น้าแจ้ไหวไหม!? เบนซ์ ซัดไม่พอ "ราชัน" โดนนกแก้วน็อค 2-1
เรอัล มาดริด ยังหาฟอร์มเก่งไม่เจอเมื่อพวกเขาบุกไปแพ้ทีมน้องใหม่อย่าง เอสปันญอล 2-1 แถมเป็นการโดนอดีตเด็กปั้นของพวกเขาเองอย่าง ราอูล เด โตมาส และ อเล็กซ์ บิดัล ซัดคนละประตู แม้ช่วงท้าย คาริม เบนเซม่า จะยิงตีตื้นแต่ไล่ไม่ทัน ทำให้ราชันชุดขาวแพ้เกมลีกนัดแรกในฤดูกาลนี้ แต่ยังมี 17 คะแนนจาก 8 นัด นำจ่าฝูงร่วมกับแอตเลติโก้ มาดริด
เอสปันยอล
Starting Formation: 4-1-4-1
12.
ออสการ์ กิล
81'
6.5
10.
เซร์กี้ ดาร์เดร์
82'
7
14.
ออสการ์ เมเลนโด้
58'
6.5
23.
อาเดรียน เอ็มบาร์บ้า
65'
7.5
22.
อเล็กซ์ บิดัล
65'
7.5
ตัวสำรอง
17.
ดิแดค บีญ่า
81'
6
15.
ดาบิด โลเปซ
82'
6
7.
อู่ เล่ย
65'
6
6.
มานูเเอล มอร์ลาเนส
58'
6
21.
นิโคลาส เมลาเหม็ด
65'
6
ลาลีก้า
สนาม อาร์ซีดีอี สเตเดี้ยม
อาทิตย์์ที่ 3 ตุลาคม 2564
กรรมการ กีเญร์โม กัวตร้า
เอสปันยอล
2
1
เรอัล มาดริด
1-0 ราอูล เด โตมาส 17'
2-0 บิดัล 60'
โครสคัมแบ็คตัวจริง
เรอัล มาดริด สะดุดมา 2 นัดติด เกมนี้พวกเขาได้ โครส หายเจ็บกลับมาลงสนามเป็นตัวจริงได้เป็นครั้งแรกในฤดูกาลนี้ โดยจะยืนกลางร่วมกับ โมดริช,คามาวินก้า แนวรุกใช้เป็น เบนเซม่า,วินิซิอุส,บัลเบร์เด้
เอสปันยอลมาเล่น 4-1-4-1 เกมนี้ยังมี ราอูล เด โตมาส ยืนค้ำหน้าและให้ เอ็มบาร์บ้า,ดาร์เดร์,เมเลนโด้,บิดัล
• เรอัล มาดริด ชนะ 15 จาก 16 นัดหลังที่เจอ เอสปันยอล
• เรอัล มาดริด ไม่แพ้ในลีก 25 นัดติด
• เอสปันยอล ไม่ชนะในลาลีก้า 16 จาก 17 นัดหลัง
ราชันฉวยโอกาสทักทายก่อน
โอกาสลุ้นครั้งแรกในเกมเป็นของมาดริด เป็นจังหวะที่เหมือนจะไม่มีอะไรแต่เปโดรซ่าไปจ่ายบอลขวางหน้าบ้านตัวเองแล้วโดนคามาวินก้าดักได้ในกรอบเเขตโทษ เขาพยายามดึงจังหวะก่อนแปะให้เบนเซม่า แปด้วยซ้าย แต่บอลพุ่งเรียดไปตรงตัวติดเซฟโลเปซ
เอ็มบาร์ว้ากระชากซัดแฉลบ
เอสปันยอลได้ลุ้บ้างเหมือนกัน จากจังหวะที่เอ็มบาร์บ้ากระชากบอลมาที่หน้ากรอบเขตโทษมาดริด ก่อนที่เขาจะเลือกยิงเองด้วยขวา บอลไปแฉลบบล็อคพุ่งแรกก่อนที่คูร์กตัวส์จะเอาชัวร์พุ่งปัดออกหลัง
RDT โฉบเสาแรกไม่เหลือ 1-0 นกแก้วเฮนำ!
ทำไปทำมากลายเป็นเอสปันยอลที่ได้ประตูขึ้นนำไปก่อนในเกมนีั เป็นจังหวะที่เอ็มบาร์บ้าได้จังหวะกระชากบอลหลุดไปถึงเส้นหลังฝั่งขวาก่อนเปิดเรียดไปเสาแรกให้ RDT โฉบชาร์จที่เสาแรกตุงตาข่าย 1-0 ทันทีและเป็นการยิงทีมเก่าของเขาด้วย
เบนว์วอลเลย์ตรงตัวโลเปซ
โอกาสได้ลุ้นของราชันชุดขาว จากจังหวะที่เบนเซม่าได้เหลี่ยมวางเท้าวอลเลย์ด้วยขวาจากริมกรอบเขตโทษ บอลพุ่งตรงกรอบแต่ก็ยังไปติดเซฟโลเปซ
เด โตมาสได้ซัดแต่หลุดกรอบ
เกมผ่านมาถึงช่วงท้ายครึ่งแรก เอสปัญอลได้ลุ้นบวกเพิ่มจากจังหวะเอ็มบาร์้าพาบอลพลิ้วเขาไปในกรอบเขตโทษฝั่งขวาก่อนไหลให้เด โตมาสซัดเร็วด้วยซ้ายแต่บอลพุ่งหลุดกรอบไป
มิลิเตาโขกเช็ดหลุดเสาสอง
ราชันมีลุ้นตีเสมอจากจังหวะที่อลาบ้าเปิดฟรีคิกจากทางฝั่งซ้ายเข้าไปในกรอบเขตโทษแล้วเป็นมิลิเตาที่เทคขึ้นโหม่งสะบัดโดนบางไปนิดทำให้บอลเปลี่ยนทางหลุดเสาสองไป
สุดท้ายจบครึ่งแรกเป็นเอสปันยอลที่พลิกขึ้นนำไปก่อนจากลูยิงของเด โตมาส ฝั่งราชันครองบอลมากกว่าก็จริงแต่ยังไม่ชัดเจนในจังหวะสุดท้าย
มิลิเตาเทคโหม่งหลุดเสาสอง
เริ่มครึ่งหลังมามาดริดโหมบุกเข้าใส่และเกือบได้ประตูตีเสมอ จากจังหวะนี้ที่โครสเปิดเตะมุมทางฝั่งซ้ายเข้าไปตรงกลางแล้วเป็นมิลิเตาที่เทคโหม่งเน้นๆ แตะเขาสะบัดบางไปนิดทำให้บอลหลุดเสาสองไปอีกแล้ว
โดนไปอีก!บิดัลโซโล่ซัดหาย 2-0 ราชันงานเข้าหนัก
แล้วทำไปทำมากลายเป็นเอสปันยอลที่ได้ประตูหนีห่างเป็น 2-0 จากจังหวะที่บิดัลรับบอลจากบาเร่ตรงกลางสนามก่อนกระชากหนีโมดริชมาที่หน้ากรอบเขตโทษก่อนแตะลอดขานาโช่หลุดเข้าไปแปเน้นๆในกรอบเขตโทษสวนตัวคูร์กตัวส์เบียดเสาแรกตุงตาข่ายไปเลย
ดาร์เตร์หลุดเดี่ยวแปออกซะงั้น
เอสปันยอลน่าได้ประตูที่สามแบบสุดๆ จากจังหวะสวนกลับเร็วแล้วแนวรับมาดริดผิดพลาดทำให้ดาร์เดร์ได้โอกาสกระชากหลุดเดี่ยวไปยิงล่อเป้า แต่เขาดันแปเรียดสวนตัวคูร์กตัวส์หลุดกรอบไปอย่างน่าผิดหวัง
เบนซ์ซัดหายไม่ได้เฮ
เรอัล มาดริด ส่งบอลตุงตาข่ายจากจังหวะที่เบนเซม่าหลุดไปยิงในกรอบเขตโทษ แต่ยังไม่ทันได้เฮผู้ตัดสินก็เป่านกหวีดว่าเป็นจังหวะล้ำหน้าของโยวิชไปเสียก่อน
เอาเว้ย!เบนซ์โชว์ซัดหาย 2-1 ราชันตีตื้น
แล้วความพยายามของมาดริดมาเป็นผล พวกเขาตีตื้นไล่มาเป็น 2-1 จนได้ จากจังหวะสวนกลับเร็วที่เบนเซม่าได้กระชากมาที่หน้ากรอบฝั่งซ้ายก่อนจะเลี้ยงเลาะลากตัดเข้าขวาแล้วได้เหลี่ยมปั่นเน้นๆ บอลพุ่งแรงเบียดเสาขวามือเข้าไปแบบเด็ดขาด
อลาบ้าปั่นฟรีคิกข้ามคาน
ราชันมาได้ฟรีคิกหน้ากรอบเขตโทษเยื้องทางขวา เป็นอลาบ้าที่รับหน้าที่สืบเท้าปั่นด้วยซ้าย บอลพุ่งข้ามกำแพงแต่ก็หลุดข้ามคานไปเหมือนกัน
อาซาร์ซัีีดหายแต่เบนซ์โดนจับล้ำก่อน
ราชันชุดขาวส่งบอลตุงตาข่ายอีกครั้งจากจังหวะที่เบนเซม่าแต่งบอลสุดสวยให้อาซาร์วิ่งมาซัดหาย แต่ไม่ทันได้เฮก็โดนจับล้ำหน้าไปอีกแล้ว โดยคราวนี้เป็นเบนเซม่าที่ยืนเหลื่อมแนวรับเอสปันยอล
ราชันหยุดสถิติไร้พ่ายแต่ยังนำฝูง
สุดท้ายจบเกมเอสปันยอลพลิกล็อคเปิดบ้านชนะมาดริดด 2-1 โดยได้ประตูจาก เด โตมาส,บิดัล มาดริดแพ้เป็นนัดแรกในฤดูกาลนี้และหยุดสถิติไร้พ่ายในลีก 25 นัดติด แต่ยังนำเป็นจ่าฝูงร่วมกับแอตเลติโก้
เรอัล มาดริด
Starting Formation: 4-3-3
25.
เอดูอาร์โด้ คามาวินก้า
46'
6
8.
โทนี่ โครส
61'
5.5
10.
ลูก้า โมดริช
61'
6
20.
วินิซิอุส จูเนียร์
72'
6.5
ตัวสำรอง
7.
เอแด็ง อาซาร์
72'
6
14.
คาเซมิโร่
61'
6.5
16.
ลูก้า โยวิช
61'
6.5
21.
โรดรีโก้
46'
6.5
แก้ไขล่าสุดโดย MEGITSAMA เมื่อ Sun Oct 03, 2021 23:21, ทั้งหมด 10 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ
: 0 ใบ
My Locker
