ปาฏิหาริย์มีจริง! "โคนม" อัดหมีขาว 4-1 ทะยานเข้ารอบ
เดนมาร์ก ที่เหมือนจะมีโอกาสริบหรี่หลังแพ้มาทั้ง 2 นัดวันนี้สร้างปาฏิหาริย์สำเร็จด้วยการเอาชนะ รัสเซีย ไป 4-1 จากประตูของ มิคเคล ดัมส์การ์ด ช่วงครึ่งแรกและ ยุสซุฟ โพลเซ่น, อันเดรียส คริสเตนเซ่น รวมถึง โยอาคิม เมห์เล่ 3 ลูกรวดในครึ่งหลัง ทำให้พวกเขาทำได้ตามเงื่อนไขผ่านเข้าไปสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายในฐานะรองแชมป์กลุ่มแบบสุดดราม่าไปเจอกับ เวลส์ ส่วน รัสเซีย ก็ต้องกลับบ้านไป
รัสเซีย
Starting Formation: 3-4-2-1
13.
เฟดอร์ คูดรายาชอฟ
67'
6
7.
มาโกเม็ด ออซโดเยฟ
62'
6
23.
ดาเลอร์ คุซยาเยฟ
67'
6.5
15.
อเล็กเซ มิรันชุค
61'
6.5
17.
อเล็กซานเดอร์ โกโลวิน
6.5
ตัวสำรอง
4.
วียาเชสลาฟ คาราวาเยฟ
67'
6
9.
อเล็กซานเดอร์ โซโบเลฟ
61'
6
19.
ไรฟาต เซมาเลตดินอฟ
62'
6
26.
มัคซิม มุคฮิน
67'
6.5
ฟุตบอลยูโร 2020 รอบแบ่งกลุ่ม กรุ๊ป บี
สนาม พาร์เก้น สเตเดี้ยม
จันทร์ ที่ 21 มิถุนายน 2564
กรรมการ เกลม็องต์ ตูร์กแป็ง
รัสเซีย
1
4
เดนมาร์ก
1-2 อาร์เต็ม ซูบา 70' (Pen.)
0-1 มิคเคล ดัมส์การ์ด 38'
0-2 ยุสซุฟ โพลเซ่น 59'
1-3 อันเดรียส คริสเตนเซ่น 79'
1-4 โยอาคิม เมห์เล่ 82'
เกมนี้ รัสเซีย จะไม่มี ยูริ เซอร์คอฟ ที่น่าจะปิดฉากรายการนี้ไปแล้วหลังจากบาดเจ็บในนัดแรกแต่ มาริโอ เฟอร์นานเดส แบ็คขวายังจะกลับมาลงสนามได้แม้จะได้รับบาดเจ็บจนต้องเปลี่ยนตัวออกนัดที่แล้ว ที่เหลือไม่มีปัญหาน่าจะใช้ชุดเดิมเปลี่ยนแค่ตำแหน่งเดียว เฟดอร์ คูดรายาชอฟ กลายมาได้ลงเป็นตัวจริงแทน ดิมิทรี บารินอฟ
ฝั่ง เดนมาร์ก นอกจาก คริสเตียน อีริคเซ่น แล้วที่เหลือก็ไม่มีปัญหา มิคเคล ดัมส์การ์ด จะได้ลงเป็นตัวจริงต่อที่เหลือยังใช้ชุดเดิมจากเกมกับ เบลเยี่ยม
เดนมาร์ก ครองบอลบุดฝั่งเดียวแต่ยังไม่มีจังหวะได้ลุ้น
เกมเริ่มมา 10 นาทีแรกเป็นฝั่ง เดนมาร์ก ที่ครองบอลเยอะกว่าและพยายามโหมบุกฝั่งเดียวแต่สุดท้ายทั้งสองทีมยังไม่มีใครมีโอกาสได้เข้าทำสักครั้ง
โกโลวิน ลากมาซัดเองอย่างสวยแต่ ชไมเคิ่ล ยังเซฟได้
โอกาสลุ้นครั้งแรกของเกมกลายเป็นของ รัสเซีย เป็น โกโลวิน ได้บอลกลางสนามก่อนจะลากจี้ฝ่าเข้ากลางมาเองถึงในกรอบก่อนจะได้ล็อคเข้าขวาแล้วซัดกลางประตูเต็มๆบอลยังไปตรงตัวติดเซฟ ชไมเคิ่ล เด้งออกมา
ซูบา ได้ตวัดยิงในกรอบบอลไม่เข้าเป้า
กลายเป็นฝั่ง รัสเซีย ได้ลุ้นต่อเนื่อง มิรันชุค โยนบอลเข้าไปในกรอบให้ ซูบา ฝั่งขวาได้ตวัดยิงด้วยขวาแต่บอลยังล้นออกหลังไปไกลไม่ได้ลุ้น
ฮอยเบิร์ก ส่องไกลเน้นๆบอลพุ่งเฉียดเสานิดเดียว
โอกาสลุ้นครั้งแรกของ เดนมาร์ก วาสส์ พาบอลเติมขึ้นมาทางขวาก่อนจะเปิดให้ ฮอยเบิร์ก หน้ากรอบก่อนจะมีช่องได้กดด้วยขวาประมาณ 30 หลาบอลพุ่งแรงเฉียดเสาซ้ายออกไปนิดเดียว
โกโลวิน ได้จบอีกบอลก็ยังเหินข้ามคานไปไกล
จังหวะนี้ ซูบา โขกบอลตั้งให้ โกโลวิน ตรงกลางได้ลาดเข้าขวาแล้วซัดกลางประตูอีกแต่สุดท้ายก็ยังยิงไม่ดีบอลข้ามคานออกไปไกล
ดัมส์การ์ด ปั่นอย่างสวย! โคนม นำจนได้ 1-0
เดนมาร์ก มาได้ประตูขึ้นนำจนได้จากจังหวะที่ ฮอยเบิร์ก ทางขวาจ่ายบอลมาให้ ดัมส์การ์ด กลางประตูประมาณ 25 หลาจับบอลหนึ่งจังหวะแล้วปั่นด้วยขวาเน้นๆบอลโค้งเสียบเสาขวาเข้าไปอย่างสวย ซาโฟนอฟ ได้แต่มอง
เวสเตอร์การ์ด ได้ขึ้นโขกบอลหลุดเสาไปนิดเดียว
จากจังหวะเตะมุมฝั่งขวาของ เดนมาร์ก ฮอยเบิร์ก เปิดเข้ามาให้ เวสเตอร์การ์ด ได้ขึ้นโขกกลางประตูบอลเฉียดเสาไปนิดเดียว เดลานีย์ พยายามจะโขกต่อตามน้ำแต่ขึ้นไม่ถึง
ครึ่งหลังสองทีมผลัดกันครองบอลแต่ยังไม่จังหวะเพิ่ม
เริ่มครึ่งหลังมา รัสเซีย พยายามจะบุกเอาประตูคืนแต่ก็ยังทำอะไรไม่ได้ เดนมาร์ก ก็มีจังหวะได้พาบอลบุกเข้าใส่บ้างแต่ก็ยังไม่มีจังหวะได้ลุ้นเหมือนกัน
ซอบนิน แจกโชค! จ่ายให้ โพลเซ่น ยิงโล่งๆ โคนม นำ 2-0
จากจังวะที่เหมือนไม่มีอะไรเลยแล้วเป็น ซอบนิน ที่อยู่ฝั่งซ้ายจะจ่ายบอลคืนหลังให้ ซาโฟนอฟ แต่ดันไม่ตรงตัวเพื่อนไปเข้าทาง โพลเซ่น กลางประตูยืนคนเดียวโล่งๆได้แตะบอลหนีแล้วจิ้มง่ายๆไม่เหลือ
เมห์เล่ หาช่องได้จบแต่ยังเข้ามือ ซาโฟนอฟ
บุกมาชุดนี้ เดนมาร์ก มีหลายตัวในกรอบแล้วจังหวะสุดท้ายเป็น เมห์เล่ ที่ได้บอลแล้วหาช่องยิง
รัสเซีย ได้จุดโทษ ซูบา ซัดไม่เหลือ! รัสเซีย ไล่มา 1-2
รัสเซีย มาได้ประตูตีไข่แตกจากจังหวะที่ โซโบเลฟ โดน เวสเตอร์การ์ด ชนล้มในเขคโทษผู้ตัดสินชี้ให้เป็นจุดโทษทันทีแล้วเป็น ซูบา ที่วิ่งมาซัดเข้าไปไม่เหลือ รัสเซีย ไล่มาจนได้
ฮอยเบิร์ก ซัดฟรีคิกเข้าซอง ซาโฟนอฟ
เดนมาร์ก ได้ฟรีคิกนอกกรอบฝั่งซ้ายเกือบติดเส้นประมาณ 35 หลา แล้วเป็น ฮอยเบิร์ก ที่วิ่งมาซัดเองด้วยขวาบอลพุ่งแรงแต่ยังตรงตัว ซาโฟนอฟ รับติดมือ
คริสเตนเซ่น ส่องไกลหายเลย! โคนม นำห่างอีกหน 3-1
เริ่มจากจังหวะเตะมุมฝั่งขวา คริสเตนเซ่น โขกไปติดเซฟ ซาโฟนอฟ ไปทีหนึ่งแล้วบอลเล่นต่อไปอีกสักพักก่อนสุดท้ายมาถึงเจ้าตัวหน้ากรอบตรงหัวกระโหลกได้วิ่งมาซัดด้วยขวาบอลพุ่งเข้าไปตุงตาข่ายไม่เหลือ
เมห์เล่ สวนมาซัดหาย! โคนม ปิดเกมไปเลย 4-1
เดนมาร์ก มาได้ประตูต่อเนื่องอีกลูกจากจังหวะสวนกลับตั้งแต่กลางสนาม ฮอยเบิร์ก พาบอลมาก่อนจะแทงให้ เมห์เล่ ฝั่งซ้ายได้ลากเข้ากรอบแล้วล็อคเข้าซัดด้วยขวาบอลพุ่งเลียดเข้าไปไม่เหลือ
จบเกม โคนม สร้างปาฏิหาริย์อัด รัสเซีย 4-1 ทะลุเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย
เดนมาร์ก ที่เหมือนจะมีโอกาสริบหรี่หลังแพ้มาทั้ง 2 นัดวันนี้สร้างปาฏิหาริย์สำเร็จด้วยการเอาชนะ รัสเซีย ไป 4-1 ทำให้พวกเขาผ่านเข้าไปสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายในฐานะรองแชมป์กลุ่มแบบน่าเหลือเชื่อไปเจอกับ เวลส์
เดนมาร์ก
Starting Formation: 3-4-2-1
18.
ดาเนียล วาสส์
60'
7
8.
โธมัส เดลานีย์
86'
7
9.
มาร์ติน เบรธเวท
85'
7
14.
มิคเคล ดัมส์การ์ด
72'
7.5
20.
ยุสซุฟ โพลเซ่น
60'
7.5
ตัวสำรอง
12.
แคสเปอร์ โดลเบิร์ก
60'
6.5
15.
คริสเตียน นอร์การ์ด
72'
6
17.
เยนส์ สไตรเกอร์ ลาร์เซน
60'
6.5
21.
อันเดรียส คอร์เนลิอุส
85'
-
24.
มาธิอัส เยนเซ่น
86'
-
แก้ไขล่าสุดโดย Salinger เมื่อ Tue Jun 22, 2021 04:46, ทั้งหมด 25 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ
: 0 ใบ
ชนะนัดเดียวก็เข้ารอบได้เฟ้ยยยย 
My Locker
