เห็นเพื่อ ที่จะเรียกว่าไร ออกแนวสลิ่มสายแอ๊บอวยพักกะล้า หรือพักกระฉอก เนี่ย โพสนี้อยู่ เริ่มคันไม้คันมืออยากรบเพื่อน ปากบอกไม่เชียร์ตู่แต่ยังกล้าอวยพวกวัคซีนสายซิโนแวค ใช้คำพูดเชิงพักกระฉอกสไตล์แมงสาบตีกินอยู่เลย

อ่านแล้วขำในความตื้นเขินของคนเขียนข่าว

เป็นอจ. ลูกศิษย์เยอะ แค่นี้ก้ self citation ไปเท่าไหร่แล้ว
้้้h index นับหมดนะ

ทีม ป.โทผมมีอยู่ 5 คน ออกกันคนละ 1-2 เปเปอร์
แค่นี้ผมก้ได้มาเยอะละ ส่วนรุ่นพี่ที่เริ่มโปรเจคคนแรก ได้ไปเท่าไหร่ก็ไม่รู้แล้ว ต้องอิงงานมันตลอด
ชื่ออจ. มีทุกเปเปอร์ ทวีคูณ +++

มันไม่ได้เป็นการปั่น citation นะบอกก่อน
แต่มันต้องrefer งานที่ทำมาก่อนๆ รวบรัดมา ไม่ใช่ยัดทุกอย่างตั้งแต่ต้น ทุกเรื่องลงเปเปอร์เดียว

อีกอย่าง คนละสายวิชาการ มันก็เทียบกันไม่ได้หรอก
ความถี่ของงานแต่ละงานมันไม่เหมือนกัน

บทความของที่เอามาอ้างEinstein titleคือ

Albert Einstein the mediocre: Why the h-index is a bogus measure of academic impact
รู้ใช่เปล่าbogus แปลว่าไร?

คนเขียนเป็น หมอผิวหนัง ที่เป็น End-stage Salim syndrome

ท็อปฟี่รสผลไม้

เข้ Index นี่มันทั้งค่า Int+Dex เลยนี่หว่า

H นี่ย่อมาจากอะไรครับนึกออกคำเดียวเอง

Fauci h index 223 นี่เอารางวัลไรดีครับ ละไปดูเปเปอร์ที่อ้างชื่อหมอยง ก็ชื่อหลังๆทั้งนั้น ไม่ใช่ชื่อแรก โดยปกติ งานวิจัยใน รร แพทย์ ก็ชอบเอา อ.แพทย์ อาวุโสในภาค มาใส่ในชื่อท้ายๆเกือบทุกงานวิจัยอยู่แล้ว จะมี index สูงก็ไม่แปลก แต่ใครคนทำเปเปอร์จริงๆ นั่นก็อีกเรื่อง

เยอะจริงๆ แต่ส่วนใหญ่น่าจะมาจากนักศึกษา (ซึ่งไม่ใช่เรื่องผิดอะไร)

ด้วยความสงสัยเลยเข้าไปดูของตัวเองบ้าง จบเอกมา 2 ปี H-index 3 เอง

Citation เยอะ ไม่เถียงนะ

แต่ถ้าวัดความน่าเชื่อถือของงานวิจัยจาก "ชื่อคนทำ"
ก็สอบตกตั้งแต่ข้อแรกแล้วละครับ

จะบอกให้ว่าเฟซส่วนตัวก็ไม่ให้คนอื่นเม้นนะ รีเซิร์ชอะไรที่เราสงสัยจะเข้าไปถามก็คงไม่ได้อยากตอบ

แค่อยากโดนอวย

Order66 กวาดล้างโควิดทั่วราชอาณาจักร

Hentai แน่นอน

มิน่าละ ไอ้หมอย ถึงหัวขาว นี่มันระดับ Ultra Instinct นี่เอง