนก็เป็น วินิซิอุส คนเดิมมายิงประตูฝังเกมนี้ ราชันชุดขาว พลาดเสียประตูท้ายเกมแต่ยังเอาชนะไป 2-1 ขยับขึ้นมาเป็นจ่าฝูงโดยมีแต้มเท่า เรอัล โซเซียดาด แต่ประตูได้เสียมากกว่า
เอลเช่
Starting Formation: 4-4-2
21.
โอมาร์ มาสคาเรลล์
81'
15.
ฮาเวียร์ ปาสตอเร่
71'
16.
ฟีเดล
81'
12.
ลูคัส เปเรซ
71'
9.
ลูคัส โบเย่
81'
ตัวสำรอง
23.
อิวาน มาร์โคเน่
81'
2.
เกราร์ด กุมเบา
71'
18.
ดาริโอ เบเนเด๊ตโต้
71'
10.
เปเร่ มิญา
81'
11.
โฆเซ่ อันโตนิโอ โมเรนเต้
81'
ฟุตบอลลาลีก้า
สนาม เอสตาดิโอ มานูเอล มาร์ติเนซ บาเลโร่
วันที่ 30 ตุลาคม 2564
กรรมการ ริคาร์โด้ เด บูร์กอส
เอลเช่
1
2
เรอัล มาดริด
0-1 วินิซิอุส 22'
0-2 วินิซิอุส 73'
เอลเช่ เปลี่ยนไลน์อัพจากเกมก่อนตำแหน่งเดียวด้วยการให้ ปาสตอเร่ ออกสตาร์ทแทนที่ของ โมเรนเต้
ส่วน มาดริด ไร้ เบนเซม่า ในแดนหน้าเลยให้ มาเรียโน่ ลงแทน นอกนั้นก็โรเตชั่นนักเตะในตำแหน่งอื่นและส่ง มาร์เซโล่ เป็นตัวจริงด้วย
ราชันทักทายก่อน โรดรีโก้ ยิงไกลโดนปัด
มาถึง มาดริด ขอหาโอกาสทักทายกันก่อนเลยด้วยจังหวะ โรดรีโก้ ทางขวารับบอลมาแล้วหันหาประตูก่อนลองยิงไกลแต่ยังโดนปัดออกมาได้
ราชันมาใหม่ โรดรีโก้ ยิงโค้งๆหลุดกรอบ
มาดริด บุกมาได้โอกาสจบกันอีกครั้งด้วยจังหวะ อลาบา ค่อยๆพาบอลลุยมาก่อนฝาก มาเรียโน่ หน้าเขตโทษดีดส้นให้ โรดรีโก้ จบด้วยการยิงโค้งๆออกหลัง
โรดรีโก้ เจ็บเสียแล้วต้องให้ อเซนซิโอ ลงแทน
แต่แล้ว มาดริด จำเป็นต้องเปลี่ยนตัวคนแรกเพราะ โรดรีโก้ ดันมีอาการบาดเจ็บที่แฮมสตริงเลยต้องให้ อเซนซิโอ ลงสนามแทน
เอลเช่ลุ้นบ้าง โบเย่ ยิงมุมแคบเจอปัดทิ้ง
เอลเช่ บุกมาหลายทีแล้วแต่จังหวะนี้ลุ้นมีประตูนำ จากที่โต้กลับ ฟีเดล วงกลมกลางสนามจ่ายขึ้นหน้าให้ โบเย่ พักอกพาบอลต่อเข้าเขตโทษไปซัดมุมแคบแต่ยังโดน คูร์กตัวส์ เซฟเอาไว้
เขาอีกแล้ว! มาเรียโน่ ดีดส้นให้ วินิซิอุส หลุดไปยิงนำ
พอ ราชัน บุกมาใหม่ก็ได้ประตูออกนำเป็นที่เรียบร้อย จุดเริ่มต้นจาก เอลเช่ จ่ายบอลกันเสียเข้าทาง คาเซมิโร่ กลางสนามส่งขึ้นหน้าให้ มาเรียโน่ ดีดส้นออกมาทางซ้ายที่ วินิซิอุส เข้าเขตโทษก่อนซัดเรียดเสียบเสาไกล มาดริด ออกนำ 1-0
เกือบสอง! มาเรียโน่ หลอกโกลได้มุมแคบเกินยิงเข้างตาข่าย
เกือบจะมีลูกสองให้ มาดริด เข้าแล้วหลังจากการจ่ายบอลมาริมเส้นขวาแล้ว โมดริช ดีดไซด์ก้อยขึ้นหน้าให้ มาเรียโน่ โฉบมาเอาบอลก่อนเบียดชนะกองหลังหลุดเข้าเขตโทษ มายึกยักหลอกผู้รักษาประตูหลบมีช่องแต่มุมแคบจัดเลยยิงเข้าข้างตาข่าย
เอลเช่มาอีกที เปเรซ โอเวอร์เฮดคิกโด่งไป
เอลเช่ พยายามตอบโต้มาแล้วก็ได้จบด้วยจังหวะทำชิ่งทางซ้ายแล้ว โมฮิก้า ครอสจากซ้ายนเข้ามาจบด้วย เปเรซ พยายามโอเวอร์เฮดคิกโด่งไปเยอะ
ได้เสียว! ปาสตอเร่ ดีดส้นมา เปเรซ ยิงออกเสาสอง
เอลเช่ ลุ้นเกือบจะได้ประตูตีเสมอ ด้วยความขยันของ โบเย่ ไปไล่บี้ปั้มบอลมาจาก อลาบา ตรงเขตโทษทางขวาพยายามเปิดเข้ามาเสาแรกบอลแฉลบโด่งมี ปาสตอเร่ วิ่งมาดีดส้นย้อนหลังที่ เปเรซ ยิงส่งบอลหลุดออกเสาไกล
ราชันได้เตะมุม อลาบา โหม่งเช็ดออกเสาไกล
เข้าท้ายครึ่งแรก มาดริด ได้ะเตะมุมจากทางซ้าย โครส เป็นคนเปิดเข้ามาตรงเสาแรกให้ อลาบา โหม่งเช็ดไปเสาสองแต่ยังหลุดออกหลัง
ราชันลุยใหม่ อเซนซิโอ ยิงบางไป-โครส ซัดก็ติดบล็อก
เข้าครึ่งหลัง มาดริด เดินเกมมาหาจังหวะจบได้ลุ้นเมื่อ บาซเกซ เปิดจากขวามาเสาแรก อเซนซิโอ ยิงโดนไม่เต็มเท้าบอลไปออกอีกฝั่งแต่ยังตามเก็บได้ก่อนจบลงด้วย โครส สับไกในเขตโทษโดนบล็อก
เอลเช่ได้จบ ฟีเดล วอลเล่ย์ ออกข้างตาข่าย
เอลเช่ มีจังหวะโต้ขึ้นมาถึงหน้าเขตโทษก่อนจะถ่ายบอลออกไปทางขวา ปาสตอเร่ รับบอลแล้วครอสข้ามไปเสาไกลให้ ฟีเดล วอลเล่ย์เฉี่ยวตาข่าข้าง
เอลเช่ได้ลุ้น มาร์เซโล่ สกัดเสียวเกือบเข้า-กูตี ยิงเข้าซอง
จังหวะบุกหนนี้ของ เอลเช่ แอบได้ลุ้นหลัง โมฮิก้า ขึ้นทางซ้ายแล้วเปิดเรียดเข้าไปด้านในเพื่อนชาร์จไม่ได้แต่บอลแฉลบมาถึง มาร์เซโล่ สกัดลอยโด่งข้ามคานไปไม่ไกลเสียวจะเข้าประตู
พอจังหวะเตะมุม เปเรซ เปิดเข้ามาถึงเสาสองให้ กูตี ได้ยิงแต่เข้าซอง คูร์กตัวส์
เอลเช่งานงอก กูตี โดนเหลืองสองไล่ออก
แต่แล้ว เอลเช่ สถานการณ์แย่ลงเพราะต้องมาเหลือนักเตะเพียงแค่ 10 คนเพราะ กูตี ไปเสียบ โครส เข้าให้โดยที่ตัวเองมีเหลือติดตัวอยู่แล้วเลยโดนเหลืองสองไล่ออก
การ์บาฆาล เปิดให้ มาเรียโน่ โหม่งโดนเซฟไว้
ราชัน มากันอีกครั้งหลัง อเซนซิโอ เกือบเสียบบอลในเขตโทษยังจ่ายย้อนมาให้ การ์บาฆาล เปิดจากขวาไปเสาไกลให้ มาเรียโน่ เบียดโหม่งได้แต่โดนรับไว้
คนเดิม! โมดริช แทงให้ วินิซิอุส ดีดมุมแคบตุงสอง
แล้ว มาดริด ก็มาได้ประตูเพิ่มเรียบร้อยและไม่ใช่ใครที่ไหน วินิซิอุส อีกแล้ว ด้วยบอลจาก โมดริช รับมาแล้วแทงตามช่องให้ วินิซิอุส สอดเข้าเขตโทษแตะไปมุมแคบก่อนดีดข้ามตัว กาซิญ่า เข้าเสาไกลกลายเป็น 2-0
โครส ได้ยิงไม่จับเข้าแค่ข้างตาข่าย
เข้าช่วงท้ายแล้วเกมเป็นของ มาดริด อยู่ฝั่งเดียวเพราะ เอลเช่ ตัวน้อยกว่าทำอะไรยากเย็น มาได้จังหวะที่บอลหลุดมาเข้าทาง โครส หน้าเขตโทษทางขวายิงแบบไม่จับแต่ยังเข้าข้างตาข่าย
ราชันจ่ายพลาด เอลเช่ตีไข่แตกไล่จี้
แต่แล้ว มาดริด มาพลาดเสียประตูเข้าให้ หลัง คาเซมิโร่ จ่ายบอลไปติดหัวนักเตะ เอลเช่ แล้วเด้งมาเข้าทาง มิญา หลุดเข้าเขตโทษมายิงผ่าน คูร์กตัวส์ เข้าไปได้เลยไล่มาเหลือ 2-1
จบเกม มาดริด เอาชนะ เอลเช่ ที่เหลือ 10 คน 2-1 ทำให้พวกเขาขยับขึ้นมาเป็นจ่าฝูงโดยมีแต้มเท่า โซเซียดาด ที่จะลงสนามในวันพรุ่งนี้ (อาทิตย์)
เรอัล มาดริด
Starting Formation: 4-3-3
12.
มาร์เซโล่
65'
17.
ลูคัส บาซเกซ
65'
10.
ลูก้า โมดริช
84'
20.
วินิซิอุส จูเนียร์
85'
21.
โรดรีโก้
18'
ตัวสำรอง
7.
เอแด็ง อาซาร์
85'
2.
ดานี่ การ์บาฆาล
65'
11.
มาร์โก้ อเซนซิโอ
18'
23.
แฟร์ล็องด์ เมนดี้
65'
25.
เอดูอาร์โด้ คามาวิงก้า
84'
แก้ไขล่าสุดโดย redenzo เมื่อ Sat Oct 30, 2021 20:58, ทั้งหมด 4 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ
: 0 ใบ
: 0 ใบ
My Locker
