เทพนิยายคัมแบ็ค?! ดอลเบิร์กยิงอีก 'โคนม' เชือดเช็ก 2-1 ทะลุตัดเชือก
เทพนิยายเดนส์อาจสร้างปรากฏการณ์อีกรอบ เมื่อเดนมาร์ก โชว์ฟอร์มเหนือกว่าในครึ่งแรกยิงตุนไว้ 2 ประตูจาก โธมัส เดลานี่ย์ และแคสเปอร์ ดอลเบิร์ก ทำให้แม้จะโดนพาทริค ชิก ยิงไล่มาครึ่งหลังก็ไม่เป็นไรรักษาสกอร์เชือด สาธารณรัฐเช็ก 2-1 เข้ารอบรองชนะเลิศ รอเจออังกฤษ หรือ ยูเครน
สาธารณรัฐเช็ก
Starting Formation: 4-2-3-1
3.
ออนเดรจ เซลุสต์ก้า
64'
6
9.
โทมัส โฮเลส
46'
6
10.
พาทริค ชิก
79'
7
13.
ปีเตอร์ เซฟซิค
79'
6
12.
ลูคัส มาโซปุสต์
46'
6
ตัวสำรอง
20.
มาเตจ วีดร้า
79'
6
11.
ไมเคิ่ล เคอร์เมนซิก
46'
6
8.
วลาดิเมียร์ ดาริด้า
79'
6
4.
ยาคุบ บราเบ็ค
64'
6
14.
ยาคุบ ยานค์โต้
46'
6
ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2020 รอบก่อนรองชนะเลิศ
สนาม บากิ โอลิมปิย่า สตาดิโอยู
เสาร์ที่ 3 กรกฏาคม 2564
กรรมการ บียอร์น คูเปร์
สาธารณรัฐเช็ก
1
2
เดนมาร์ก
0-1 โธมัส เดลานี่ย์ 5'
0-2 แคสเปอร์ ดอลเบิร์ก 42'
เดนมาร์กไม่เคยผ่านรอบ 8 ทีมนับตั้งแต่ได้แชมป์เมื่อปี 1992 โดยเกมนี้ไม่มีการปรับทัพตำแหน่งไหนเลยเอาชุดชนะเวลส์ลงสนามทั้งหมด กองหน้ามี แคสเปอร์ ดอลเบิร์ก เป็นตัวอันตรายทำให้ยุสซุฟ โพลเซ่น ต้องนั่งดูไปก่อน ส่วนเช็ก ปรับเพียงตำแหน่งเดียวโดย แยน บอริล กลับมาแทนตำแหน่งของพาเวล คาเดราเบ็ค
โคนมนำไว!เดลานี่ย์โขกโล่ง 1-0
เปิดเกมมาแค่ 5 นาที เดนมาร์ก ได้ประตูขึ้นนำอย่างรวดเร็ว เป็นจังหวะเตะมุมด้านขวาที่ ลาร์เซ่น เปิดย้อนออกมาตรงจุดโทษแล้ว เดลานี่ย์กระโดดเทคตัวโขกคนเดียวบอลตกลงพื้นก่อนพุ่งหนีมือวัคลิคเข้าประตูไป
ชิกลากยิงติดบล็อค
เช็ก ตอบโต้กลับมาบ้าง คูฟาลจ่ายบอลให้ชิกหลุดไปริมเส้นด้านซ้ายก่อนลากย้อนกลับมาเข้าตีนซ้ายแล้วยิงทันทีแต่บอลไปติดบล็อคก่อนออกหลังไป
ดัมส์การ์ดหลุดเดี่ยวติดเซฟวัคลิค
เกมสวนกลับเร็วของ โคนม เกือบได้ประตูหนีห่างเป็น ดัมส์การ์ดใช้ความเร็วควบไปเอาบอลของฮอยเบิร์กเข้าไปในกรอบเขตโทษด้านขวาแล้วจังหวะจิ้มไปโดนตัวของวัคลิคนิดนึงทำให้บอลเบาแล้ว คูฟาลกลับมาช่วยทัน
เดลานี่ย์กดไม่เต็มหลุดเสานิดเดียว
เกมทางขวาของเดนมาร์กผ่านตลอดจริงๆ คราวนี้ลาร์เซ่นเติมขึ้นมาก่อนจ่ายบอลมาตรงจุดโทษให้ เดลานี่ย์วิ่งเข้ามาวางเท้ายิงแบบไม่จับแต่โดนไม่เต็มบอลปลิ้นออกไปทางเสาแรก
แคสเปอร์แก้ตัวทัน!โฮเลสซัดมุมแคบติดเซฟ
แคสเปอร์ไปออกบอลพลาดโดนมาโซปุสต์ตัดได้ก่อนกระชากเข้าหากรอบเขตโทษแล้วจ่ายไปให้ โฮเลสพยายามควบมายิงมุมแคบด้วยซ้ายแต่แคสเปอร์ยังแก้ตัวปิดมุมไว้หมดแล้ว
เบรธเวตยิงผิดเหลี่ยม
ทางขวาของเดนมาร์กมาอีกแล้ว คราวนี้เป็นเบรธเวตลากบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษแล้วเงยหน้ามองเพื่อนแต่ไม่จ่ายจัดการยิงยัดมุมแคบทันทีแต่บอลออกหลังไม่ได้ลุ้นเลย
โฮเลสยิงดีไม่ผ่านแคสเปอร์
คูฟาลเติมขึ้นมาทางขวาก่อนเปิดบอลเข้ากลางบอลเลยเซฟซิคที่พยายามตีลังกายิงไปเข้าทางของโฮเลสวิ่งเข้ามาแปบอลไม่จับแต่ไปเข้าซองของแคสเปอร์ที่ปักหลักรับเอาไว้ไม่มีกระฉอก
ดัมส์การ์ดลากยิงไม่ผ่านวัคลิค
เกมแลกกันสนุกเลยกลับมาเป็นเดนมาร์ก ลุ้นประตูหนีห่าง เวสเตอร์การ์ดจ่ายบอลอย่างแม่นจากแดนหลังให้ดัมส์การ์ดลากเข้าไปในกรอบเขตโทษด้านขวาแล้วยิงทันทีแต่วัคลิคยืนรออยู่แล้วพุ่งไปทุบบอลเซฟเอาไว้ทัน
เมห์เล่เปิดเทพ!ดอลเบิร์กชาร์จเสาสอง 2-0
โคนม ได้ประตูหนีห่างจนได้ เริ่มจาก เวสเตอร์การ์ดวางยาวไปให้เมห์เล่หลุดขึ้นมาทางซ้ายก่อนเปิดไซ้ก้อยด้วยขวาบอลผ่านเบรธเวตไปแต่ยังมีดอลเบิร์กพุ่งเข้ามาชาร์จในกรอบ 6 หลาไม่เหลือ
แคสเปอร์ออกแรงสองทีติด
ลงมาไม่ทันไรเคอร์เมนซิก ได้ลองส่องก่อนเลยเป็นการลากบอลจี้แล้วยิงนอกกรอบโดนแคสเปอร์ เซฟเอาไว้ แล้วจังหวะต่อมาจากคอนเนอร์บอลกระดอนมาตั้งให้บารัคซัดนอกกรอบก็ยังโดนแคสเปอร์ปัดหลุดกรอบไปนิดเดียว
เช็กมาแล้ว!ชิกยิงตามน้ำไล่ 1-2
เช็กมาได้ประตูตีไข่แตกแล้ว ไม่ใช่ใครที่ไหนเป็น ชิก ที่ตวัดยิงบอลครอสของคูฟาล ก่อนลอดขาเวสเตอร์การ์ดเข้าประตูไป เป็นลูกที่ 5 ของเขาในทัวร์นาเมนต์ขึ้นนำเป็นดาวซัลโวร่วมกับคริสติอาโน่ โรนัลโด้
ซูเซ็คเซฟไม่งั้นโดนโพลเซ่น
นอร์การ์ดกับโพลเซ่นที่เพิ่งลงมาประสานงานกันเกือบได้ประตู โดยเป็นโพลเซ่นพลิกบอลมายิงได้แต่โดนซูเซ็คพุ่งเข้ามาขวางทั้งตัวแล้วเจ็บไปด้วยเพราะโดนปุ่มสตั๊ตเข้าที่ขมับซ้าย
โพลเซ่นซัดเข้าซองวัคลิค
โพลเซ่นได้โอกาสอีกแล้วเป็นจังหวะสวนกลับแล้วพยายามลากจี้จากกลางสนามเข้าหากรอบเขตโทษก่อนยิงไปตรงตัวของวัคลิคล้มตัวรับไม่มีปัญหา
ยานค์โต้ยิงยัดโดนเคียร์สกัดทิ้ง
วาสส์ที่เพิ่งลงสนามมาโขกเคลียร์ไม่ขาดบอลมาเข้าทางของยานค์โต้เกี่ยวบอลได้ก่อนซัดกึ่งยิงกึ่งผ่านไปหน้าปากประตูแต่เคียร์ยังแหย่เท้าสกัดเอาไว้ทัน
โพลเซ่นยิงอีกไม่ผ่านวัคลิค
วาสส์ลากบอลมาถึงหน้ากรอบเขตโทษแล้วไหลให้โพลเซ่นวิ่งเข้ามายิงด้วยขวาหน้ากรอบบอลพุ่งสวยแล้วแต่วัคลิค ยังไม่ยอมพุ่งปัดออกหลังไปก่อน
เมห์เลหลุดติดขาวัคลิค
เมห์เล่ วิ่งสอดมารับบอลจากโพลเซ่นหลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษด้านซ้ายแล้วพยายามแปยัดเสาแรกแต่วัคลิคยังกางขาออกไปบล็อคแบบหวุดหวิด
โคนมเบียด 2- 1 รอตัดเชือกที่เวมบลีย์
หมดเวลาการแข่งขัน เดนมาร์กตั้งรับเหนียวแน่นยันสกอร์เอาไว้อยู่ก่อนชนะ 2-1 พร้อมผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศเป็นม้ามืดตัวจริงเสียงจริง และต้องไปรอพบอังกฤษ หรือ ยูเครน ที่เวมบลีย์
เดนมาร์ก
Starting Formation: 3-4-3
6.
อันเดรส คริสเตนเซ่น
81'
7
8.
โธมัส เดลานี่ย์
81'
8
17.
เยนส์ สเตรเกอร์ ลาร์เซ่น
70'
7
12.
แคสเปอร์ ดอลเบิร์ก
59'
7
14.
มิคเคล ดัมส์การ์ด
59'
6.5
ตัวสำรอง
18.
แดเนี่ยล วาสส์
70'
6
15.
คริสเตียน นอร์การ์ด
59'
6
20.
ยุสซุฟ โพลเซ่น
59'
6
2.
โยอาคิม แอนเดอร์เซ่น
81'
6
24.
มาติอาส เยนเซ่น
81'
6
แก้ไขล่าสุดโดย ZONG'TEEN เมื่อ Sun Jul 04, 2021 01:02, ทั้งหมด 14 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ
: 0 ใบ
My Locker