KDB ปิดท้าย! 'แบร์นาร์โด้' ยิงด้วยเรือเจาะเบิร์นลี่ย์ 2-0 รั้งที่ 3
ไม่ใช่ขนมกรุบหลัง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ครองเกมเหนือกว่าแต่คู่แข่งก็เล่นเกมรับกันดี ยังไงยังได้ แบร์นาร์โด้ ซิลวา กับ เควิน เดอ บรอยน์ ช่วยกันยิงคนละลูกเก็บชัยเหนือ เบิร์นลี่ย์ 2-0 ส่งให้พวกเขารั้งอันดับ 3 ตามจ่าฝูง เชลซี อยู่ 2 คะแนน
แมนเชสเตอร์ ซิตี้
Starting Formation: 4-3-3
14.
อายเมอริค ลาปอร์ต
72'
6.0
17.
เควิน เดอ บรอยน์
84'
7.0
20.
แบร์นาร์โด้ ซิลวา
90+1'
8.0
ตัวสำรอง
3.
รูเบน ดิอาส
72'
6.0
25.
แฟร์นานดินโญ่
84'
-
80.
โคล พัลเมอร์
90+1'
-
ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก
สนาม เอติฮัด สเตเดี้ยม
วันที่ 16 ตุลาคม 2564
กรรมการ มาร์ติน แอตกินสัน
แมนเชสเตอร์ ซิตี้
2
0
เบิร์นลี่ย์
1-0 ซิลวา 12'
2-0 เดอ บรอยน์ 70'
ซิตี้ โรเตชั่นตามสไตล์โดยคงไว้เพียงแค่แผงกลางชุดเดียวกับเกมเสมอ ลิเวอร์พูล นอกนั้นก็สลับหลายจุดรวมถึงการให้ สเตอร์ลิ่ง เป็นตัวจริงอีกครั้ง
เบิร์นลี่ย์ มาด้วยแผนเน้นอัดแดนกลางมากขึ้น รวมถึงเปลี่ยนแบ็คซ้ายหลังไม่มี เทย์เลอร์ นอกจากนี้ยังได้ คอร์เนต์ กลับมาลงเล่นได้
เรือมาแล้ว! โฟเดน ยิงติดเซฟ แบร์นาร์โด้ ซ้ำออกนำ
ช่วงแรก แมนฯ ซิตี้ ครองเกมตามสไตล์แล้วก็มีประตูนำเรียบร้อย หลังมาขึงอยู่พักนึงก่อนที่ คันเซโล่ ตามเก็บบอลมุมธงทางขวาแล้วจ่ายให้ แบร์นาร์โด้ เข้าเขตโทษปาดไปตรงกลาง โฟเดน ยิงติดเซฟสุดท้าย แบร์นาร์โด้ ตามซ้ำไม่เหลือ แมนฯ ซิตี้ นำ 1-0
เรือค่อยๆขึงไปเจอเบิร์นลี่ย์แพ็คเกมรับแน่น
หลังจากนั้นก็ยังไม่ต่างจากเดิมเท่าไหร่ แมนฯ ซิตี้ มาขึงอยู่ตรงเขตโทษ เบิร์นลี่ย์ นานสองนานแต่ก็โดนแพ็ครับแน่นลงไปกองแถวเขตโทษหมดเลยไม่มีช่องให้ได้ง้างไกกันง่ายๆ
ประมาทไม่ได้! เบิร์นลี่ย์โต้กลับ คอร์เนต์ ยิงติดเซฟ
แล้ว เบิร์นลี่ย์ ได้ทีโต้กลับเกือบจะมีประตูตีเสมอเข้าให้ หลังจาก คอร์ก ในแดนตัวเองแทงยาวขึ้นหน้ามี คอร์เนต์ วิ่งสอดมาแตะบอลเข้าเขตโทษก่อนจะยิงไปติดเซฟ คอร์เนต์ ตามไปเก็บกลับตัวยิงก็ข้ามคาน
โรดรี้ วางให้ มาห์เรซ ยิงไม่ต้องจับตรงตัว
กลับมาเป็น แมนฯ ซิตี้ ได้โอกาสจบหลังจาก โรดรี้ ตรงกลางรับบอลมาแล้ววางยาวเข้าเขตโทษทางขวาทันทีมี มาห์เรว สอดไปพยายามยิงจังหวะแรกแต่เบาเข้าซอง โป๊ป
บอลแฉลบหา มาห์เรซ สับไกก็โด่งไปเยอะ
เรือใบ มาได้จบอีกแล้วเมื่อ ลาปอร์ต ทิ้งบอลให้กับ โฟเดน วิ่งแข่งกับกองหลังตามไปเก็บในเขตโทษทางซ้ายเปิดแฉลบมาตรงกลางเข้าทาง มาห์เรซ วิ่งมายิงแต่ก็โด่งไปเยอะเลย
คันเซโล่ ตักให้ ราฮีม ทิ้งตัวยิงโดนบล็อกไว้
เข้าท้ายครึ่งแรกมีจังหวะให้ แมนฯ ซิตี้ อีกเมื่อ คันเซโล่ สอดทะลุไปถึงสุดเส้นหลังแล้สตักมาตรงกลางเขตโทษบอลหลุดถึง สเตอร์ลิ่ง ทิ้งตัวยิงไปติดบล็อก
แบร์นาร์โด้ ได้ซัดอีกส่งบอลข้ามคาน
แมนฯ ซิตี้ลุ้นอีกทีหลัง เดอ บรอยน์ หน้าเขตโทษเบิ้ลให้ แบร์นาร์โด้ ในกรอบทำเหมือนจะล็อกเข้าขวาก่อนโยกไปมุมแคบแล้วสับไกข้ามคาน
ไม่สอง! มาห์เรซ ง้างอีกแล้วเช็ดคานออก
กลับมาครึ่งหลังเกือบมีประตูเพิ่มให้ แมนฯ ซิตี้ ทันทีเมื่อ สเตอร์ลิ่ง ทางซ้ายเลี้ยงจี้ใส่ตัวประกบก่อนส่งต่อ แบร์นาร์โด้ สอดมาสวยหักเข้ากลางบอลหลุดมาหา มาห์เรซ ยิงแบบไม่ต้องจับส่งบอลไปเช็ดคานออก
ทำของเสีย! เบิร์นลี่ย์เพรสจนได้บอลมาแต่ บาร์นส ยิงกาก
เบิร์นลี่ย์ อุตส่าห์ไล่บีบจนได้บอลมาแต่ทำเสียโอกาส หลังไปเพรสซิ่งสูงถึงเขตโทษกันจนมีจังหวะจ่ายพลาดเข้าเท้า แม็คนีล ส่งต่อ บาร์นส ในเขตโทษได้ยิงแต่เหมือนส่งคืนหลังมากกว่าโดนรับง่ายๆ
เรือได้จบอีกแต่ ลาปอร์ต ยิงข้ามคาน
ลูกสองของ แมนฯ ซิตี้ ยังไม่มาหลังเป็นจังหวะต่อจากเตะมุมเปิดย้อนออกมาหา มาห์เรซ หน้าเขตโทษลองเปิดเข้าไปอีกทีติดแฉลบมาหา ลาปอร์ต ได้ยิงแต่ก็ข้ามคาน
สักที! บอลเข้าทาง KDB ยิงเสียบเสาไกลเรือนำห่าง
ในที่สุดลูกสองของ เรือใบ ก็มาจนได้ เริ่มจากแย่งบอลกลับมาตรงกลางแล้ว มาห์เรซ พาขึ้นมาฝากต่อ เดอ บรอยน์ ทางขวาจะปาดไปตรงกลางติดบล็อกเบียดแย่งกันสุดท้ายเข้าทาง เดอ บรอยน์ วิ่งมายิงเข้าเสาไกลนำ 2-0
เบิร์นลี่ย์ได้โอกาส บาร์นส ยิงหลุดกรอบ
เบิร์นลี่ย์ ขอลุ้นตีไข่แตกหน่อยหลังจากหน้าเขตโทษบอลเข้าทาง เวสต์วูด จ่ายให้ บาร์นส ตรงหัวกะโหลกกลับตัวยิงส่งบอลข้ามคาน
ฟรีคิกเบิร์นลี่ย์เปิดมาลุ้น วูด ยิงหลุดออกหลัง
ฟรีคิกของ เบิร์นลี่ย์ เกือบจะกลายเป็นประตูตีไข่แตกหลังจากเปิดเข้ามาแล้ว คอลลินส์ โหม่งชงเข้าทาง วูด ทิ้งตัวยิงระยะไม่ไกลหลาแต่ก็ส่งบอลออกหลังไป
จบเกม แมนฯ ซิตี้ เอาชนะ เบิร์นลี่ย์ ไป 2-0 ผลงานในลีกไม่แพ้ใครมา 7 เกมหลังสุดและรั้งในอันดับ 3 ตาม เชลซี จ่าฝูงอยู่ 2 คะแนนด้วยกัน
เบิร์นลี่ย์
Starting Formation: 4-5-1
4.
แจ๊ค คอร์ก
72'
6.0
20.
มักซ์เวล คอร์เนต์
56'
6.0
9.
คริส วูด
82'
5.5
ตัวสำรอง
7.
โยฮันน์ กุดมุนด์สัน
72'
6.0
10.
แอชลี่ย์ บาร์นส
56'
5.5
19.
เจย์ โรดริเกซ
82'
-
แก้ไขล่าสุดโดย redenzo เมื่อ Sun Oct 17, 2021 01:37, ทั้งหมด 7 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ
: 0 ใบ
ดีนะนำเร็ว ภาพรวมหืดจับมากกว่าจะชนะ แบร์นาโด้ยิ่งเล่นยิ่งดี ส่วนด.ช.ราฮีม หมดสภาพจริงๆ 
My Locker
