ขอพูดถึงแค่ความฟิต จะแก้ไงบ้าง ใน ขณะนี้ เอาแค่นี้ก่อนนะครับ

วิทยาศาสตร์การกีฬา กายภาพ ?
วินัย อาหารการกิน ดูแลตัวเอง ความทุ่มเท ?
เทคโนโลยี อื่นๆ ที่บ้านเรายังไม่มี ?
หรือยกแผงใหม่ตั้งแต่ ระดับเยาวชน ชุดใหญ่ก็ปล่อยๆมันไป ?

อดีตถึงปัจจุบัน ทำไมมันแก้ไม่หาย

โภชนาการ - ต้องทำงานกับกรมพละ เพราะมันถ้าจะเอาจริงต้องเริ่มตั้งแต่ 12 ขวบ

วิ่งระยะไกล - มาราธอนตั้งแต่ 3 โล 5 โล 10 โล 20 โล ตามอายุ

สปีดต้นระยะสั้น - การทดสอบวิ่งเพิ่มระยะความเร็ว (Multistage Fitness Test) / Beep Test

แรงปะทะ - เข้ายิม

มันไม่ใช่แค่ แคมป์ทีมชาติหรือสโมสร ตอนไม่ได้ทำงานก็ต้องดูแลตัวเอง เรื่องการกิน การพักผ่อน
ช่วงปิดซีซั่นต้องไปซ้อมแยกมีโค้ชส่วนตัว ถ้าไม่เก่งเหมือนต่างชาติ สรีระด้วยกว่าก็ต้องพยายามมากกว่าเค้า

ถึงปรับโปรแกรมซ้อมให้หนักเท่าญ่ีปุ่นแต่ถ้าซ้อมกันเหยาะแหยะ ก็ไม่เป็นผลหรอก ในแคมป์ถ้ามีคนขี้เกียจกลุ่มนึงก็จะพาเพื่อนขึ้เกียจไปด้วย มันต้องตอสู้แย่งตำแหน่งกันเองไม่ใช่ ตัวสำรองคิดว่าก็ซ้อมแค่นี้พอ ยังไงก็ไม่ได้เป็นตัวหลัก มันไม่เกิดการพัฒนา

อยากรู้เหมือนกันว่านักบอลไทยมีเก็บสถิติความฟิตแบบลีคต่างประเทศมั้ย
เห็นทุกฤดูกาลเลย วันแรกเก็บตัวจะต้องให้วิ่งรอบสนามจนกว่าจะหมดแรงแล้วเก็บตัวอย่างในหูนักเตะอะครับ
ของเราได้มีแบบนั้นมั้ย และค่าความฟิตมาตรฐานของนักเตะทีมชาติไทยคือเท่าไหร่

วินัย คำเดียวจริงๆ ต่อให้มีขั้นตอน กระบวนการ ต่างๆ ถ้าวินัย ไม่มีคือจบ


สมมติ อยากให้วิ่ง 10กิโล บอกเยอะไป ซ้อม3มื้อ บอก2พอ แค่นั้นแหละ

วินัยส่วนตัวสำคัญสุด ไม่ใช่ว่าทำแต่ตามโปรแกรมที่ทีมวางไว้ นอกเวลาก็ต้องสร้างด้วยตัวเองด้วย

ผมเชื่อว่าวิทยาศาสตร์กีฬาไทยไปไกลพอสมควรแล้ว ผมอยู่ในวงการ ฟิตเนส ออกกำลังกาย ลดน้ำหนัก ผมว่าในไทยพัฒนาไปไกลมาก ผมเห็น BG จ้างโค้ชฟิตเนสคนนึงที่เก่งมาก เรื่องกายวิภาค และการจัดตาราง ไปดูช่องคิดไซต์โค้งหัวข้อประมาณว่า เอานักเพาะกายมาสอนนักบอล คนนั้นแหละเก่งมากๆเลยที่BGจ้าง

แต่ผมบอกเลย พัฒนาร่างในยิมได้ แต่ถ้าระบบการเล่น ยังใช้การเคลื่อนที่น้อย ความฟิตก็จะไม่พัฒนาครับ

ผมยกตัวอย่างง่ายๆ คือ เจอเก้นเพรส ของคล็อปนี่ มาปีสองปีแรก นักฟุตบอลระดับลีคอังกฤษ ที่ร่างกายดูแลอย่างดี ยังมีหมด ท้ายๆฤดูกาลเลย มันไม่ไหวจริงๆ มันต้องใช้เวลา

แล้วบ้านเรา บอลเล่นไม่เพรส เคลื่อนที่ไม่เยอะ ค่าเฉลี่ยอยู่ 7-8 กิโลต่อเกมส์ ญี่ปุ่นเค้าล่อไป 10กิโลต่อเกมส์โดยเฉลี่ย แปลว่าถ้าเราเอา นักกีฬาสองคนนี้มาวิ่งเพรสเหมือนๆกัน คนแรกจะหมดแรงก่อน และก่อนหมดแรงคือล้าก่อน พอล้าคุณภาพการเล่นก็ตกอีก มันเป็นลูกโซ่กันอะครับ

ถ้ายังวิ่งระดับ 10-11 โลต่อเกมส์ไม่ได้ บอลไทยจะถูกจำกัดวิธีการเล่นมากขึ้นๆ เพราะบอลสมัยใหม่เค้าเน้นเคลื่อนที่เยอะกันหมดแล้ว
บอลไทยยังมีมิดฟิล์มเชิงสูงเคลื่อนที่น้อยเล่นในลีคได้อยู่เลย แต่พอเรามองระดับโลก เดอบรอยน์ งี้ เชิงก็สูง แต่เค้าเคลื่อนที่ได้มากกว่ามิดฟิลเชิงสูงของไทยอีก เห็นบรูโน่มั้ยครับ เชิงสูงเหมือนกัน วิ่งแบบแบกถังอ๊อกซิเจนอะ ยกตัวอย่างให้เห็นภาพเฉยๆนะครับ


แต่ย้ำอีกทีสุดท้าย มันอยู่ที่ว่า ถ้าพูดถึงฟุตบอลทีมชาติ มันก็ต้องมาคิดว่าแล้วตกลงเราอยากเล่นฟุตบอลแบบไหนแค่นั้นแหละ เคลื่อนที่น้อยผิดมั้ยก็ไม่น่ะ แต่ก็ต้องหาโค้ชที่เล่นระบบแบบนี้ ต้องตัดสินใจให้ได้ แล้วลุยให้สุด อย่าเก้กังๆ เดี่ยวบอลระบบ เดี่ยวบอลบุก เดี่ยวบอลอุด มันมั่วมากๆ และมันจะล้าหลังชาวบ้านที่เค้าโฟกัสอยู่
ถ้าจะเอาญี่ปุ่นมาเล่น มันก็ต้องพื้นฐานให้ได้ขั้นต่ำของญี่ปุ่นก่อนโดยเฉพาะร่างกายและความฟิต ไม่รวมสมองฟุตบอลที่จะรับระบบเข้าไป

ในเเคมป์ทีมชาติ ในสโมสรมันคอนโทรลได้ เเต่เวลานอกเหนือจากนั้นอะ วินัยของนักเตะเเต่ละคนมีมากน้อยขนาดไหน ผมว่าเรื่องเทคโนโลยีเเละวิธีการมันน่าจะทันกันหมดเเล้วแหละครับ

เท่าที่อ่านจากทุกท่านมา ส่วนใหญ่สรุปไปทาง ตัวนักเตะเอง คือ ความมืออาชีพ และวินัย ก็ว่าทำไมมันแก้ยากมาก